Advertisement
|
รัชกาลที่ 5 เสด็จลงสรงน้ำบริเวณน้ำตกธารเสด็จ |
|
|
วันที่ 23 ต.ค.ของทุกปี เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่ง ที่ปวงชนชาวไทยไม่เคยลืมเลือน เพราะเป็นวันครบรอบวันสวรรคตของล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์จักรี "พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว" หนึ่งในกษัตราธิราชผู้ทรงคุณูปการแก่บ้านเมืองของเราอย่างหาที่สุดมิได้
และเพื่อเป็นระลึกถึงพระองค์ในแบบฉบับของ "ตะลอนเที่ยว" ทริปนี้จึงขอเที่ยวตามรอยการ "เสด็จประพาสน้ำตก" ของล้นเกล้า ร.5 ตามไปดูว่าสถานที่แต่ละแห่งนั้นงดงามเพียงใด จอมกษัตริย์ของไทยจึงทรงเสด็จเยือน
3 สายธาร บนเกาะพงัน
ย่ำเท้าลงใต้ไปอยู่ "เกาะพงัน" จ.สุราษฏร์ธานี กันก่อน เพียงเฉพาะที่เกาะพงันแห่งเดียว ก็ปรากฏหลักฐานว่ามีน้ำตกที่ล้นเกล้า ร.5 เคยเสด็จประพาสทั้งสิ้นถึง 3 แห่งด้วยกัน
น้ำตกแห่งแรกที่ "ตะลอนเที่ยว" จะพาไปตามรอยเสด็จประพาสของล้นเกล้า ร.5 บนเกาะพงัน คือ “น้ำตกธารเสด็จ” ปัจจุบันตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติน้ำตกธารเสด็จ อ.เกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี ห่างจากฝั่ง จ.สุราษฎร์ธานีประมาณ 100 ก.ม. ปัจจุบันเราสามารถเดินทางกันได้สะดวกเพราะมีเรือโดยสาร ทั้งประเภทเรือด่วน เรือนอน เและเรือเฟอร์รี่ เพื่อข้ามไปยังเกาะพงัน แต่หากย้อนไปเมื่อ 100 กว่าปีก่อนนี้ ก็ต้องยกย่องว่าพระองค์ทรงวิริยะอย่างยิ่งที่เสด็จไปยังเกาะพงัน
เรื่องราวระหว่างล้นเกล้า ร.5 กับน้ำตกธารเสด็จ เริ่มขึ้นเมื่อโปรดเสด็จน้ำตกในเกาะพงัน มีปรากฏในแผนที่บอกแต่ว่ามีน้ำจืด ครั้นเสด็จไปทอดพระเนตรเห็นเป็นลำธารใหญ่ จึงเป็นที่สนุกสนาน จึงพระราชทานนามว่า "ธารเสด็จ" เป็นที่โปรดเสด็จประพาสตลอดรัชกาล โปรดฯ ให้ช่างสลักปีจุลศักราชที่เสด็จไว้ที่ชะง่อนหินทุกครั้ง
ทรงเสด็จประพาสน้ำตกธารเสด็จ รวม 14 ครั้ง ระหว่างปี พ.ศ. 2432-2452 ปรากฏตามหลักฐานที่ทรงจารึกไว้ที่ก้อนหินบริเวณใกล้ๆ น้ำตกธารเสด็จ ทั้งพระปรมาภิไธยย่อ จปร. ตัวเลข และตัวอักษรต่าง ๆ ที่มีจารึกไว้นับ 10 แห่ง
น้ำตกแห่งนี้เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของเกาะพงัน ชาวเกาะพงันถือกันว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นอกเหนือจากล้นเกล้า ร. 5 แล้ว ต่อมายังปรากฏว่า ร. 6, ร. 7 และในหลวงรัชกาลปัจจุบัน ก็เคยเสด็จที่น้ำตกแห่งนี้เช่นกัน
|
|
ภาพของน้ำตกธารเสด็จในปัจจุบัน |
|
|
น้ำตกแห่งที่2 คือ "น้ำตกธารประพาส" เป็นน้ำตกแห่งที่2 ของเกาะพะงันที่ได้รับพระราชทานนามจาก ร. 5 เมื่อคราวเสด็จประพาสรอบอ่าวบ้านดอน เมื่อปี พ.ศ. 2432 น้ำตกแห่งนี้ เป็นน้ำตกขนาดเล็กปลายน้ำไหลลงทะเลที่อ่าวธารประพาส
มีจารึกพระปรมาภิไธยย่อ และจารึกตัวอักษร 2 จุด คือ จารึกอักษรคำว่า ธารประพาส อยู่บริเวณปลายน้ำตก ปัจจุบันตัวอักษรถูกเซาะจนเลือนออกหมดแล้ว เพราะอยู่ในบริเวณ ทางน้ำไหลผ่าน ส่วนจารึกพระปรมาภิไธยย่อ จปร.108อยู่บริเวณต้นน้ำธารประพาส ห่างจากจารึกที่ปลายน้ำตกประมาณ 1 ก.ม.
อีกแห่งหนึ่ง คือ "น้ำตกธารประเวศ" เป็นน้ำตกแห่งที่ 3 ของเกาะพงันที่ได้รับพระราชทานนามจากร.5 เมื่อคราวเสด็จประพาสรอบอ่าวบ้านดอน เมื่อปี พ.ศ. 2441 มีจารึกพระปรมาภิไธยย่อและจารึกตัวอักษร อยู่ 2 จุด จารึกอักษรคำว่า ธารประเวศ อยู่บริเวณปลายน้ำตกบนก้อนหินใหญ่ข้างภูเขาสูงชัน ปัจจุบันคำว่า ธาร ค่อนข้างลบเลือน
นอกจากการเสด็จประพาสน้ำตกแล้วนั้น การที่เกาะพะงันอุดมสมบูรณ์ด้วยสัตว์นานาชนิดทั้ง กวางป่า หมูป่า ลิง ค่าง กระรอก กระแต อีเห็น ชะมด และหนูชนิดต่างๆ โดยเฉพาะกวางป่าที่มีมากมาย ก็เพราะชาวเกาะพะงันได้รับพระราชทานจากร. 5 ทั้งเมื่อเสด็จมายังทรงปล่อยกวางเพศผู้และเพศเมีย อย่างละ 1 ตัว เมื่อครั้งเสด็จประพาสน้ำตกธารเสด็จไว้บนเกาะอีกด้วย
|
|
น้ำตกธารมะยม แห่งเกาะช้างอีกหนึ่งแห่งที่ ร.5 ทรงโปรด |
|
|
น้ำตกธารมะยม เกาะช้าง
“ตะลอนเที่ยว”ยังคงพาวนเวียนอยู่บนเกาะ แต่ย้ายกันมาที่ "เกาะช้าง" จ.ตราด เพื่อมาเล่นน้ำกันที่ "น้ำตกธารมะยม" เดิมเรียก "น้ำตกคลองมะยม" เพราะตั้งอยู่ใกล้คลองมะยม ปัจจุบันตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง
น้ำตกแห่งนี้น้ำตกขนาดกลาง มี 4 ชั้น ธารน้ำไหลผ่านลงมาเป็นชั้นๆ ตามร่องหินแกรนิตสีดำ มีหน้าผาสูงชันจนเกือบตั้งฉาก โอบรอบป่าดงดิบ บริเวณชั้นที่ 1 น้ำตกไม่สูงนัก มีแอ่งน้ำด้านหน้ามีแผ่นหินจารึกพระปรมาภิไธยล้นเกล้าร. 5 ตั้งอยู่ทางด้านซ้าย น้ำตกชั้นที่ 2 อยู่เลยขึ้นไปเล็กน้อย สำหรับน้ำตกชั้นที่ 3 และ 4 ระยะทางค่อนข้างไกลและทางเดินลำบาก ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง
ตามเอกสารหลักฐานระบุว่า พระองค์ได้เสด็จมาถึง 9 ครั้ง แสดงให้เห็นว่าเป็นสถานที่ที่พระองค์ทรงโปรดมากทั้งนี้ โปรดให้บันทึกบรรยายความงามของน้ำตกธารมะยมไว้อย่างละเอียด และมีการจารึกพระปรมาภิไธยย่อ " จ.ป.ร. " ไว้ที่น้ำตกทั้ง 3 ชั้น
|
|
พระปรมาภิไธยย่อ จปร. ที่สลักไว้บริเวณน้ำตกธารมะยม |
|
|
ข้อมูลจากหนังสือวัฒนธรรม พัฒนาการทางประวัติศาสตร์ เอกลักษณ์และภูมิปัญญา จังหวัดตราด ยังระบุไว้ถึงการเสด็จประพาสของพระองค์ในครั้งที่ 2 พ.ศ. 2419 ด้วยว่า นอกจากทรงจารึกพระปรมาภิไธย และปีที่เสด็จแล้ว พระองค์ทรงทำ " เกรน " หรือกองศิลา ไว้เป็นที่ระลึกแห่งหนึ่งใกล้ๆ บริเวณน้ำตก โดยทรงพระราชหัตถเลขาว่า
" เราสมเด็จพระปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าเจ้าแผ่นดินสยาม รัชกาลที่ 5 ได้มาถึงที่นี้ 2 ครั้งๆ หนึ่งเมื่อปีระกา เบญจศก จุลศักราช 1235 กับครั้งนี้วัน 4 ฯ 2 ค่ำ ปีชวด อัฐศก ศักราช 1238 เราทั้งปวง บรรดาที่มาพร้อมกันได้ลงชื่อไว้ท้ายหนังสือนี้ " พร้อมทั้งลงพระพระปรมาภิไธยของพระองค์และพระบรมวงศานุวงศ์ที่ตามเสด็จ
เสร็จแล้วพับแผ่นกระดาษนั้นบรรจุในกล่องตลับยาสูบเงินนอก แล้วใส่ลงในถ้วยน้ำชาที่มีตราประจำพระองค์ พร้อมเอาจานปิดทับข้างบนไว้ วางถ้วยลงบนพื้นหินและเอาหินก้อนเล็กก้อนใหญ่วางทับไว้ ต่อมา มีการค้นหาเกรนแห่งนี้ แต่ไม่พบร่องรอยแต่อย่างใด ร.6, ร.7 และรัชกาลปัจจุบันก็เคยเสด็จประพาสมายังน้ำตกแห่งนี้เช่นกัน
|
|
น้ำตกพลิ้วที่งดงามต้องพระทัยอีกแห่งหนึ่ง |
|
|
2 สายน้ำงาม แห่งเทือกเขาสระบาป จ.จันทบุรี
กลับจากเกาะมาขึ้นฝั่งกันบ้าง "ตะลอนเที่ยว" ขอพามาตามรอยล้นเกล้าร.5 เสด็จประพาส “น้ำตกพลิ้ว” ที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ในเขตเทือกเขาสระบาปซึ่ง ร. 5 เสด็จประพาสถึง 4 ครั้งจากการเสด็จเยือนเมืองจันทรบุรี 12 ครั้ง ระหว่างปี พ.ศ. 2417-2424
"น้ำตกพลิ้ว" มีข้อสันนิษฐานว่า ชื่อ "พลิ้ว" เป็นชื่อของต้นไม้ชนิดหนึ่งซึ่งชอบขึ้นในที่ดินปนทราย เป็นไม้เถา มีดอกเป็นช่อ มี ผลเล็กขนาดลูกเกด สีเหลืองอมแดงขึ้นอยู่ทั่วไปในแถบนี้ หรืออีกหนึ่งข้อสันนิษฐานคือชื่อ "พลิ้ว" มาจากภาษาชอง ซึ่งเป็นเผ่าดั้งเดิมของเมืองจันท์ แปลว่า ทรายหรือหาดทราย
ลักษณะของตัวน้ำตกแบ่งเป็น 3 ชั้น มีสายน้ำตกแบ่งเป็น 2 สายในช่วงหน้าฝน และหดรวมเหลือสายเดียวในฤดูแล้ง สายหนึ่งไหลลดหลั่นผ่านซอกหินผา อีกสายหนึ่งมีขนาดเล็กกว่า แต่ทิ้งตัวลงมาจากผาสูง 20 เมตร น้ำตกจากผาสูง จะไหลตกลงมาสู่แอ่งน้ำใสขนาดใหญ่ชั้นล่างสุด แอ่งน้ำใสนี้มีปลาพลวงหิน ฝูงใหญ่แหวกว่ายรายล้อมอยู่รอบ น้ำตกพลิ้ว ยังมีตัว "ลั้ง" (ภาษาถิ่น) หรือ ตะกอง หรือกิ้งก่ายักษ์ เป็นกิ้งก่าขนาดใหญ่ที่สุดที่พบในเมืองไทยอาศัยอยู่ด้วย
นอกเหนือจากความงดงามของตัวน้ำตกพลิ้วแล้วนั้น ที่แห่งนี้ยังมีความเชื่อมโยงด้านประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวกับล้นเกล้า ร.5 อีกมากมาย ทั้ง "สถูปพระนางเรือล่ม"อนุสรณ์สถานแห่งความรักของรัชกาลที่ 5 ที่ทรงมีต่อสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ เป็นที่บรรจุพระอังคารของพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ (พระนางเรือล่ม) ซึ่งเคยเสด็จประพาสน้ำตกพลิ้ว เมื่อ พ.ศ. 2417 สถูปสร้างขึ้นในปีพ.ศ.2424 ภายในบรรจุพระบรมราชสรีรางคาร (เถ้ากระดูก) ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ
|
|
อลงกรณ์เจดีย์ เขียวครึ้มตระหง่านที่น้ำตกพลิ้ว |
|
|
ทั้งยังเป็นที่ตั้งของ "พระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์" ที่เพิ่งสร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2551ที่ผ่านมา โดยความร่วมมือของสมาคมชาวจันทบุรีฯกับชาวเมืองจันท์
และเป็นที่ตั้งของ "อลงกรณ์เจดีย์" มีลักษณะเป็นเจดีย์ศิลาแลง ร.5 โปรดให้พระยาจันทบุรีเป็นแม่กองสร้างเมื่อ พ.ศ. 2419 เนื่องจากทรงชื่นชมโสมนัสในความงดงามของน้ำตกแห่งนี้เป็นอย่างยิ่ง ทรงยกย่องว่าเป็นน้ำตกที่งดงามที่สุดในบรรดาน้ำตกที่พระองค์เคยเสด็จประพาส
พระองค์ทรงโปรดน้ำตกพลิ้วเป็นอย่างยิ่ง ทรงโปรดมากถึงกับมีพระราชดำรัสว่า " เราได้เห็นน้ำตกอย่างนี้มาสองสามแห่ง คือที่ปีนัง เกาะช้าง และสีพยา เห็นไม่มีที่ไหนจะงามกว่าที่นี่เลย ถ้าจะให้เรานั่งดูอยู่ยังค่ำก็แทบจะได้ด้วยเย็นสบายจริง”
|
|
น้ำตกคลองนารายณ์ |
|
|
มนต์เสน่ห์ของน้ำตกในเมืองชายฝั่งทะเลตะวันออกแห่งนี้ยังไม่หมด เพราะยังมี "น้ำตกคลองนารายณ์" อีกแห่งหนึ่งที่ ร. 5 เสด็จประพาสเยือน คราวเสด็จประพาสจันทบุรี พ.ศ.2419 ย้อนร้อยครบรอบ 132 ปี ในปีนี้พอดี
"น้ำตกคลองนารายณ์" ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง ต้องเดินลัดเลาะผ่านป่าซึ่งยังคงความอุดมสมบูรณ์และความงดงามตามธรรมชาติ สายน้ำตกสูง 25 เมตร น้ำใสสะอาดและมีน้ำมากตลอดปี
ร. 5 เสด็จตามรอยของพระราชบิดา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ร.4 ที่เคยเสด็จมา ณ น้ำตกคลองนารายณ์พร้อมทั้งได้สร้าง " จุลสีห์จุมภตเจดีย์ " เป็นอนุสรณ์ ปัจจุบันเหลือเพียงร่อยรอยบริเวณที่เคยเป็นพระเจดีย์ เพราะได้ถูกระแสน้ำพัดพังไปเมื่อปี 2517
จุดสำคัญอีกแห่งหนึ่งของน้ำตกแห่งนี้คือบริเวณ “อ่างสรงหรืออ่างหงส์” มีลักษณะเป็นน้ำตกเล็กๆ ไหลลงมาจากหน้าผาหินเป็นทางคล้ายหางหงส์ ในอดีตบริเวณแอ่งน้ำกว้าง ร. 4 และ ร.5 ทั้งสองพระองค์ทรงเคยเสด็จลงสรงน้ำ ณ อ่างสรงแห่งนี้
|
|
ไทรโยคใหญ่ที่มาของบทเพลงเขมรไทรโยค |
|
|
น้ำตกไทรโยค จ.กาญจนบุรี
ตามรอยเสด็จประพาสมาที่ “น้ำตกไทรโยค” จ.กาญจนบุรีกันบ้าง ซึ่งจากหลักฐานที่บันทึกวระบุว่า ล้นเกล้า ร.5 เคยเสด็จประพาส ณ น้ำตกไทรโยคใหญ่ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 3 พ.ศ. 2420 ปีฉลู
“น้ำตกไทรโยคใหญ่” หรือเรียกอีกชื่อว่า “น้ำตกเขาโจน” ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติไทรโยค เนื่องจากเป็นน้ำตกที่ไหลตกลงจากหน้าผาลงสู่แม่น้ำแควน้อยราวกับกระโจนลงมา น้ำตกไทรโยคใหญ่จะมีน้ำตลอดปี และน้ำจะแรงมากในฤดูฝนลักษณะของ น้ำตกไทรโยคใหญ่ เป็นน้ำตกแห่งเดียวในประเทศไทย ที่ตัวน้ำตกไหลจากหน้าผาลงสู่แม่น้ำแควน้อย และทางกรมป่าไม้ได้ปลูกต้นสักโดยรอบน้ำตกด้วย
ความงดงามของน้ำตกแห่งนี้ยังเป็นที่มาของเพลง เขมรไทรโยค ที่สมเด็จเจ้าฟ้า กรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ ทรงนิพนธ์ในคราวที่ตามเสด็จ ร.5 เสด็จประพาสต้นยังน้ำตกไทรโยค จึงการันตีได้มาน้ำตกแห่งนี้คงงดงามจริงๆ ถึงขั้นต้องพระทัยพระบรมวงศานุวงศ์ของไทย จนกลั่นกรองออกมาเป็นบทเพลงอันอมตะ
|
|
น้ำตกกะโรม ซุกซ่อนในป่างาม |
|
|
น้ำตกกะโรม จ.นครศรีธรรมราช
ปิดท้ายด้วยการวกลงใต้กับอีกครั้งไปที่ “น้ำตกกะโรม” จ. นครศรีธรรมราช ปัจจุบันตั้งอยู่ภายในบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาหลวง ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 4 ต.เขาแก้ว อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช
“น้ำตกกะโรม” มีทั้งหมด 19 ชั้นด้วยกัน เปิดบริการให้ท่องเที่ยวชมความงดงาม 7 ชั้น คือ หนานทุเรียน หนานช่องไทร หนานไผ่ หนานน้ำราง หนานผึ้ง หนานเตย และ “หนานดาดฟ้า” ซึ่งเป็นชั้นที่สวยงามที่สุด แลเห็นสายน้ำไหลพรั่งพรูลงจากหน้าผาสูงและลาดชัน 45 องศา ลดหลั่นลงมาตามโขดหินกว้างจนถึงแอ่งน้ำใหญ่เบื้องล่างที่สามารถลงเล่นน้ำได้ ตามปกติสายน้ำจะไหลแยกเป็น 2 สาย พอถึงช่วงหน้าฝนสายน้ำจะไหลหลากแผ่เต็มหน้าผารวมเป็นสายเดียว
น้ำตกแห่งนี้ล้นเกล้า ร.5 และ ร.6 ทรงเสด็จประพาสเยือนเมื่อครั้งเสด็จหัวเมืองปักษ์ใต้ ทรงจารึกพระปรมาภิไธยย่อ จ.ป.ร และ ว.ป.ร ไว้ที่หน้าผา ตรงที่เรียกว่า “หนานดาดฟ้า” เป็นชั้นที่ 3 ของน้ำตกแห่งนี้และ ร.6 ได้ทรงนำน้ำตกนี้ไปเป็นฉากในบทละครเรื่อง "หลวงจำเนียรเดินทาง" พระราชนิพนธ์ของพระองค์อีกด้วย
น้ำตกเหล่านี้ จึงเป็นน้ำตกที่มีมากกว่าความงดงามตามธรรมชาติ เพราะล้วนแฝงฝังด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ เป็นเสน่ห์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว.
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“อุทยานแห่งชาติน้ำตกธารเสด็จ” ตั้งอยู่ที่ 108 หมู่ 3 ต.เกาะพะงัน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี 84280 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-7723-8275 หรือ ติดต่อ งานบริการบ้านพัก ส่วนอุทยานแห่งชาติทางทะเล สำนักอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ กรมป่าไม้ ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทร. 0-2561-2919-21
“น้ำตกธารมะยม”สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง 23/7 หมู่ 3 ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ. ตราด 23170 โทร. 0-3955-5080
“น้ำตกไทรโยคใหญ่” สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติไทรโยค โทร. 0- 3451- 6163 และที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช บางเขน กรุงเทพฯ โทร. 0 2562 0760
"อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว" ตั้งอยู่ที่ ต.พลิ้ว อ.แหลมสิงห์ จ.จันทบุรี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร.0-3943-4528
“น้ำตกกะโรม” สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงาน ททท.ภาค.ใต้ เขต 2 โทร.0-7534-6515-6 หรือสอบถามข้อมูลได้ที่ โทร.1672
|
http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9520000125638
วันที่ 21 ต.ค. 2552
Advertisement
เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,156 ครั้ง เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,146 ครั้ง เปิดอ่าน 7,161 ครั้ง เปิดอ่าน 7,161 ครั้ง เปิดอ่าน 8,102 ครั้ง เปิดอ่าน 7,149 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,155 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,138 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,154 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,144 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,136 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,137 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,218 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 14,071 ครั้ง |
เปิดอ่าน 78,178 ครั้ง |
เปิดอ่าน 18,364 ครั้ง |
เปิดอ่าน 10,631 ครั้ง |
เปิดอ่าน 12,641 ครั้ง |
|
|