Advertisement
นางปุย เวียงชัย ขอบคุณ "อั้งม้อ" รับผิดชอบค่าเดินทางทุกอย่าง ยัน ซาไก เป็นเสาหลักของครอบครัว ได้เห็นหน้าครั้งสุดท้ายตั้งแต่ พ.ค.ที่ผ่านมา
ศพ “ซาไก” ถึงบ้านเกิดอุดรธานี 10.30 น. วันที่ 17 ตุลาคม นางปุย เวียงชัย แม่นายสมบูรณ์ เวียงชัย หรือ ซาไก จ๊อกกี้ยิม อายุ 19 ปี นักมวยสากลดาวรุ่ง ที่เดินทางไปชกไต่บัลลังก์โลกกับ “คาสึโยชิ นิกิ” ที่ญี่ปุ่น แล้วถูกจับแพ้ทีเคโอ ในยกที่ 10 แต่ “ซาไก” บอบช้ำหนักเลือดคั่งในสมอง เสียชีวิต ที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อคืนวันที่ 12 ตุลาคม ที่ผ่านมา เปิดเผยว่า เมื่อคืนนี้ ได้เดินทางไปรับศพซาไกที่สนามบินสุวรรณภูมิ และนำศพซาไกเดินทางกลับบ้านด้วยรถยนต์ มาถึงจ.อุดธานี เมื่อเช้านี้ โดยนายชูเจริญ รวีอร่ามวงศ์ โปรโมเตอร์มวย ได้มอบเงินค่าเดินทาง 10,000 บาท ให้เป็นค่าเดินทาง และได้นำร่างซาไกใส่โลงเย็น และนำพระมาสวดตอนเช้า ซึ่งมีชาวบ้านและญาติพี่น้องมาร่วมงานศพจำนวนมาก
นางปุย เล่าว่า ตนมีลูก 5 คน ผู้ชาย 3 คน ผู้หญิง 2 คน ลูกชายคนโตเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ ลูกชายคนรองบวชได้ 2 พรรษา ลูกสาว 2 คน แต่งงานแยกครอบครัวออกไป ส่วนซาไกเป็นลูกคนสุดท้อง และเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของครอบครัว ซาไกมีนิสัยไม่ค่อยพูด มีน้ำใจกับเพื่อนๆ แต่เรียนหนังสือไม่เก่งและออกจากโรงเรียนกลางคัน ขณะกำลังเรียนอยู่ชั้น ม.2 และไปหัดชกมวยกับนายวิรัตน์ ศิริอ่อน ครูมวยคนแรก จากนั้นเดินทางไปชกมวยในกรุงเทพฯ ชกมวยได้ค่าตัวไม่สูง เป็นนักมวยชกนอกเวลา ได้ค่าตัวไม่กี่บาท และจะกลับมาเยี่ยมบ้านปีละ 2-3 ครั้ง ครั้งสุดท้ายกลับมาเยี่ยมบ้านช่วงดำนาเดือน พฤษภาคม
เพื่อนร่วมรุ่น 9 คนที่มาร่วมงานศพ ช่วยกันเล่าว่า ซาไก จะเป็นคนไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ แต่ถ้ากลับมาเยี่ยมบ้าน มักจะไปเล่นกับเพื่อน และมักจะซื้อเหล้าให้เพื่อนๆดื่ม แต่ตัวเองจะไม่ดื่ม แต่ก็สามารถนั่งคุยกับเพื่อนได้ แต่ไม่เคยพูดถึงความลำบากบนถนนค้ากำปั้นให้เพื่อนฟัง ซาไกจึงเป็นที่รักของเพื่อนทุกคน หลังจากซาไกหันมาชกมวยสากล และสามารถชนะ โจอิชิโร ทัตสึโยชิ อดีตแชมป์โลกชาวญี่ปุ่น ซาไกเคยพูดว่า จะมุมานะฝึกซ้อม และจะเป็นแชมป์โลกมวยสากลให้ได้ ก่อนขึ้นชกซาไกได้โทรมาบอกเพื่อนรุ่นพี่ชื่อต้นว่า จะขึ้นชกแล้ว แต่เพื่อนก็ไม่สามารถไปถึงความฝัน เพราะมาเสียชีวิตเสียก่อน เพื่อนๆทุกคนจึงเสียใจมาก
นางปุย เล่าสลับกับเพื่อนของซาไกว่า พอทราบข่าวว่า ซาไกเสียชีวิตที่ญี่ปุ่น ตนก็หวังเพียงแค่ได้เห็นหน้าลูกชายเป็นครั้งสุดท้าย และนำศพของลูกมาบำเพ็ญกุศลตามประเพณีเท่านั้น ซึ่งตนจะสวดอภิธรรม 3 วัน และจะทำพิธีฌาปนกิจเลย ส่วนเรื่องโปรโมเตอร์ชาวไทย และชาวญี่ปุ่น จะเดินทางมามอบเงินช่วยเหลือครอบครัวนั้น ตนก็รู้สึกขอบคุณที่ไม่ได้ทอดทิ้งครอบครัวของตน และสุดท้ายก็อยากจะฝากถึงนักมวยอีสานทุกคน ที่หวังจะชกมวยเพื่อสร้างฐานะของตนเอง ขอให้การเสียชีวิตของซาไกเป็นอุทาหรณ์ ก่อนออกไปชกเพื่อไต่อันดับให้ตรวจร่างกายกับทางสมาคมให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อจะไม่ต้องมานั่งเสียใจภายหลัง
ขอบคุณ ไทยรัฐออนไลน์
วันที่ 17 ต.ค. 2552
Advertisement
เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,146 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,152 ครั้ง เปิดอ่าน 7,136 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,146 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,141 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,138 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,146 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,138 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,158 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,141 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 9,595 ครั้ง |
เปิดอ่าน 10,768 ครั้ง |
เปิดอ่าน 106,726 ครั้ง |
เปิดอ่าน 17,315 ครั้ง |
เปิดอ่าน 11,440 ครั้ง |
|
|