ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

เปิดตำนาน.... มงกุฎนางสาวไทย จากอดีตสู่ปัจจุบัน


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 6,422 ครั้ง
เปิดตำนาน.... มงกุฎนางสาวไทย จากอดีตสู่ปัจจุบัน

Advertisement

เปิดตำนาน มงกุฎนางสาวไทย จากอดีตสู่ปัจจุบัน

นางสาวไทย 

กาลเวลาผันผ่านมากว่า 7 ทศวรรษ สำหรับการประกวด "นางสาวไทย" เวทีอันทรงเกียรติของสาวงามที่เพียบพร้อมด้วยความงาม ความสามารถ และไม่ว่ายุคสมัยใด อีกหนึ่งสิ่งที่งดงามและอยู่คู่เวทีและสาวงาม ก็คือ "มงกุฎ" รางวัลอันเป็นสัญลักษณ์แสดงถึงความงดงาม ความสามารถของสาวไทยผู้ครอบครอง โดยแต่ละยุคสมัยได้มีวิวัฒนาการการออกแบบที่สวยงามต่างกันไป ตั้งแต่ยุคนางสาวสยามต่อมาเป็นนางสาวไทย จนถึงปัจจุบันในยุค ที่ 6 ซึ่งสนับสนุนโดยสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ และกำลังเฟ้นหาผู้ครองมงกุฎคนใหม่ คนที่ 45 ภายใต้แนวคิด "ทอแสงงามแห่งจิตใจ" ในวันที่ 28 ตุลาคมนี้ ณ โรงละครอักษรา และชมการถ่ายทอดผ่านโมเดิร์นไนน์ทีวี ในเวลา 22.15 น. ของคืนวันเดียวกัน

การประกวดนางสาวไทย แบ่งจนถึงปัจจุบันได้ทั้งสิ้น 6 ยุค การออกแบบมงกุฎมีความแตกต่างกันไป ยุคที่ 1 พ.ศ. 2477 - พ.ศ. 2483 มงกุฎทำจากผ้าปัก เป็นผ้ากำมะหยี่ ปักด้วยดิ้นเงินดิ้นทองเป็นลวดลายไทยต่างๆ เช่น ลายกนก ลายประจำยาม ประดับเพชรให้ดูระยิบระยับ ออกแบบจัดทำโดยกรมศิลปากร เป็นแบบแผนของการสรรสร้างมงกุฎนางสาวสยาม-นางสาวไทยในยุคบุกเบิก โดยในปี 2482 จากบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญที่ให้ใช้คำว่า "ไทย" แทนคำว่า "สยาม" การประกวดนางสาวสยามจึงได้เปลี่ยนชื่อเป็น นางสาวไทยตั้งแต่นั้นมา และเป็นปีแรกที่กำเนิดสายสะพายนางสาวไทยด้วย จากนั้นในปี พ.ศ.2484 ประเทศไทยอยู่ในภาวะสงครามโลกครั้งที่ 2 จึงไม่มีการประกวดและใช้เวลาฟื้นฟูบ้านเมืองเป็นระยะเวลาหลายปี จนกระทั่ง ยุคที่ 2 พ.ศ. 2491 - 2497 รัฐบาลได้สนับสนุนให้จัดการประกวดนางสาวไทยขึ้นอีกครั้งตั้งแต่ปี พ.ศ.2491 เป็นต้นมา เว้นไปหนึ่งปีคือ พ.ศ.2492 ซึ่งมีเพียงงานฉลองรัฐธรรมนูญเท่านั้น โดยสมัยนั้นมงกุฎยังทำจากผ้าปัก แต่มีการใช้เข็มกลัด และแหวนเพชร นำมาเสียบตกแต่ง จวบจนในปี พ.ศ.2497 เป็นปีสุดท้ายที่รัฐบาลมีบทบาทจัดการประกวด งานฉลองรัฐธรรมนูญได้ถูกยกเลิกไป เนื่องจากเหตุผลทางการเมือง การประกวดนางสาวไทยซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของงานฉลองรัฐธรรมนูญจึงไม่ได้จัดขึ้นด้วย แต่ระหว่างนั้นก็ยังมีการประกวดสาวงามอื่นๆ เวทีระดับท้องถิ่น และในโอกาสพิเศษเรื่อยมา จนถึงปี พ.ศ.2503 สมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัยฯ ได้ทดลองจัดการประกวด "นางงามวชิราวุธ" ขึ้น และริเริ่มให้เกิดประกวดนางสาวไทยขึ้นอีกครั้งใน ยุคที่ 3 พ.ศ. 2507 - 2515 ยกเว้นปี พ.ศ.2513 ไม่มีการประกวด ยุคนี้เป็นยุคแห่งการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยใช้ตำแหน่งนางสาวไทยเป็นสื่อเผยแพร่ชื่อเสียง และการประชาสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งมงกุฏที่ใช้ได้เปลี่ยนจากมงกุฏผ้าปักมาเป็นมงกุฎเพชรเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นแบบเทียร่า (Tiara) คล้ายที่คาดผมมีลวดลายเป็นกระจัง ประดับเพชรแพรวพราวอยู่ด้านหน้า ส่วนด้านหลังเป็นก้านเล็กบางเบา ซึ่งออกแบบโดยสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัยฯ มงกุฏชิ้นแรกนั้นตัวเรือนทำด้วยเงิน ประดับด้วยเพชรเม็ดเล็กๆ กว่า 200 เม็ด โดยนางสาวไทยที่ได้ครองมงกุฎเพชรคนแรก คือ อาภัสรา หงสกุล และเป็นนางงามจักรวาลคนแรกของไทย

จนมาในปี พ.ศ.2509 ได้มีการออกแบบมงกุฎใหม่ โดยฝีมือของสถาปนิกหนุ่มใหญ่ บุรินทร์ วงศ์สงวน ที่ปัจจุบันก็ยังฝากผลงานออกแบบมงกุฎจนถึงปีล่าสุด ซึ่งได้กล่าวว่า "ในปี พ.ศ.2509 ผมได้ออกแบบมงกุฏนางสาวไทยเป็นปีแรก โดยยึดตามแบบก่อนหน้า คือ แบบเทียร่า แต่ด้านหน้าจะดูใหญ่กว่าเสียหน่อย จนมาเปลี่ยนเป็นรูปแบบคราวน์ คือ ครอบรอบศีรษะ ในปี พ.ศ.2511 ของแสงเดือน แม้นวงศ์ และ พ.ศ. 2512 ของ วารุณี แสงศิรินาวิน ต่อมาในปี พ.ศ.2514 มงกุฎของ นิภาภัทร สุดศิริ เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เนื่องจากมงกุฎแบบคราวน์แท้ๆ เมื่อ 2 ปีก่อนหน้านี้มีน้ำหนักมาก จึงได้ประยุกต์มงกุฎแบบคราวน์นี้ใหม่ โดยยังคงความสูงที่ตรงกลางด้านหน้า แต่ค่อยๆ ลดระดับจากด้านข้างลงมาถึงด้านหลัง เพื่อให้น้ำหนักเบาลง ผมคิดว่ามงกุฎเป็นสิ่งสำคัญอยู่คู่นางงาม เป็นสัญลักษณ์และเสริมให้ดูสวยสง่า จึงต้องทำให้สวยงามและสะดวกสบายผู้ใส่ด้วย และนับจากนั้นก็ยังคงใช้รูปแบบคราวน์ ที่ลดหลั่นไปด้านหลังแบบนี้ จวบจนปัจจุบัน" บุรินทร์กล่าว

จนกระทั่ง ในปี พ.ศ.2516 เกิดเหตุการณ์ไม่สงบในเดือนตุลาคม จึงได้ระงับการประกวดไปจนถึง พ.ศ. 2526 และได้รื้อฟื้นการจัดประกวดนางสาวไทยขึ้นอีกครั้ง เพื่อคัดเลือกตัวแทนไปประกวดนางงามจักรวาลใน ยุคที่ 4 พ.ศ.2527- พ.ศ.2542 ยกเว้นปี 2539 ไม่มีการจัดประกวด เนื่องจากมีงานพระบรมศพ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ซึ่งในยุคนี้สถานีโทรทัศน์สีช่อง 7 ได้เข้ามาร่วมจัดการประกวด มงกุฎของบุรินทร์ วงศ์สงวน ยังคงได้รับความสนใจ ที่โดดเด่น ได้แก่ มงกุฏของภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก ในปี พ.ศ.2531 ซึ่งเห็นได้ชัดเจนถึงมงกุฎที่เป็นแบบคราวน์ และลดหลั่นไปด้านหลัง หรือมงกุฎของ ยลดา รองหานาม นางสาวไทยในปี 2532 เป็นชิ้นที่กล่าวขานกันว่าสวยที่สุด ซึ่งปีต่อๆมา ก็ยังเพิ่มเติมด้วยไอเดียใหม่ๆ เรื่อยมา ให้ดูทันสมัย เช่น มงกุฎของ ภัสราภรณ์ ชัยมงคล นางสาวไทยปี พ.ศ.2533 ดูสวยแหวกแนว ด้วยรูปเส้นดาวกระจาย ไม่มีลายกนก แต่เป็นลายสมัยใหม่ใช้มาประกอบกัน หรือ มงกุฎของ จิระประภา เศวตนันทน์ นางสาวไทยปี พ.ศ.2534 ก็นับว่าเป็นแบบเพอร์เฟ็กท์ ฟอร์ม ที่สุด มีการใช้เพชรสีน้ำเงินสีของของวชิราวุธมาตกแต่ง เป็นมงกุฏที่ได้มาตรฐานของยุค ต่อมาใน ยุคที่ 5 พ.ศ.2543 - พ.ศ.2550 ยกเว้นปี พ.ศ. 2548 ซึ่งเป็นยุคที่สถานีโทรทัศน์ไอทีวีได้เข้ามาร่วมจัดการประกวด มงกุฎยุคนี้ยังเป็นแบบคราวน์ มีการปรับดีเทลเล็ก ๆ น้อย ๆ คือลวดลายภายในแตกต่างไปในแต่ละปี เช่น มงกุฎของ ปนัดดา วงศ์ผู้ดี นางสาวไทยปี พ.ศ. 2543 มีลวดลายที่อ่อนช้อย ละเอียด คล้ายกับเถาไม้เลื้อย ต่อมาในปี 2544 มงกุฎของ สุจิรา อรุณพิพัฒน์ ได้พัฒนาต่อมาจากปีก่อน เพิ่มเพชรล้อมพลอยสีน้ำเงิน บนปลายมงกุฎ ร่วมกับลวดลายกระจัง มีความโดดเด่นและลงตัวที่สุด จนกลายเป็นต้นแบบของมงกุฎในยุคนี้


ซึ่งในบางปีจะมีการปรับเปลี่ยนสีของอัญมณีที่ประดับบนหัวมงกุฎไปตามโอกาสพิเศษ เพื่อเป็นที่ระลึกในแต่ละปี เช่น มงกุฎของ สิรินทร์ยา สัตยาศัย นางสาวไทยปี พ.ศ.2547 เป็นสีฟ้าอ่อนเนื่องในวโรกาสเฉลิมฉลอง ครบ 72 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ ส่วนมงกุฎของ ลลนา ก้องธรนินทร์ นางสาวไทยปี พ.ศ. 2549 เป็นสีเหลือง เนื่องในวโรกาส พระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว เป็นต้น

ยุคปัจจุบัน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2551 เป็นต้นไป เป็นยุคที่ อสมท หรือ สถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์ เข้ามาร่วมจัดการประกวด โดยมงกุฎของ พรรณประภา ยงค์ตระกูล นางสาวไทยปี พ.ศ.2551 ยังคงเป็นแบบคราวน์ ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากมงกุฎของ วารุณี แสงศิรินาวิน นางสาวไทยปี พ.ศ.2512 ซึ่งเป็นมงกุฏลักษณะแบบคราวน์สวมครอบบนศีรษะ ผสมผสานกับมงกุฎของ สุจิรา อรุณพิพัฒน์ นางสาวไทยปี พ.ศ.2544 ที่มีฟอร์มสวย ผสานกับรูปกลีบบัว โดดเด่นที่จี้เพชรทรงหยดน้ำห้อยที่ยอดมงกุฎ เมื่อมีการเคลื่อนไหวเพชรทรงหยดน้ำจะสร้างมิติ เปล่งประกายระยิบระยับ เฉกเช่นประกายงามแห่งปัญญา ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์ของการประกวดปีที่แล้ว

สำหรับมงกุฎนางสาวไทยปี พ.ศ.2552 นี้ ยังคงกลิ่นอายที่คล้ายคลึงกับปี 2551 เนื่องจากให้เกิดความสอดคล้อง ต่อเนื่อง และต้องการยึดเป็นต้นแบบเพื่อใช้สำหรับนางสาวไทยยุคใหม่ ที่ออกอากาศทางโมเดิร์นไนน์ ต่อไปในทุกๆ ปี การออกแบบผสมผสานจากแบบมงกุฎที่เป็นผลงานในอดีตของบุรินทร์ วงศ์สงวน ซึ่งยังคงรูปแบบคราวน์เอาไว้ ด้านหน้าเห็นเป็นยอดมงกุฎที่ลดหลั่นกันไป 3 ยอด ตัวเรือนทำด้วยเงินชุบทองคำขาว ประดับด้วยเพชรและมุกกว่า 1,000 เม็ด ส่องแสงระยิบระยับ มีตราเพชราวุธ ลงยาสีน้ำเงิน อันเป็นสีประจำสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ ล้อมด้วยเพชรเพิ่มความโดดเด่นตระการตา ส่วนตรงฐานมีลักษณะคล้ายกลีบบัว ซึ่งเป็นดอกไม้ที่สื่อถึงความบริสุทธิ์ และสง่างาม ประดับด้วยไพลิน รอบตัวมงกุฎ มีความสวยงามอย่างลงตัว โดยใช้เวลาทำประมาณ 3 เดือน

มงกุฎอันสง่างาม รางวัลสูงสุดแห่งเวทีนางสาวไทย กำลังรอสาวงามผู้เพียบพร้อมด้วย ความรู้ ความสามารถ จิตใจที่งดงาม มาครอบครอง... ร่วมลุ้น เป็นกำลังใจ ให้พวกเธอได้ในรอบตัดสิน วันที่ 28 ตุลาคม 2552 ณ โรงละครอักษรา ถนนรางน้ำ ซึ่งจะมีการถ่ายทอดทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี ในเวลา22.15 น. ของคืนเดียวกัน

ที่มา  เจ้าหญิง www.yenta4.com

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 7254 วันที่ 20 ต.ค. 2552


เปิดตำนาน.... มงกุฎนางสาวไทย จากอดีตสู่ปัจจุบันเปิดตำนาน....มงกุฎนางสาวไทยจากอดีตสู่ปัจจุบัน

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

ประเพณีไหว้ผีโรง

ประเพณีไหว้ผีโรง


เปิดอ่าน 6,408 ครั้ง
งงเป็นไก่ตาแตก

งงเป็นไก่ตาแตก


เปิดอ่าน 6,470 ครั้ง
คลิปเด็ด!!!!วันนี้...

คลิปเด็ด!!!!วันนี้...


เปิดอ่าน 6,406 ครั้ง
ทะเลใจ.....ตอน ชุมนุมปะการัง

ทะเลใจ.....ตอน ชุมนุมปะการัง


เปิดอ่าน 6,406 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

คนกับป่าเมืองเชียงใหม่ : ป่าเมืองเป็นจริงได้ ขึ้นอยู่กับว่าเรานิยามพื้นที่สีเขียวอย่างไร

คนกับป่าเมืองเชียงใหม่ : ป่าเมืองเป็นจริงได้ ขึ้นอยู่กับว่าเรานิยามพื้นที่สีเขียวอย่างไร

เปิดอ่าน 6,409 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ช่างทำได้.... ศิลปะ....จากมือล้วนๆ
ช่างทำได้.... ศิลปะ....จากมือล้วนๆ
เปิดอ่าน 6,447 ☕ คลิกอ่านเลย

แนะวิธี....เลี้ยงลูกชายไม่ให้โตเป็นสาว ....เลี้ยงลูกสาวไม่ให้โตเป็นหนุ่ม!!
แนะวิธี....เลี้ยงลูกชายไม่ให้โตเป็นสาว ....เลี้ยงลูกสาวไม่ให้โตเป็นหนุ่ม!!
เปิดอ่าน 6,438 ☕ คลิกอ่านเลย

รักแท้หรือโดนน้ำมันพราย!!
รักแท้หรือโดนน้ำมันพราย!!
เปิดอ่าน 6,430 ☕ คลิกอ่านเลย

การพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์
การพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์
เปิดอ่าน 6,418 ☕ คลิกอ่านเลย

แม่บ้าน"นาธาน"แจ้งตร.ยืมเงิน3แสนไม่ใช้ (คมชัดลึก)
แม่บ้าน"นาธาน"แจ้งตร.ยืมเงิน3แสนไม่ใช้ (คมชัดลึก)
เปิดอ่าน 6,408 ☕ คลิกอ่านเลย

รายงานการพัฒนาชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์โดยใช้แผนผังมโนทัศน์
รายงานการพัฒนาชุดกิจกรรมวิทยาศาสตร์โดยใช้แผนผังมโนทัศน์
เปิดอ่าน 6,402 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ทำไมไข่เยี่ยวม้าจึงมีสีดำ
ทำไมไข่เยี่ยวม้าจึงมีสีดำ
เปิดอ่าน 15,545 ครั้ง

บำรุงเลือดลม ช่วยย่อยอาหาร
บำรุงเลือดลม ช่วยย่อยอาหาร
เปิดอ่าน 13,154 ครั้ง

ความสำคัญของภาษาไทย
ความสำคัญของภาษาไทย
เปิดอ่าน 343,760 ครั้ง

15 วิธีการเลือกรถยนต์มือสองด้วยตัวเอง
15 วิธีการเลือกรถยนต์มือสองด้วยตัวเอง
เปิดอ่าน 14,770 ครั้ง

ไม่ชอบออกกำลังกาย ก็แข็งแรงได้ด้วย 10 วิธีนี้
ไม่ชอบออกกำลังกาย ก็แข็งแรงได้ด้วย 10 วิธีนี้
เปิดอ่าน 16,422 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ