ชื่อเรื่อง รายงานผลการพัฒนาและการใช้บทเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้
การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระที่ 1 การดำรงชีวิตและครอบครัว
(งานเกษตร) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ผู้ศึกษาค้นคว้า นางสาวสุมาลี งามสง่า
ปีที่พิมพ์ 2552
บทคัดย่อ
การศึกษานี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) สร้าง และพัฒนาบทเรียนสำเร็จรูป กลุ่ม สาระการงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระที่ 1 การดำรงชีวิตและครอบครัว (งานเกษตร) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) หาดัชนีประสิทธิผล 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน 4) เปรียบเทียบหาความคงทนในการเรียนรู้ของนักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนสำเร็จรูป 5) ประเมินความพึงพอใจของนักเรียน จากการเรียนรู้โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป ที่สร้างและพัฒนาขึ้น สมมติฐานการศึกษา ได้แก่ บทเรียนสำเร็จรูป ที่สร้างและพัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 และนักเรียนที่เรียนโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป ที่ผู้ศึกษาสร้างและพัฒนาขึ้น มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกลุ่มตัวอย่างได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) จากนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเมืองบัววิทยา ปีการศึกษา 2551 จำนวน 26 คน โดยใช้ประชากรเป็นกลุ่มตัวอย่าง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ บทเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระที่ 1 การดำรงชีวิตและครอบครัว (งานกษตร) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 10 เล่ม แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน แบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 50 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจ ของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป ที่ผู้ศึกษาสร้างและพัฒนาขึ้น สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานโดยใช้ t – test (Dependent Sample) ผลการศึกษาพบว่า การเรียนรู้ของนักเรียนโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระที่ 1 การดำรงชีวิตและครอบครัว (งานกษตร) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ผู้ศึกษาสร้างและพัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.92/89.62 ที่สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้ ดัชนีประสิทธิผลที่แสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนรู้เพิ่มขึ้นเท่ากับ .7424 หรือคิดเป็นร้อยละ 74.24 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ .01 นักเรียน มีคะแนนเฉลี่ยความคงทนด้านการเรียนรู้หลังจากเรียนไปแล้ว 14 วัน ไม่แตกต่างกันจากคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน มีความพึงพอใจโดยรวมในระดับ “พึงพอใจอย่างยิ่ง” ต่อการเรียนรู้โดยใช้บทเรียนสำเร็จรูปที่ผู้ศึกษาสร้างและพัฒนาขึ้น ( = 4.97 และค่า S.D. = 0.06)
สรุปได้ว่าบทเรียนสำเร็จรูปเหมาะสมต่อพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียน ควรนำไปเผยแพร่เพื่อเป็นแหล่งอ้างอิงในการศึกษาค้นคว้า และพัฒนาคุณภาพนักเรียนอย่างกว้างขวางต่อไป