ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

5 พฤติกรรม....ทำร้ายดวงตา


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,163 ครั้ง
Advertisement

5 พฤติกรรม....ทำร้ายดวงตา

Advertisement

     

 กิจวัตรหลายอย่างในชีวิตการทำงานอย่างเรา ทำร้ายสุขภาพดวงตาอย่างไม่รู้ตัว หรืออาจจะรู้อยู่แก่ใจ แต่ไม่สน ดวงตาเลยต้องรับศึกหนัก จนวันหนึ่งมีปัญหาเกิดขึ้นนั่นแหละ ถึงหันกลับมาพิจารณาสิ่งที่ทำ แล้วค่อยๆ ปรับพฤติกรรม หยุดทำร้ายดวงตาของเรากันเถอะค่ะ

พฤติกรรม 1 No แว่นกันแดด

     สังเกตว่า ยุคนี้ผู้หญิงเราขับรถเองแทบทั้งนั้น แต่สิ่งที่หญิงสาวเช่นเราห่วงกันมากคือผิวสวยๆ จะถูกแสงแดดทำลาย ตอนไปทำงานก็มัวแต่แต่งหน้าในรถ จนลืมปกป้องดวงตา ทราบไหมว่าแสงที่ตกกระทบบนพื้นผิวอย่างน้ำ กระจก หรือโลหะ ที่พบได้ตลอดเส้นทาง เป็นอันตรายต่อสายตาได้ แต่ถึงอย่างนั้น สาวๆ ส่วนใหญ่ก็ไม่ยอมสวมแว่นกันแดดขณะขับรถ หรือใช้แว่นกันแดดแบบที่ไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งยิ่งส่งผลเสียต่อดวงตาเข้าไปใหญ่

    Advice
      แว่นตากันแดดเก๋ๆ ควรมีติดรถไว้ ขับรถเมื่อไหร่ หยิบขึ้นมาใส่ทันที ไม่ขับรถก็ใส่ได้เหมือนกันค่ะ เพียงแต่แว่นกันแดดที่ว่าก็ควรเป็นแว่นที่สามารถกรองรังสียูวีได้จริง เช็กจากฉลากที่ด้านข้างของแว่น เพื่อให้แน่ใจว่า เป็นแว่นที่กรองแสง UVA และ UVB ได้ 100% โดยเลนส์สีชาและสีเทาเหมาะกับการใช้งานทั่วไปมากที่สุด




  
พฤติกรรม 2 ติดจอ

      การที่ต้องนั่งจับจ้องอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เป็นกิจวัตร ก็เป็นอีกตัวการหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม เรื่องนี้มีการพูดถึงกันบ่อย จะว่าไปอาจจะหลีกเลี่ยงกันยากสักนิด เพราะคอมพิวเตอร์ถือเป็นอุปกรณ์จำเป็นของเกือบทุกองค์กร เจ้าอุปกรณ์ที่ว่าจึงมีอิทธิพลต่อชีวิตเราอย่างเลี่ยงไม่ได้ และด้วยรูปแบบการทำงานลักษณะ “ติดจอ” ที่มักจะอยู่หน้าจอกันเป็นหลัก ทำให้สาวๆ เกิดอาการตาล้า ตาแห้ง ตาแดง และระคายเคือง ยิ่งอยู่ในห้องปรับอากาศด้วยแล้ว ตายิ่งแห้งไปกันใหญ่ อาจเกิดอาการปวดตา ปวดหัว เป็นหนักเข้าก็อาจทำให้เป็นโรคจอประสาทตาเสื่อมก็ได้

   
Advice
     - วางคอมพิวเตอร์ในตำแหน่งที่เหมาะสม หน้าจอควรอยู่ห่างจากตัวเราประมาณ 50-70 ซม. โดยให้ระดับจออยู่ต่ำกว่าระดับสายตาประมาณ 4-9 นิ้ว
     - พยายามเปลี่ยนอิริยาบถบ้าง ลุกขึ้นยืดเหยียดกล้ามเนื้อ อย่ามัวแต่ทำตัวติดจอ ไม่ว่าจะเป็นทีวีหรือคอมพิวเตอร์ก็ตาม เป็นการพักสายตาที่ได้ผลอีกวิธี
     - หากตาเริ่มแห้ง เนื่องจากเพ่งมองคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน ให้กะพริบตาถี่ๆ อาจใช้น้ำตาเทียมหยอดเพิ่มความชุ่มชื้น และควรดื่มน้ำมากๆ ก็ลดอาการตาแห้งได้ดีอีกวิธีหนึ่ง



   พฤติกรรม 3 คอนแทคเลนส์ใช้ผิด

      เดี๋ยวนี้สาวสายตาสั้นมีตัวช่วยให้ดูดีขึ้นหลายอย่าง หนึ่งในนั้นก็คือ คอนแทคเลนส์ หลายคนโยนแว่นตาทิ้งไป หันมาใส่แบบนี้เพื่อเสริมบุคลิก หากใช้อย่างถูกวิธีก็คงไม่มีปัญหา แต่ส่วนใหญ่ที่พบก็คือ มักใส่จนเกินวันหมดอายุตามที่ระบุอยู่บนผลิตภัณฑ์ และทั้งที่อยู่ใกล้ตามากๆ แต่ก็ยังไม่รักษาความสะอาดให้ดี กลับถึงบ้านแล้วไม่ถอดเลนส์ออก เข้านอนทั้งอย่างนั้นก็เยอะค่ะ เลยกลายเป็นขาประจำของโรคตาติดเชื้อไป บางคนเป็นเรื้อรังหนักเข้าอาจถึงขั้นตาบอดได้เลยทีเดียว

    Advice
     - ใช้และรักษาความสะอาดคอนแทคเลนส์ตามคำแนะนำข้างกล่องอย่างเคร่งครัด
     - ซื้อคอนแทคแลนส์จากแหล่งที่เชื่อถือได้ และเลือกที่ผ่านการตรวจสอบมาตรฐาน คุณภาพแล้ว
 



   พฤติกรรม 4 ลองเครื่องสำอางตามเคาน์เตอร์

     ได้ยินคำเตือนกันอยู่บ่อยๆ ถึงการลองสินค้าตัวอย่างตามเคาท์เตอร์เครื่องสำอาง โดยเฉพาะสินค้าจำพวกอายแชโดว์ ที่อาจทำให้ตาของคุณติดเชื้อจากคนที่ลองสินค้านี้ก่อนหน้า สิ่งที่ตามมาก็อาจเป็นการอักเสบจากการติดเชื้อนั่นแหละ คุ้มแล้วเหรอกับการประหยัดด้วยวิธีนี้

    Advice
    
- ไม่ลองเครื่องสำอางโดยตรงกับดวงตา แต่ลองสีกับบริเวณท้องแขนแทน
     - ควรใช้อุปกรณ์อย่างพู่กัน คัตตอนบัด ในการแต่งหน้า เพื่อลดการติดเชื้อ และป้องกันการปนเปื้อนจนเครื่องสำอางเสียก่อนเวลาอันควร
     - เครื่องสำอางเป็นของใช้ส่วนตัวที่ต้องสัมผัสกับผิวของเราโดยตรง ไม่ควรใช้ปะปนกับผู้อื่นโดยไม่จำเป็น
  



   พฤติกรรม 5 ใช้สายตามาราธอน

     ดูทีวี หรืออ่านหนังสือแบบไม่มีลิมิต แทบไม่ได้พักสายตาเลย แบบนี้มีผลเสียแน่นอน เพราะอวัยวะสำคัญต้องทำงานหนักอยู่ตลอด ยิ่งหากมีการเพ่งจ้องเป็นเวลานานด้วยแล้ว คุณอาจเกิดอาการปวดตาเอาง่ายๆ

    Advice
    
- ปรับแสงสว่างของห้องให้เหมาะสม ไม่ให้มีแสงสว่างน้อยจนต้องเพ่ง หรือมากจนรบกวนการการทำงานของดวงตา อาจใช้ผ้าม่านแบบบางเพื่อกรองแสงบางส่วนไว้ ไม่ให้เข้าตาโดยตรง
     - พักสายตาทุกๆ ชั่วโมง เมื่อดวงตาอ่อนล้า อาจจะหลับตา หรือมองไปไกลๆ เพื่อให้สายตาได้พักผ่อน หาต้นไม่สีเขียวต้นเล็กๆ มาวางไว้ที่โต๊ะทำงาน สีเขียวช่วยให้ดวงตาได้ผ่อนคลาย


        
ดูแลใส่ใจ ก่อนดวงตาคู่สวยจะถูกทำร้ายมากไปกว่านี้ดีกว่าค่ะ




     วิธีถนอมดวงตาแบบง่ายๆ   


    - หลีกเลี่ยงการใช้มือสกปรกขยี้หรือเช็ดตา

    - บริหารดวงตาด้วยการกรอกลูกตาวนตามเข็มนาฬิกาเป็นวงกลม แล้วกรอกทวนเข็มนาฬิกา ทำซ้ำ 3-4 ครั้ง วิธีนี้ใช้ได้ทุกครั้งเมื่อตาเกิดอาการเมื่อยล้า

    - กินผักและผลไม้สดที่มีส่วนประกอบของวิตามินเอ มีสารต้านอนุมูลอิสระ และมีส่วนประกอบของลูทีน จำพวกผักใบเขียว แครอท ผักโขม ฟักทอง ควบคู่ไปกับอาหารที่มีส่วนประกอบของโอเมกา 3 เพื่อบำรุงสายตา และทำให้การทำงานของตามีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น










 

 



 


ที่มา .... Modern Mom / women.thaiza.com

 

 

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 7254 วันที่ 11 ต.ค. 2552

หน้าหนาวแล้ว คุณครูสนใจไหม DoDo เก้าอี้แคมป์ปิ้ง รับน้ำหนักได้เยอะ พร้อมกระเป๋าจัดเก็บ โครงอลูมิเนียมรับน้ำหนักได้200KG ในราคา ฿189 - ฿509 ที่ Shopee

https://s.shopee.co.th/9pNuttuIUm?share_channel_code=6


5 พฤติกรรม....ทำร้ายดวงตา5พฤติกรรม....ทำร้ายดวงตา

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

บรรยากาศ ณ.......สวรรค์และนรก

บรรยากาศ ณ.......สวรรค์และนรก


เปิดอ่าน 7,177 ครั้ง
บางที่น่าเที่ยว

บางที่น่าเที่ยว


เปิดอ่าน 7,168 ครั้ง
เผยแพร่ผลงาน

เผยแพร่ผลงาน


เปิดอ่าน 7,162 ครั้ง
คุณค่าของนิทานพื้นบ้าน

คุณค่าของนิทานพื้นบ้าน


เปิดอ่าน 8,758 ครั้ง
ฟันธง! "ไข่" เกิดก่อน "ไก่"

ฟันธง! "ไข่" เกิดก่อน "ไก่"


เปิดอ่าน 7,164 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

" ความทรงจำ "

" ความทรงจำ "

เปิดอ่าน 7,166 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
รู้จักผู้สร้างตำนาน "Ctrl+Alt+Delete" อันโด่งดัง
รู้จักผู้สร้างตำนาน "Ctrl+Alt+Delete" อันโด่งดัง
เปิดอ่าน 7,157 ☕ คลิกอ่านเลย

นวัตกรรมหนังสือภาพ pop up เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านของเด็กปฐมวัย
นวัตกรรมหนังสือภาพ pop up เพื่อส่งเสริมทักษะการอ่านของเด็กปฐมวัย
เปิดอ่าน 7,162 ☕ คลิกอ่านเลย

ระวัง..แก๊งธูปหอม
ระวัง..แก๊งธูปหอม
เปิดอ่าน 7,160 ☕ คลิกอ่านเลย

สุดยอดคุณแม่บ้านต้นแบบแห่งยุคโลกร้อน
สุดยอดคุณแม่บ้านต้นแบบแห่งยุคโลกร้อน
เปิดอ่าน 7,159 ☕ คลิกอ่านเลย

เผยโฉมรถพลังไฟฟ้าฝีมือคนไทย
เผยโฉมรถพลังไฟฟ้าฝีมือคนไทย
เปิดอ่าน 7,175 ☕ คลิกอ่านเลย

เรื่องง่ายๆที่ใครๆ(คง)รู้แล้ว
เรื่องง่ายๆที่ใครๆ(คง)รู้แล้ว
เปิดอ่าน 7,162 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

8 โรคห้ามรับราชการ
8 โรคห้ามรับราชการ
เปิดอ่าน 148,569 ครั้ง

วิธีแก้อาการปวดหลัง
วิธีแก้อาการปวดหลัง
เปิดอ่าน 18,293 ครั้ง

เทคนิคการปลูกกล้วย ให้มีกลิ่นต่างๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างดี
เทคนิคการปลูกกล้วย ให้มีกลิ่นต่างๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างดี
เปิดอ่าน 20,765 ครั้ง

คุณหมอญี่ปุ่นแนะนำ! วิธีสร้างนิสัยการนอนหลับที่ดีเพื่อป้องกันโรคสมองเสื่อม
คุณหมอญี่ปุ่นแนะนำ! วิธีสร้างนิสัยการนอนหลับที่ดีเพื่อป้องกันโรคสมองเสื่อม
เปิดอ่าน 5,426 ครั้ง

การวัดปริมาณน้ำฝน
การวัดปริมาณน้ำฝน
เปิดอ่าน 31,434 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ