วันนี้ (14 ก.ย.) นายต่ายกับนายปุ๊ (นามสมมติ) อายุ 22 ปีเท่ากัน นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านบางเขน เข้าร้องเรียนกับนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กสตรี ขอให้ช่วยเร่งรัดตำรวจให้ดำเนินคดีกับเจ้าของหอพักไม่มีชื่อแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นอาคาร 5 ชั้น ตั้งอยู่ในซอยพลหโยธิน 53 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน ที่ติดตั้งกล้องทีวีวงจรปิดไว้ในห้องพักของนักศึกษาที่มาเช่าพัก แม้กระทั่งในห้องน้ำห้องพักเพื่อแอบถ่ายด้วย
โดยนักศึกษาหนุ่มทั้งสอง เปิดเผยว่า เมื่อต้นเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ทั้งสองพร้อมกับแฟนสาวนักศึกษาที่เดียวกันเพิ่งเข้าไปเช่าห้องที่หอพักแห่งนี้ได้ 5 วัน มีความรู้สึกว่าเวลาใช้โทรศัพท์มือถือโทรตอนอยู่ในห้องพักทุกครั้งสัญญาณจะขาดหายหรือโทรติดยากทุกครั้ง กระทั่งไปเจอเว็บไซด์ในอินเทอร์เน็ตสอนให้สังเกตว่า ถ้าหากสัญญาณโทรศัพท์มือถือขาดหายขณะโทรอยู่ในห้องของหอพัก ขอให้เชื่อว่ามีการแอบติดกล้องทีวีวงจรปิดไว้ในห้องนั้นเพื่อ “แอบถ่าย” และให้ใช้วิธีเอากล้องถ่ายภาพหรือวีดิโอในโทรศัพท์มือถือถ่ายภาพไปยังจุดที่สงสัยว่ามีกล้องวงจรปิดติดตั้งซ่อนอยู่ แล้วให้นำรีโมทคอนโทรลของทีวีหรือรีโมทเครื่องปรับอากาศ กดปุ่มใดก็ได้ชี้ไปจุดที่สงสัยว่ามีกล้องซ่อนอยู่ ถ้ามีกล้องวงจรปิดซ่อนจริงจะมีแสงสีแดงกระจายออกมาจากจุดดังกล่าวให้เห็นทันทีขณะกดรีโมท
นักศึกษาหนุ่มทั้งสอง กล่าวต่อว่า จึงทำตามวิธีดังกล่าวปรากฏว่าต้องตกตะลึงเพราะมีแสงสีแดงกระจายออกมาจากฝ้าเพดานบนหัวเตียงในห้องที่ตนเช่าพักอยู่กับแฟนนสาว รวมทั้งในห้องน้ำ จึงตามแสงสีแดงที่ออกมาจากฝ้าเพดานในห้อง เมื่อเปิดแผ่นฝ้าทั้งที่หัวเตียงและในห้องน้ำออกจึงพบกล้องถ่ายวีดิโอขนาดจิ๋วติดตั้งไว้ที่เพดานจุดละ 1 ตัว โดยพบว่ามีสายไฟฟ้าต่อจากกล้องไปยังห้องพักของเจ้าของหอพักซึ่งเป็นชายหนุ่ม ตนจึงเก็บกล้องทีวีขนาดจิ๋วไว้เป็นหลักฐาน ก่อนเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.บางเขน เมื่อช่วงค่ำวันที่ 5 ก.ย.ที่ผ่านมา เพราะเชื่อว่า ตนกับแฟนสาว และเพื่อน ๆ นักศึกษาชายที่มาขอยืมใช้ห้องอยู่กับแฟนสาวถูกแอบถ่ายวีดิโอขณะมีเซ็กส์กันทั้งบนเตียงนอนและในห้องน้ำโดยเจ้าของหอพัก แต่เรื่องกลับเงียบหายไปไม่มีการดำเนินการใด ๆ กับเจ้าของหอพักแอบถ่ายดังกล่าว พวกตนเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงมาร้องเรียน
จากนั้นนางปวีณา ได้นำ 2 นักศึกษาหนุ่มผู้เสียหาย เข้าพบ พ.ต.อ.พัฒนา แพศยนาวิน ผกก.สน.บางเขน เพื่อเร่งรัดคดีสืบสวนสอบสวนนำตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี โดย พ.ต.อ.พัฒนา ให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้เสียหายเพิ่มเติมเพื่อรวบรวมขอศาลออกหมายค้นหอพักดังกล่าว เบื้องต้นพฤติกรรมลักษณะที่เกิดขึ้นเข้าข่ายบุกรุกเคหสถานยามวิกาล ก่อความเดือดร้อนรำคาญ ซึ่งหากพบวีดิโอที่สงสัยว่าบันทึกภาพแอบถ่ายไว้ถึงจะลบภาพออกแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถนำส่งผู้เชี่ยวชาญกู้ภาพกลับได้ หากมีการทำผิดจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมภายหลัง
ด้านนางปวีณา ฝากเตือนถึงบรรดานักศึกษาหนุ่มสาวที่เช่าห้องพักอยู่ด้วยกันให้หมั่นตรวจสอบในห้องพักเพื่อความปลอดภัยจากการถูกแอบถ่ายจากพวกโรคจิตที่ชอบแอบดูหรืออาจนำไปบันทึกลงแผ่นซีดีเป็นภาพยนตร์ลามกประเภทแอบถ่ายนักศึกษาในหอพักออกจำหน่ายโดยไม่ต้องลงทุนจ้างดารานำแสดง ทำให้ได้รับความอับอายซึ่งถือเป็นภัยที่ใกล้ตัวมากโดยที่ไม่มีใครคาดคิด.