ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

กระตุ้นภูมิคุ้มกันด้วยอาหาร


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,141 ครั้ง
Advertisement

กระตุ้นภูมิคุ้มกันด้วยอาหาร

Advertisement

กระตุ้นภูมิคุ้มกันด้วยอาหาร

        มีโอกาสได้คุยกับอาจารย์ดวงทิพย์ อาโรร่า (Duangthip Arora) ผู้เชี่ยวชาญด้านธรรมชาติบำบัด แม้จะได้รับปริญญาตรีด้านบริหารธุรกิจแล้ว แต่เธอก็ยังเดินทางไปอบรมจากสถาบันทางอายุรเวทศาสตร์ ที่ประเทศอินเดีย และอบรมด้านโภชนาการและไดเอตจากวิทยาลัยที่ลอนดอน

        "เราเรียนมาจากอินเดีย ตอนนั้นก็ทำเวิร์คช็อปแล้วรู้สึกว่าทุกคนไม่ค่อยมีความตระหนักว่าโฮลิสติก (Holistic) คืออะไร มันช่วยร่างกายเราได้อย่างไร อายุรแพทย์แบบนี้มันเก่าและลึกซึ้งมาก และทุกวันนี้ยังใช้ได้ อย่างเรามีลูกเราก็รู้ว่าต้องทำอะไร เราไม่ต้องวิ่งไปโรงพยาบาล เรารู้สึกว่าความรู้ตรงนี้ช่วยเรามากๆ เด็กสมัยนี้ต้องพึ่งพาเคมีตั้งแต่เล็กๆ เลย ซึ่งมันน่าจะมีความรู้เดิมที่บรรพบุรุษเคยใช้มาหลายพันปีแล้ว อาจารย์ก็พยายามเอาอายุรแพทย์ที่อธิบายง่ายๆ มารวมกับโภชนาการสมัยใหม่ จะได้อาศัยให้เขาเข้าใจง่าย

        เซลล์ของเรามันมาจากธรรมชาติทั้งหมด ดังนั้นสิ่งที่จะช่วยสุขภาพของเราก็ต้องมาจากธรรมชาติ เพราะเซลล์ของเรากับอาหารที่มาจากธรรมชาติ มันรู้ว่าจะย่อยยังไง ดูดซึมยังไง แต่อาหารที่มาจากเคมี มันจะทำให้ระบบของเรารวน ระบบต่างๆ ในร่างกายจะทำงานไม่ได้เต็มที่ พอไม่เต็มที่ไวรัส แบคทีเรียก็จะเพิ่มขึ้น เพราะภูมิคุ้มจะไมได้ทำงานเต็มที่ ระบบภูมิคุ้มกันภูมิแพ้ไปจนถึงมะเร็งจะล้มเหลว นี่คือผลเสียของการที่เคมีมายุ่งกับเรามากไป

        ในคนในชุมชนเมืองต่างประเทศในอเมริกาหรือในยุโรปบางเมือง คนจะมีอัตราของภาวะอ้วน มะเร็งเต้านม สูงกว่าประเทศเรา ซึ่งเขาก็ยอมรับนะคะว่าวิถีชีวิตแบบเอเชียของเราทำให้คนเป็นโรคมะเร็งน้อยกว่า เพราะว่าคนที่อยู่ในเมืองของเขาลืมเรื่องพวกนี้ไปหมดแล้ว ความเป็นเมืองของเขาคือโมเดิร์นมากแล้ว โมเดิร์นแปลว่าอะไร แปลว่าไปไกลจากธรรมชาติ แต่ตอนนี้ที่กรุงเทพฯ ก็คล้ายๆ อเมริกาแล้ว อาหารรสชาติธรรมชาติเป็นยังไงเราลืมหมดแล้ว

        แล้วเราก็กินอาหารกระป๋อง นมที่ปรุงแต่ง แล้วเราก็จะอยากกินหวานขึ้น เค็มขึ้น เพราะในอาหารกระป๋องจะมีโซเดียมสูง (โซเดียมคลอไรด์) แล้วมันจะไปปรับการรับรสของเราให้ต้องการเค็มมากขึ้นเรื่อยๆ จนป่วย หวานก็เหมือนกัน หวานเคมีจะทำให้เด็กต้องการหวานไปเรื่อยๆ ภายใน 2 ปีแรก อาจารย์ไม่ให้ลูกกินอาหารในแพ้กเก็จ แต่จะทำที่บ้านให้กิน ผักผลไม้สดๆ ไม่ต้องใส่เกลือ น้ำตาล เพื่อให้เขารู้จักรสชาติของธรรมชาติ ตอนนี้เขา 5 ขวบแล้วกินขนม 2 อันก็รู้สึกว่าหวานมากแล้ว ไม่อยากกินแล้ว

เวลาป่วย ไม่ต้องอาศัยยา อาศัยสมุนไพร 
        อาจารย์บอกอย่างนี้แล้วกัน เป็น Integrated Approch เหมือนที่อาจารย์ทำ เวลาลูกเริ่มจะเป็นหวัด ก็ทำซุปสมุนไพร พวกขิงข่าตะไคร้ แล้วก็กินน้ำผึ้ง เพราะน้ำผึ้งมีสารที่ทำให้ขี้มูกเราแห้งๆแต่บางทีไม่ไหวก็กินยาพาราเซตามอลก็ได้ แต่ไม่ต้องอาศัยยาก่อน บางทีเราเอาตะไคร้ กะเพรา มันก็มีปฏิกิริยาเหมือนกินยาเคมี เพียงแต่คนลืมไปแล้ว ไม่ใช้แล้ว กินยาเคมีนะ แต่ไม่อาศัย ไม่พึ่งพิงยาเคมีอย่างเดียว อย่างเวลาลูกไม่สบาย เขามีไข้สูงมาก ก็ให้กินสมุนไพรก่อน แล้วก็ให้ยาพารา ไม่งั้นเขาจะชัก หรือไม่เราก็เอาเราเอาเมล็ดผักชี แช่น้ำธรรมดาไม่ต้องอุ่นด้วย แช่ทั้งคืน อีกวันก็ให้เด็กกินน้ำนั้นทั้งวัน ไข้จะไม่สูงขึ้น สูงขึ้นก็ให้กินยาพารา แต่น้อยกว่าที่เขากำหนดไว้ ก็เป็นสมุนไพรที่หาได้ในห้องครัว

        เรื่องพวกนี้ควรจะเริ่มตั้งแต่เด็ก เพราะในช่วง 1-3 ปีเป็นช่วงที่อวัยวะของเด็กกำลังสร้างตัวเอง และอวัยวะต้องการอาหารที่ดี ยิ่งธรรมชาติยิ่งให้ปราณสูงกว่า ถ้าคุณเลิกกินอาหารอย่างอื่นแล้วกินออร์แกนิกฟู้ดอย่างเดียว คุณจะมีพลังเพิ่มขึ้น

ไลฟ์สไตล์ที่เกื้อกูลให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานดี
        - ออกกำลังกายเพียงพอ พักผ่อนให้เพียงพอ 
        - คิดแง่บวกและอารมณ์ดี 
        - อยู่ในที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ 
        - ไม่เครียดทั้งที่บ้านและที่ทำงาน 
        - นึกถึงบุญคุณของสิ่งต่างๆ รอบตัว
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง 
        - แป้งขาว น้ำตาลขาว อาหารทอด อาหารแช่แข็ง (หรือใช้ไมโครเวฟ) แครกเกอร์ที่ขายอยู่ทั่วไป 
        - สารปรุงแต่งอาหารทั้งหลาย สี กลิ่น ผงชูรส สารกันบูด
อาหารที่สร้างภูมิต้านทานได้ดี 
        - โหระพา ขิง กระเทียม มะขามป้อม น้ำผึ้ง ข้าวกล้องออร์แกนิก เมล็ดอัลมอนด์ โยเกิร์ตที่ทำเอง ขมิ้น 
        - นมวัวแบบออร์แกนิก และน้ำมันเนย (เป็นน้ำมันที่คนอินเดียรู้จักในชื่อว่า Ghee หรือบางคนอาจจะคุ้นกับ
        - คำว่าเนยใส) อาหารพวกนี้จะกระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายของเรา ซึ่งก็คือเม็ดเลือดขาวและแอนตีบอดี้ในระบบต่างๆ ให้ทำงานต่อต้านการรุกรานจากไวรัสหรือเชื้อโรคได้อีก
อาหารที่ไม่ควรกินคู่กัน 
        - อาหารร้อนและอาหารเย็น 
        - หวานและเปรี้ยว เช่น นมกับผลไม้ นมกับมะนาว 
        - โปรตีนกับโปรตีนด้วยกัน (โปรตีนสองอย่างใน 1 มื้อ) เช่น ไข่กับนม เนื้อไก่กับเนื้อหมู โยเกิร์ตกับปลา 
        - ผลไม้ควรกินหลังอาหาร 1 ชม.

***** ของที่แพงที่สุดไม่จำเป็นต้องดีที่สุด / นมที่มีอายุยาวจะมีคุณค่าน้อย *****


ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 4030 วันที่ 7 ต.ค. 2552


กระตุ้นภูมิคุ้มกันด้วยอาหาร

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

นิทานเวตาล ....เรื่องที่ 11

นิทานเวตาล ....เรื่องที่ 11


เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง
ผิวใส.....ทำอย่างไรกันนะ

ผิวใส.....ทำอย่างไรกันนะ


เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง
ลางบอกเหตุ...สมองเสื่อม!!

ลางบอกเหตุ...สมองเสื่อม!!


เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง
การตกแต่งบ้านด้วยรูปภาพ

การตกแต่งบ้านด้วยรูปภาพ


เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง
ผลงานวิชาการเผยแพร่

ผลงานวิชาการเผยแพร่


เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง
Clip : งานไว้อาลัย Michael Jackson

Clip : งานไว้อาลัย Michael Jackson


เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

  ทำนายรัก....จากอายุตุณทั้งคู่

ทำนายรัก....จากอายุตุณทั้งคู่

เปิดอ่าน 7,142 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
Today was yesterday
Today was yesterday
เปิดอ่าน 7,143 ☕ คลิกอ่านเลย

เพื่อชีวิตที่สดใส...ดับไฟโกรธกันเถอะ
เพื่อชีวิตที่สดใส...ดับไฟโกรธกันเถอะ
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย

อบรมค่ายคุณธรรมพร้อมรับสื่อ
อบรมค่ายคุณธรรมพร้อมรับสื่อ
เปิดอ่าน 7,146 ☕ คลิกอ่านเลย

เฮ้ย...ทำได้ไง
เฮ้ย...ทำได้ไง
เปิดอ่าน 7,143 ☕ คลิกอ่านเลย

 ปัญหามีทางแก้อย่างสร้างสรรค์เสมอ ...วิกฤติกับโอกาส
ปัญหามีทางแก้อย่างสร้างสรรค์เสมอ ...วิกฤติกับโอกาส
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย

ขอความคิดเห็นด้วยครับ
ขอความคิดเห็นด้วยครับ
เปิดอ่าน 7,144 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ทำไมจึงตื่นเต้นกันนักหนาเมื่อญี่ปุ่นค้นพบ แหล่งแร่โลหะหายาก ที่เกาะมินามิโตริ โดย โกวิท วงศ์สุรวัฒน์
ทำไมจึงตื่นเต้นกันนักหนาเมื่อญี่ปุ่นค้นพบ แหล่งแร่โลหะหายาก ที่เกาะมินามิโตริ โดย โกวิท วงศ์สุรวัฒน์
เปิดอ่าน 11,265 ครั้ง

ขจัดกลิ่นเท้าด้วยมะนาว
ขจัดกลิ่นเท้าด้วยมะนาว
เปิดอ่าน 11,345 ครั้ง

อันตรายจากการกินของดอง
อันตรายจากการกินของดอง
เปิดอ่าน 24,112 ครั้ง

พื้นที่ของรูปหลายเหลี่ยม
พื้นที่ของรูปหลายเหลี่ยม
เปิดอ่าน 76,284 ครั้ง

สมองที่ไร้ข้อมูล ความรู้และความคิด
สมองที่ไร้ข้อมูล ความรู้และความคิด
เปิดอ่าน 10,519 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ