ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

บทสรุปการพัฒนาที่ยั่งยืน


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,163 ครั้ง
Advertisement

บทสรุปการพัฒนาที่ยั่งยืน

Advertisement

 

บทสรุป

การพัฒนาที่ยั่งยืน

ผู้แต่ง  พระพรหมคุณาภรณ์  (ป.อ.ปยุตฺโต)  ผู้สรุป  นางสาวสมปอง  จันทคง

11  ต.ค.  2552

-------------------------------

                ในหนังสือได้กล่าวถึงในช่วงแรก ๆ ว่า  ทางตันของการพัฒนาที่ยั่งยืน  โดยได้นำเสนอเกี่ยวกับการพัฒนาของโลกว่าส่วนใหญ่ที่ผ่านมาโลกของเราพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจให้เจริญรุ่งเรืองเพียงด้านเดียว โดยลืมนึกไปว่า  ในขณะเดียวกันได้ทำลายโลกไปด้วยอีกทางหนึ่ง  จึงเป็นการพัฒนาที่ไม่ยั่งยืน  รวมทั้งในเมืองไทยของเราก็ได้นำแนวทางการพัฒนามาจากประเทศที่เจริญแล้วเช่นกัน  แต่ก็เป็นการพัฒนาที่ทำให้ชีวิตและสังคมมีปัญหาหมักหมมมากมาย  ประเทศมีความเจริญด้านวัตถุมากขึ้นแต่ขาดการพัฒนาด้านจิตใจ  แสดงให้เห็นความเสื่อมโทรมทางศีลธรรมพร้อมทั้งทางสังคมและวัฒนธรรม  จึงส่งผลให้สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรมลงไปด้วย  โดยสรุปปัญหาเกี่ยวกับสภาพแวดล้อมมี  2  ประการ  คือ  ของดีที่มีอยู่ในโลกถูกผลาญสิ้น  หรือปัญหาทรัพยากรร่อยหรอ  และปัญหาระบายสิ่งที่เสียให้แก่โลก  ประชากรยิ่งมากปัญหาก็ยิ่งรุนแรงหนักขึ้นเป็นเงาตามตัว            เมื่อสภาพแวดล้อมเป็นปัญหาก็ทำให้การพัฒนาถึงทางตัน

                นอกจากนี้ยังนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้จัดการกับสิ่งแวดล้อม  เทคโนโลยีก็เป็นตัวก่อปัญหา              ในแง่ทำลายของดี ผลาญทรัพยากรที่มีอยู่หมดไปอย่างรวดเร็วและสร้างของเสียให้เกิดขึ้น  เช่น  โรงงานอุสาหกรรม  และรถยนต์ที่ปล่อยควันพิษไอเสีย  ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพ  และการสูญเสียอิสรภาพ  เช่นทำให้ไม่สามารถอยู่ดีมีสุขได้เองโดยลำพังเพราะชีวิตนี้ต้องอาศัยเทคโนโลยี

                ทำอย่างไรจึงจะเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืน  พระพรหมคุณาภรณ์  (ป.อ.ปยุตฺโต)   ได้กล่าวว่า  กระแสในการพัฒนาแบบใหม่  มีสองกระแสคือ  เอาคนนำกับเอาธรรมชาติเป็นเป้าหมาย  ประสานหรือต่างคนต่างทำ  จุดเริ่มต้นที่ทำให้มีการพัฒนาแบบใหม่  โดยสหประชาชาติได้ตั้งคณะกรรมาธิการโลกว่าด้วยสิ่งแวดล้อมและการพัฒนา  (World on  Commission on Environment and Development)  และเกิดคำว่า  Sustainable Development  ขึ้นและเข้าสู่ประเทศไทย  ซึ่งกำหนดความหมายว่า  การพัฒนาที่ยั่งยืน  

                กระแสการพัฒนาที่ผ่านมาทำให้องค์การยูเนสโก  เห็นว่าเป็นการพัฒนาที่ผิดพลาด  เพราะเป็นการพัฒนาด้านเศรษฐกิจเป็นสำคัญ  แต่ขาดการพัฒนาด้านวัฒนธรรม  ดังนั้นยูเนสโกจึงเสนอให้มีการพัฒนาเชิงวัฒนธรรม  ถึงตรงนี้จะเห็นได้ว่า  แนวทางในการพัฒนาที่ยั่งยืน  มี  2  กระแส  คือ           หนึ่ง  มาจากคณะกรรมาธิการโลกว่าด้วยสภาพแวดล้อมและการพัฒนา  มุ่งพัฒนาและให้ความสำคัญแก่สิ่งแวดล้อม  ปัญหาทรัพยากรร่อยหรอ  และเกิดมลภาวะ  เนื่องมาจากการเพิ่มจำนวนประชากร     สองมาจากทางยูเนสโก  (UNESCO)  ที่ให้ความสำคัญแก่วัฒนธรรม  เพราะเห็นว่าที่ผ่านมาพัฒนาแต่ทางด้านวัตถุ  เน้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ใช้ตัวเลขเป็นเครื่องวัด    เอาวิทยาศาสตร์และ

 

2

 

เทคโนโลยีเป็นพระเอก  แต่จากนี้ไปจะนำเอาการพัฒนาคุณค่าของมนุษย์และวัฒนธรรม  ถือเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนา  โดยเชื่อมโยงกับการพัฒนาสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไป

                แต่การพัฒนาทั้งสองกระแสก็ยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร  ซึ่งพระพรหมคุณาภรณ์  (ป.อ.ปยุตฺโต)  ได้เสนอข้อพิจารณาหลายอย่าง  เช่น

1.       การพัฒนาทั้งสองกระแสบอกแจ้งเหตุปัจจัยต่าง ๆ ได้ถูกต้องและครบถ้วนหรือเพียงพอหรือไม่

2.       การแก้ปัญหาโดยเน้นมิติทางด้านวัฒนธรรม  ที่ถูกต้องควรเป็นอย่างไร  ต้องเข้าใจระบบจริยธรรมให้ถูกต้องจึงจะแก้ไขได้สำเร็จ

3.       ข้อเสนอในการแก้ปัญหาอย่างกว้าง ๆ เมื่อนำไปใช้ในแต่ละสังคม แต่ละประเทศ  จะต้องปรับให้เข้ากับสังคม  ประเทศนั้น ๆ เพราะมีเหตุปัจจัยที่แตกต่างกัน

อย่างไรที่เรียกว่าการพัฒนาที่ยั่งยืน  พระพรหมคุณาภรณ์  (ป.อ.ปยุตฺโต)  กล่าวว่า   การพัฒนาที่ยั่งยืน  คือ  การพัฒนาที่สนองความต้องการของปัจจุบัน  โดยไม่ทำให้ประชาชนรุ่นต่อไปในอนาคตต้องประนีประนอมยอมลดความสามารถของเขาในการที่จะสนองความต้องการของเขาเอง  หรือการพัฒนาที่ยั่งยืนคือ  นโยบายที่สนองความต้องการของประชาชนในปัจจุบัน  โดยไม่ต้องทำลายทรัพยากรซึ่งจะเป็นที่ต้องการในอนาคต

การพัฒนาที่ยั่งยืนเพื่อสร้างสังคมที่ยั่งยืน  สังคมที่ยั่งยืน  คือ  สังคมที่สนองความต้องการของตนได้โดยไม่ทำให้สัตว์จำพวกอื่นและประชาชนรุ่นต่อ ๆ ไป ในอนาคตต้องประนีประนอมยอมลดความต้องการของเขา 

นั่นหมายความว่า  การทำกิจกรรมของมนุษย์ต้องสอดคล้องกับกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ                ต้องบูรณาการทั้งเศรษฐกิจและธรรมชาติแวดล้อมเข้าด้วยกัน  เพื่อจะพิทักษ์รักษาทรัพยากรธรรมชาติ  และกำจัดความยากจนออกไป  ดังนั้น  การพัฒนาที่ยั่งยืน  มีแนวทางสรุปได้ดังนี้

1.  ต้องวางนโยบายประชากรให้ดี  เช่น  ควบคุมจำนวนประชากร  ด้วยการวางแผนครอบครัว  ในการแก้ปัญหาประชากรที่สำคัญอย่างหนึ่งคือการแก้ปัญหาทางการศึกษา  เพราะจะครอบคลุมไปถึงการแก้ปัญหาด้านอื่น ๆ ทั้งหมด  ทั้งปัญหาความยากจน  สาธารณสุข  ตลอดจนการอนุรักษ์ธรรมชาติ 

2.  ต้องอนุรักษ์หรือสงวนทรัพยากร  สิ่งแวดล้อม  ใช้ทรัพยากรอย่างประหยัดและอย่างมีประสิทธิภาพ  ซึ่งมีหลายวิธี  เช่น  จัดตั้งป่าสงวน  วนอุทยาน  อุทยานแห่งชาติ  เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่า  การฟื้นฟูแหล่งธรรมชาติที่เสื่อมโทรง  การรักษาดิน น้ำ อากาศ  ให้ปลอดสารเคมีและมลภาวะ              

 

3

 

การผลิตเทคโนโลยีกำจัดน้ำเสีย  ตลอดจนการปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตไม่สุรุ่ยสุร่าย  ต้องประหยัดพลังงาน

การพัฒนาที่ยั่งยืน  จะสำเร็จได้  จะต้องพัฒนาคน  ให้มีจริยธรรม  พระพรหมคุณาภรณ์  (ป.อ.ปยุตฺโต)  ได้สรุปให้เห็นว่า  ปัญหาในการพัฒนาที่ยั่งยืนไม่สำเร็จ  เกิดจาก  กิเลิส  3  อย่างที่ขัดขวางจริยธรรม  คือ  ตัณหา  มานะ  ทิฏฐิ

1.  ตัณหา  ความอยากได้  อยากบำรุงบำเรอตนเอง ให้มีสุข สะดวกสบาย  พรั่งพร้อม  ด้วยวัตถุ  คืออยากได้ผลประโยชน์

2.  มานะ  ความต้องการยิ่งใหญ่  อยากมีอำนาจครอบงำผู้อื่น  ตั้งแต่บุคคล  สังคม  ประเทศชาติ  คือความใฝ่อำนาจ

3.  ทิฏฐิ  ความยึดมั่นตลอดจนคลั่งไคล้ในค่านิยมแนวคิด  ลัทธิ  ศาสนา  อุดมการณ์ต่าง ๆ  ซึ่งแก้ได้ยาก

เราจะต้องพัฒนาคน  พัฒนาด้านเศรษฐกิจเป็นคู่ขนานกันไปกับการพัฒนาจริยธรรม    แต่ถ้าพัฒนาแบบประนีประนอมการพัฒนาก็จะไม่ยั่งยืน 

ระบบการพัฒนาที่ยั่งยืน  มองจาก  4  ปัจจัย  คือ

1.  มนุษย์  

     1.1  ต้องมุ่งให้การศึกษาและจัดสรรปัจจัยเกื้อหนุนอื่นเพื่อให้ชีวิตเจริญงอกงาม  เป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์ 

     1.2  มนุษย์เป็นทรัพยากร  ซึ่งเป็นทุนหรือปัจจัยในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม  พึงพัฒนาคนให้มีคุณภาพมีสุขภาพดี  ขยัน  อดทน  รับผิดชอบ  มีฝีมือ  มีความรู้ความสามารถ  เชี่ยวชาญ  พร้อมที่จะเป็นกำลังสำคัญในระบบเศรษฐกิจและสังคมที่จัดสรรให้เกื้อหนุนและนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน      

2.  สังคม

      2.1  จัดระบบสังคม  ทั้งด้านเศรษฐกิจ  การเมือง  การบริหาร  ตลอดจนกิจการต่าง ๆ  ให้ประสมกลมกลืนสอดคล้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันบนฐานแห่งความรู้ความเป็นจริง

      2.2  จากการพัฒนาระบบเศรษฐกิจ  การเมือง  การปกครอง  เป็นผลสำเร็จของการพัฒนาสังคม  มีชีวิตที่ดีงาม  มีอิสรภาพ  และสันติสุขที่แท้จริง

      2.3  สร้างบรรยากาศแห่งความไม่เบียดเบียน  บรรยากาศแห่งความช่วยเหลือเกื้อกูล  พิทักษ์ปกป้องคนที่อยู่ในสถานะต่าง ๆ   ซึ่งมีโอกาส  มีความสามารถต่างกัน 

 

 

4

 

3.  ธรรมชาติ

      3.1  มองตัวเองให้เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ  ต้องมีชีวิตที่สอดคล้องกลมกลืนกับธรรมชาติ  ความสามารถที่แท้จริงของมนุษย์คือการทำให้โลกน่าอยู่

      3.2  คุ้มครองสังคมให้อยู่ในสันติสุข  ธรรมชาติเป็นตัวหล่อเลี้ยง  มนุษย์ที่เข้าสู่วิถีการพัฒนาจะได้รับคุณค่าจากธรรมชาติ

4.  เทคโนโลยี

     4.1  การประดิษฐ์  การผลิต  การใช้เทคโนโลยี  เพื่อใช้แก้ปัญหาและอนุรักษ์ธรรมชาติมีมากมาย  ต้องเกื้อกูล  ไม่ทำลายธรรมชาติ  นำของเสียมาผลิตเวียนใช้ประโยชน์ใหม่  วางมาตรการบังคับ  ควบคุม ต้องเร่งแก้ไขปรับปรุงอีกมาก

     4.2  สังคมไทยบางสังคมขาดภูมิหลังในการพัฒนาเทคโนโลยี

     4.3  เทคโนโลยีเป็นเครื่องขยายวิสัยแห่งอินทรีย์ของมนุษย์  ต้องพัฒนาเทคโนโลยีควบคู่ไปกับการพัฒนาตนเอง

     4.4  เทคโนโลยีเป็นส่วนประดิษฐ์เสกสรรของมนุษย์  เป็นสิ่งแวดล้อมเทียม  ต้องใช้อย่างไม่ประมาท

     4.5  การใช้เทคโนโลยี  มี  2 แบบ  คือ  แบบสนองตัณหา  และเพื่อเกื้อหนุนให้ตนเองมีชีวิตดีงาม  สมบูรณ์  มีอิสรภาพ  และสันติสุข 

มนุษย์จึงควรเข้าถึงความจริงของธรรมชาติ  พร้อมพัฒนาความสามารถที่จะใช้ความรู้เพื่อให้โลกดีขึ้น  ใช้ความรู้อย่างถูกต้อง   อย่างเป็นบัณฑิตชน 

 

 

 

 

_________________________

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

บทสรุป

การพัฒนาที่ยั่งยืน

ของพระพรหมคุณาภรณ์  (ป.อ.ปยุตฺโต)

 

 

 

 

 

 

 

 

เสนอ

รศ. ดร.พฤทธิ์  ศิริบรรณพิทักษ์

 

 

 

 

โดย 

นางสาวสมปอง  จันทคง 

นักศึกษาปริญญาเอก  สาขาการบริหารการศึกษา

เลขประจำตัวนักศึกษา  5251023

มหาวิทยาลัยราชธานี

 

 

 

 

 

บทสรุปนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาวิชาการวิเคราะห์นโยบายการศึกษา  932 801

มหาวิทยาลัยราชธานี

ตุลาคม  2552

 

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 3792 วันที่ 12 ต.ค. 2552

หนาวแล้ว ออกแคมป์กันเถอะ! ⛺ เตาแก๊สปิคนิค พกพาสะดวก ออก Outdoor ได้สบายๆ รุ่น KJ-101 แถมฟรี!!กล่องเก็บเตา ในราคา ฿244

https://s.shopee.co.th/7fJQKGPCjr?share_channel_code=6


บทสรุปการพัฒนาที่ยั่งยืน

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

เคลื่องหนัง

เคลื่องหนัง


เปิดอ่าน 7,162 ครั้ง
การกำเนิดของพระพิฆเนศ....

การกำเนิดของพระพิฆเนศ....


เปิดอ่าน 7,175 ครั้ง
สายธารธรรม

สายธารธรรม


เปิดอ่าน 7,155 ครั้ง
เกิดมาทำไม ?......ใครอยากทราบ

เกิดมาทำไม ?......ใครอยากทราบ


เปิดอ่าน 7,158 ครั้ง
ของฝาก....พระยายมราช

ของฝาก....พระยายมราช


เปิดอ่าน 7,169 ครั้ง
สารพัดวิธี...ไล่ยุง

สารพัดวิธี...ไล่ยุง


เปิดอ่าน 7,157 ครั้ง
วัยทีนกับการเมือง

วัยทีนกับการเมือง


เปิดอ่าน 7,153 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

นำ < เคล็ดลับ>  กับตัวช่วยอาการป่วย <เหงือกอักเสบ>  เก็บสิ่งดีๆ มาฝากครับ

นำ < เคล็ดลับ> กับตัวช่วยอาการป่วย <เหงือกอักเสบ> เก็บสิ่งดีๆ มาฝากครับ

เปิดอ่าน 7,167 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ปลูกผักในอากาศ....
ปลูกผักในอากาศ....
เปิดอ่าน 7,181 ☕ คลิกอ่านเลย

ตามหาสุข
ตามหาสุข
เปิดอ่าน 7,153 ☕ คลิกอ่านเลย

สมุนไพรรักษาเส้นเลือดขอด
สมุนไพรรักษาเส้นเลือดขอด
เปิดอ่าน 7,160 ☕ คลิกอ่านเลย

ทดลองอ่าน - ดิฉันไม่ใช่โสเภณี
ทดลองอ่าน - ดิฉันไม่ใช่โสเภณี
เปิดอ่าน 7,152 ☕ คลิกอ่านเลย

เลือกของขวัญ ให้ถูกใจ.....  ใน 12 ราศี
เลือกของขวัญ ให้ถูกใจ..... ใน 12 ราศี
เปิดอ่าน 7,160 ☕ คลิกอ่านเลย

ไขปริศนาเลขบัตรประชาชนไทยทั้ง 13 หลัก .....แต่ละตำแหน่งหมายถึงอะไร.... ค้นหาคำตอบได้ที่นี่
ไขปริศนาเลขบัตรประชาชนไทยทั้ง 13 หลัก .....แต่ละตำแหน่งหมายถึงอะไร.... ค้นหาคำตอบได้ที่นี่
เปิดอ่าน 7,280 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

วิธีควบคุมรถเมื่อ "สุนัข-มอไซค์" ตัดหน้า
วิธีควบคุมรถเมื่อ "สุนัข-มอไซค์" ตัดหน้า
เปิดอ่าน 20,675 ครั้ง

อาหารดีที่ควรมีติดบ้าน-ทานประจำทำสมองแล่น
อาหารดีที่ควรมีติดบ้าน-ทานประจำทำสมองแล่น
เปิดอ่าน 24,581 ครั้ง

เลเซอร์รักแร้ IPL vs YAG เลือกยังไงให้เหมาะกับผิวและได้ผลดีในระยาว
เลเซอร์รักแร้ IPL vs YAG เลือกยังไงให้เหมาะกับผิวและได้ผลดีในระยาว
เปิดอ่าน 2,497 ครั้ง

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโครงงานวิทยาศาสตร์
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโครงงานวิทยาศาสตร์
เปิดอ่าน 11,689 ครั้ง

ที่มาของคำว่า "บางกะปิ"
ที่มาของคำว่า "บางกะปิ"
เปิดอ่าน 20,513 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ