ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem ? based Learning)


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,150 ครั้ง
Advertisement

การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem ? based Learning)

Advertisement

 
การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน

(Problem – based Learning)

 

                               สมัยก่อนคนเราเรียนรู้เพื่อการอยู่รอด  แต่สมัยปัจจุบันโลกมีความเจริญก้าวหน้าและมีการแข่งขันสูงขึ้น  ปรัชญาในการเรียนรู้จึงต้องเปลี่ยนแปลงไป    นักปราชญ์ในอดีตได้มีการอภิปรายโต้แย้งเรื่องการเรียนรู้มาเป็นเวลานาน นับตั้งแต่กรีกมีความเจริญทางวัฒนธรรมสูงสุด เรื่อยมาจนกระทั่งศตวรรษที่ 19 และ 20  การถกเถียงในเรื่องนี้ก็ยังไม่สิ้นสุด    แต่ก็เริ่มมีแนวคิดที่ชัดเจนขึ้น    ในขณะที่โลกมีความสลับซับซ้อนมากขึ้น    การศึกษาเกี่ยวกับกระบวนการเรียนรู้ของมนุษย์ก็ยังคงดำเนินต่อไป     นักการศึกษาต้องนำคำว่า การเรียนรู้ (Learning)  มาให้คำจำกัดความใหม่ซ้ำแล้วซ้ำอีก  

                   ในศตวรรษที่ 20 นั้น แนวคิดเรื่องการเรียนรู้ที่นักการศึกษานำมาอภิปรายโต้แย้งกัน  ส่วนใหญ่จะมุ่งไปที่แนวคิดของนักจิตวิทยา  2 กลุ่มใหญ่   ได้แก่   กลุ่มทฤษฎีการเรียนรู้เชิงพฤติกรรมนิยม (Behaviorist learning)  ซึ่งเชื่อว่า โลกของเรามีความรู้อยู่มากมาย แต่ความรู้ที่สามารถถ่ายโยงมายังผู้เรียนอย่างเป็นรูปธรรมมีเพียงจำนวนเล็กน้อยเท่านั้น   การเรียนรู้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีการเชื่อมโยงระหว่างสิ่งเร้ากับการตอบสนอง   นักจิตวิทยาในกลุ่มที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด ได้แก่ สกินเนอร์ (Skinner)  กับ กลุ่มทฤษฎีการเรียนรู้เชิงพุทธิปัญญานิยม (Cognitive learning theory)  ซึ่งเชื่อว่า  ความรู้เกิดจากปฏิสัมพันธ์ระหว่างโครงสร้างที่มีลักษณะเฉพาะ (particular structure)  กับสิ่งแวดล้อมทางจิตวิทยา (psychological  environment)   ของผู้เรียนแต่ละคน   การเรียนรู้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อผู้เรียนได้ปรับเปลี่ยนโลกภายในของตน โดยอาศัยกระบวนการปฏิสัมพันธ์ที่เกิดจากการรับความรู้ใหม่เข้าไปในสมอง หรือจากการปรับเปลี่ยนความรู้เก่าให้เข้ากับความรู้ใหม่   นักจิตวิทยาที่ได้รับการยอมรับแนวคิดมากที่สุดได้แก่ เพียเจท์ (Piaget)

 

แม้ว่าแนวคิดของนักจิตวิทยากลุ่มพฤติกรรมนิยมจะมีอิทธิพลอย่างมากต่อการจัดการศึกษาในยุคนั้น  แต่นักการศึกษาที่เข้าใจแนวคิดของนักจิตวิทยากลุ่มพุทธิปัญญานิยมก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย     ในปี ..1990  สหรัฐอเมริกาได้ประกาศให้ทศวรรษต่อไปเป็น  ทศวรรษของสมองและทศวรรษของการศึกษา  (The decade of brain and the decade of education)   ผลจากการค้นคว้าวิจัยเรื่องสมองทำให้นักการศึกษารู้ว่า สมองมนุษย์มีลักษณะเฉพาะที่เป็นของตนเอง  สมองเป็นแหล่งของพฤติกรรม และเป็นอวัยวะที่มีความสลับซับซ้อนมากที่สุดในโลกหรือบางทีอาจจะในกาแลกซี่ของเราก็ได้    สมองของคนเราสามารถรับความรู้ที่เกิดจากการศึกษาได้ทุกอย่าง (receive all education)  แต่เนื่องจากคนเรามีสไตล์การเรียนรู้ (Learning style) ที่แตกต่างกัน    ดังนั้น วิธีการเรียนรู้ของแต่ละคนจึงแตกต่างกันไปด้วย       

นอกจากการค้นคว้าเรื่องสมองแล้ว สหรัฐอเมริกายังมีการศึกษาวิจัยเชิงปฏิบัติการเพื่อดูแนวโน้มและวิสัยทัศน์ของหลักสูตรที่เหมาะสมกับผู้เรียนในศตวรรษที่ 21   กลุ่มตัวอย่างมีทั้งที่เป็นนักธุรกิจระดับชาติ  ผู้นำทางการศึกษา และตัวแทนจากรัฐบาล ประมาณ 150 คน    โครงการนี้ใช้เทคนิค Delphi ในการศึกษา และใช้ระยะเวลา 3 ปี     รายงานส่วนหนึ่งของวิลสัน (Wilson, 1991) สรุปได้ว่า  การเตรียมนักเรียนให้พร้อมที่จะเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต  จำเป็นต้องปลูกฝังนักเรียนให้มีทักษะการคิดแบบวิจารณญาณ และทักษะในการตัดสินใจ   นักเรียนต้องสามารถเข้าถึงข้อมูล  และสามารถปรับแปลงข้อมูลเพื่อใช้ในการแก้ปัญหาได้   โดยนักเรียนเหล่านี้ต้องมีลักษณะกล้าเสี่ยง  เป็นนักสำรวจ    และเป็นนักคิดที่รู้จักให้ความร่วมมือกับผู้อื่น รวมทั้งต้องมีการบูรณาการหลักสูตรเพื่อให้เกิดกิจกรรมแบบสหวิทยาการ (Interdisplinary activity)  ด้วย

 

ในระยะหลายสิบปีที่ผ่านมา  มีทฤษฎีการเรียนรู้ใหม่ เกิดขึ้นหลายทฤษฎี   แต่ทฤษฎีการเรียนรู้ที่นักการศึกษาส่วนใหญ่ให้ความสนใจกันมากได้แก่ ทฤษฎีการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์นิยม (Constructivist learning theory)  ซึ่งมีแนวคิดที่สอดคล้องกับการจัดการศึกษาในศตวรรษที่ 21 มากที่สุด   คือเชื่อว่า การเรียนรู้จะเกิดขึ้นเมื่อผู้เรียนได้สร้างความรู้ที่เป็นของตนเองขึ้นมาจากความรู้ที่มีอยู่เดิมหรือจากความรู้ที่รับเข้ามาใหม่    ด้วยเหตุนี้  ห้องเรียนในศตวรรษที่ 21  จึงไม่ควรเป็นห้องเรียนที่ครูเป็นผู้จัดการทุกสิ่งทุกอย่าง  โดยนักเรียนเป็นฝ่ายรับ (Passive learning)   แต่ต้องให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติเอง   สร้างความรู้ที่เกิดจากความเข้าใจของตนเอง   และมีส่วนร่วมในการเรียนมากขึ้น  (Active learning)   รูปแบบการเรียนรู้ที่เกิดจากแนวคิดนี้มีอยู่หลายรูปแบบ   เช่น การเรียนรู้แบบร่วมมือ (Cooperative learning)    การเรียนรู้แบบช่วยเหลือกัน (Collaborative learning) การเรียนรู้โดยการค้นคว้าอย่างอิสระ (Independent   investigation method)  การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-based learning)  เป็นต้น   สำหรับบทความนี้   ผู้เขียนจะขยายความเฉพาะรูปแบบ การเรียนรู้ที่ใช้ปัญหาเป็นฐาน เท่านั้น

การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานคืออะไร?

                    การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem-based learning หรือ PBL) เป็นรูปแบบการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นจากแนวคิดตามทฤษฎีการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์นิยม (Constructivism) โดยให้ผู้เรียนสร้างความรู้ใหม่ จากการใช้ปัญหาที่เกิดขึ้นในโลกแห่งความเป็นจริงเป็นบริบท (context) ของการเรียนรู้    เพื่อให้ผู้เรียนเกิดทักษะในการคิดวิเคราะห์และคิดแก้ปัญหา   รวมทั้งได้ความรู้ตามศาสตร์ในสาขาวิชาที่ตนศึกษาด้วย     การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานจึงเป็นผลมาจากกระบวนการทำงานที่ต้องอาศัยความเข้าใจและการแก้ไขปัญหาเป็นหลัก 

ถ้ามองในเชิงยุทธศาสตร์การสอน    PBL เป็นเทคนิคการสอนแบบใหม่ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง     ทำให้ผู้เรียนเกิดทักษะในการคิดวิจารณญาณและคิดสร้างสรรค์

นักการศึกษาจึงสามารถนำ PBL ไปใช้เป็นกรอบงาน  (framework)   เพื่อสร้างเป็นโมดุล (module)  รายวิชา (course)  โปรแกรม  (program)  หรือหลักสูตร  (curriculum) ได้      

    ลักษณะที่สำคัญของ PBL ก็คือ

¨    ผู้เรียนเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้อย่างแท้จริง (student-centered learning)

¨    การเรียนรู้เกิดขึ้นในกลุ่มผู้เรียนที่มีขนาดเล็ก

¨    ครูเป็นผู้อำนวยความสะดวก (facilitator)   หรือผู้ให้คำแนะนำ  (guide)

¨    ใช้ปัญหาเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้

¨  ปัญหาที่นำมาใช้มีลักษณะคลุมเครือ  ไม่ชัดเจน   ปัญหา 1 ปัญหาอาจมีคำตอบได้หลายคำตอบหรือแก้ไขปัญหาได้หลายทาง   (illed- structure problem)

¨    ผู้เรียนเป็นคนแก้ปัญหาโดยการแสวงหาข้อมูลใหม่ ด้วยตนเอง

     (self-directed learning)

¨    ประเมินผลจากสถานการณ์จริง  โดยดูจากความสามารถในการปฏิบัติ

     (authentic assessment)

 

การสอนโดยใช้รูปแบบ Problem-based Learning ไม่ใช่การสอนแบบแก้ปัญหา (Problem solving method)    มีครูจำนวนไม่น้อยที่นำวิธีสอนแบบแก้ปัญหาไปปะปนกับ PBL   เช่น   สอนเนื้อหาไปบางส่วนก่อน


การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem ? based Learning)การเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน(Problem?basedLearning)

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

ตำนาน..คน..รัก..กัน..

ตำนาน..คน..รัก..กัน..


เปิดอ่าน 7,136 ครั้ง
ขอคำปรึกษาครับ

ขอคำปรึกษาครับ


เปิดอ่าน 7,150 ครั้ง
มหันตภัยชาเขียว

มหันตภัยชาเขียว


เปิดอ่าน 7,414 ครั้ง
กินตาม"ธาตุเจ้าเรือน"

กินตาม"ธาตุเจ้าเรือน"


เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง
7 ไอเดียสวนขนาดเล็ก

7 ไอเดียสวนขนาดเล็ก


เปิดอ่าน 7,136 ครั้ง
กระถางต้นไม้..ได้อารมณ์

กระถางต้นไม้..ได้อารมณ์


เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

บทความ  เรื่อง  ล้วงลึกความคิดครู   ผันสู่?ผู้บริหาร

บทความ เรื่อง ล้วงลึกความคิดครู ผันสู่?ผู้บริหาร

เปิดอ่าน 7,150 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ทรงผม เปลี่ยนลุค ....ให้ ดู สวย เก๋ สไตล์ คุณ
ทรงผม เปลี่ยนลุค ....ให้ ดู สวย เก๋ สไตล์ คุณ
เปิดอ่าน 7,142 ☕ คลิกอ่านเลย

อยากให้อ่าน......นิทานสอนใจ...... เรื่องผู้หญิง
อยากให้อ่าน......นิทานสอนใจ...... เรื่องผู้หญิง
เปิดอ่าน 7,142 ☕ คลิกอ่านเลย

เผยแพร่ผลงานผอ.เชี่ยวชาญ (ผอ.ประชุม  พันธ์พงศ์)
เผยแพร่ผลงานผอ.เชี่ยวชาญ (ผอ.ประชุม พันธ์พงศ์)
เปิดอ่าน 7,149 ☕ คลิกอ่านเลย

Tip การทำน้ำเต้าหู้
Tip การทำน้ำเต้าหู้
เปิดอ่าน 7,177 ☕ คลิกอ่านเลย

พยัญชนะไทย ช่วยให้ชีวีมีสุข.......สูตรเติมรัก....ทำชีวิตให้เป็นสุข
พยัญชนะไทย ช่วยให้ชีวีมีสุข.......สูตรเติมรัก....ทำชีวิตให้เป็นสุข
เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย

Wildlife Card  ส่งการ์ดสวยสวยในวันอนุรักษ์สัตว์ป่าแห่งชาติ(ไทย)
Wildlife Card ส่งการ์ดสวยสวยในวันอนุรักษ์สัตว์ป่าแห่งชาติ(ไทย)
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ซุปเปอร์บอร์ดจะเป็นอัศวินม้าขาว ทางการศึกษาไทยได้หรือ
ซุปเปอร์บอร์ดจะเป็นอัศวินม้าขาว ทางการศึกษาไทยได้หรือ
เปิดอ่าน 10,886 ครั้ง

11 สัญญาณเตือนว่าลูกกำลังโดนทำร้ายอยู่นะ
11 สัญญาณเตือนว่าลูกกำลังโดนทำร้ายอยู่นะ
เปิดอ่าน 18,711 ครั้ง

บัตรกดเงินสด ตัวช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินของมนุษย์เงินเดือน
บัตรกดเงินสด ตัวช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินของมนุษย์เงินเดือน
เปิดอ่าน 508 ครั้ง

นักวิจัยเผย ผู้หญิงมากกว่าชาย เกือบเก้าแสนคน
นักวิจัยเผย ผู้หญิงมากกว่าชาย เกือบเก้าแสนคน
เปิดอ่าน 10,348 ครั้ง

การทำกรอบรูปวิทยาศาสตร์
การทำกรอบรูปวิทยาศาสตร์
เปิดอ่าน 38,326 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ