Advertisement
❝ สนับสนุนโดย ชมรมพระจันทร์ยิ้ม โทรติดต่อ 0864113996 ❞
พวกเราทุกคนต่างก็เคยผ่านประสบการณ์ต่างๆในชีวิตมาไม่มากก็น้อย บางครั้งอาจเคยล้มเหลวในบางเรื่อง บางคราวอาจประสบความสำเร็จในบางสิ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิต คนเราเมื่อเกิดมาแล้วคงไม่มีใครไม่เคยทำอะไรผิดพลาด เพราะผู้รู้กล่าวไว้ว่า “คนที่ยังไม่เคยทำอะไรผิดพลาด คือคนที่ยังไม่ได้ลงมือทำอะไร” แน่นอนที่ทุกคนต่างต้องเคยพบเจอกับอุปสรรคมาบ้างแล้วในช่วงชีวิตที่ผ่านมา ทว่าบางครั้งเมื่อเราล้มก็ยังสามารถลุกขึ้นหยัดยืนเพื่อก้าวเดินต่อไปได้ เพราะเมื่อชีวิตยังไม่สิ้น คนเราย่อมสามารถต่อสู้ในการดำเนินชีวิตต่อไปได้เสมอ หากมีกำลังใจพอเพียง ทว่าในชีวิตที่ผ่านมานั้น พวกเราเคยหยุดเดินแล้วถามตนเองอย่างจริงใจหรือไม่ว่า “ย่างก้าวที่เราเดินมานั้นทำไปเพื่ออะไร” คำตอบหนึ่งของคำถามนี้ที่หลายคนคงปฏิเสธไม่ได้ก็คือ “เราต้องการแสวงหาความสุข” เพราะเป็นที่แน่นอนว่าคนเราทุกคนต่างต้องการประสบพบเจอความสุขด้วยกันทั้งสิ้น คงไม่มีผู้ใดที่ปรารถนาจะได้รับความทุกข์ทรมาน แม้แต่สัตว์เดรัจฉานมันก็ยังปรารถนาความสุขเช่นเดียวกันกับเรา แต่คำตอบนี้ก็ยังนำไปสู่อีกหนึ่งคำถามที่ว่า “เราพบความสุขที่แท้จริงแล้วหรือยัง” ทั้งนี้เราจะเห็นได้ว่าหลายๆคนที่ต่างพากันทำทุกวิถีทางเพื่อเสาะแสวงหาความสุข ต้องการไขว่คว้าให้ได้มันมา บางครั้งอาจลืมไปว่าสิ่งที่ต้องการนั้นคือความสุข แต่ทว่าแลดูเหมือนยิ่งวิ่งไล่ตามความสุขที่แท้จริงกลับยิ่งหนีห่างออกไปเรื่อยๆ เหมือนกับหลายคนที่ตั้งหน้าตั้งตาทำงานตัวเป็นเกลียวเพื่อให้ได้มาซึ่งเงินที่เชื่อว่าจะสามารถนำมาซื้อความสุขให้กับตนเองได้ แต่ที่ได้กลับมานั้นเป็นเพียงแค่ความสุขจอมปลอมชั่วครั้งชั่วคราว หลายสิ่งที่เงินไม่อาจซื้อได้ บางคนลืมนึกถึงความอบอุ่นของครอบครัวไป จนบางครั้งต้องสูญเสียบางสิ่งที่มีค่าไปโดยไม่สามารถเรียกร้องให้กลับคืนมาได้ บางที คนเรากว่าจะรู้คุณค่าของอะไรสักอย่างก็ต่อเมื่อต้องสูญเสียมันไปแล้ว นี่ถือเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่ง
|
โดยทั่วไปคนเรามักหลงตัวเองว่ามนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐมีสติปัญญาสามารถเอาชนะธรรมชาติได้ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว ยังมีอีกหลายอย่างที่ตนไม่รู้ไม่เข้าใจและอีกหลายสิ่งที่ยังไม่อาจจะเอาชนะได้ อย่างน้อยที่สุดก็คือ “จุดหมายปลายทางของทุกชีวิต” นั่นก็คือความตายนั่นเอง เราไม่อาจปฏิเสธได้ว่าทุกชีวิตที่เกิดมาในโลกใบนี้ต่างต้องก้าวไปสู่ความตายด้วยกันทั้งสิ้นไม่มีข้อยกเว้น ไม่ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย ร่ำรวยเพียงไหน สูงศักดิ์เพียงใดก็ต้องตายเสมอกัน ความตายไม่เคยเลือกที่รักมักที่ชังหรือเห็นแก่หน้าผู้ใด ราวกับว่าทุกชีวิตที่เกิดมาต่างต้องโทษประหารชีวิตด้วยกันทั้งสิ้นเพียงแต่รอลงอาญา ช้าเร็วต่างกันไปเท่านั้น เราจึงควรเห็นอกเห็นใจกันต่อทุกชีวิตที่เป็นเพื่อนร่วมเกิดตาย จะมีประโยชน์อะไรที่จะโกรธกัน ขุ่นข้องหมองใจกัน ในเมื่อเวลาที่จะได้ประสบพบเจอกันนั้นแสนสั้น ความตายนั้นเป็นสิ่งสามัญที่เราจะต้องประสบไม่วันใดก็วันหนึ่งอย่างแน่นอน ทว่าเราโดยมากกลับไม่รู้และไม่เข้าใจ ว่า “ชีวิตนี้คืออะไร” และ “ความตายที่เราจะต้องประสบนั้นแท้จริงเป็นอย่างไร” เราเองกลับมองข้ามและไม่เข้าใจมันอย่างแท้จริงตลอดมา ดังนั้นแม้ว่าเราอาจจะรู้เรื่องราวต่างๆมากมาย ทำสิ่งต่างๆราวกับเอาชนะธรรมชาติได้ สามารถเหยียบย่างไปถึงดวงจันทร์หรือท่องไปในอวกาศอันไกลโพ้น แต่หากเรายังไม่อาจเข้าใจในเรื่องชีวิตของตนเองอย่างแจ้งชัดแท้จริงแล้ว สิ่งที่เรารู้อื่นๆนั้นอาจไม่สามารถช่วยเหลือนำพาเราไปสู่ความสุขที่แท้จริงได้ เปรียบเหมือนนักปราชญ์ที่เรียนรู้และเชี่ยวชาญในศาสตร์ต่างๆมากมาย แต่ว่ายน้ำไม่เป็น เมื่อเรืออับปางลงในมหาสมุทรอันยิ่งใหญ่แต่ไม่มีเรือเล็กหรือชูชีพอะไรให้เกาะได้เลยการจะเอาตัวรอดในสถานการณ์เยี่ยงนี้ก็คงยากเหลือกำลัง ผู้ที่ต้องประสบกับความตายโดยที่มิได้เตรียมตัวรับมันก็คลายคนตกน้ำในพายุที่โหมกระหน่ำโดยที่ไม่เคยฝึกว่ายน้ำมาก่อนและไม่มีเครื่องชูชีพอันใด ชีวิตคนเราในยุคนี้อย่างยืนยาวก็เกินร้อยปีไปไม่มากนัก อย่างไรเสียก็ต้องก้าวย่างไปสู่ความตาย ทว่าความตายมิใช่ว่าจะมาในยามที่เราพร้อมรับมือเสมอไป คนเราไม่อาจรู้ได้ว่าความตายจะมาเยือนเมื่อใด ฉะนั้นแท้จริงแล้วเราไม่ควรประมาทในการดำเนินชีวิต เด็กบางคนตายตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์มารดา บางคนเมื่อคลอดออกมาแล้วก็ตาย บางรายตายแต่ยังเยาว์วัย บางคนก็ตายในวัยหนุ่มสาว ขณะที่ส่วนหนึ่งตายเมื่อแก่เฒ่าถึงวัยชรา เห็นได้ว่า “ไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอน สิ่งที่แน่นอนก็คือความไม่แน่นอน” นี้เป็นสัจธรรมของโลกอย่างหนึ่งซึ่งยากที่จะปฏิเสธ ดังนั้น อย่าประมาทว่าเรายังเด็กอยู่ ยังหนุ่มยังสาวอยู่ เรื่องความตายคงจะยังอีกไกล ในความเป็นจริงคนหนุ่มสาวตายก่อนผู้เฒ่าคนชราก็มีมากมาย ใช่ว่าผมขาวจะต้องตายก่อนผมดำเสียเมื่อไร เราคงจะเคยพบเห็นผมขาวเผาผีผมดำมาบ้างแล้ว ฉะนั้นผู้ประมาทในชีวิตคิดว่าความตายเป็นเรื่องไกลตัวควรรีบเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ก่อนที่จะสายเกินแก้
|
ปราชญ์ท่านกล่าวไว้ว่า ความตายอยู่ใกล้เราแค่ปลายจมูก “หายใจเข้าไม่หายใจออกก็ตาย หายใจออกไม่หายใจเข้าก็ตาย” เวลาที่เรานอนหลับลงไปในคืนนี้ วันพรุ่งนี้ที่จะมาถึง เราจะยังมีลมหายใจอยู่หรือไม่ก็ไม่มีใครจะรับประกันได้ ชาวธิเบต จึงมีภาษิตว่า “เราไม่อาจทราบได้ว่า วันพรุ่งนี้หรือชาติหน้าจะมาถึงก่อนกัน” ดังนั้นพวกเราทุกคนจึงควรเห็นคุณค่าของชีวิตของเรา ว่าชีวิตนี้แสนสั้น ทว่ามีค่ายิ่งหากเรารู้ค่าของชีวิตอย่างแท้จริง เราจะดำเนินชีวิตอย่างถูกต้องดีงามและมีความหมาย ก่อนที่เราจะลาลับจากโลกนี้ไป หลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า “ประสบความสำเร็จในชีวิต” บางคนคิดว่าคือการได้เรียนจนสำเร็จการศึกษาสูง ๆ หรือไม่ก็เป็นอัจฉริยะที่คิดค้นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ทำให้ทุกคนยอมรับและจดจำ บางคนคิดว่าคือการร่ำรวยมีทรัพย์สมบัติให้ใช้อย่างสบายไปตลอดชีวิต บางคนก็คิดว่าต้องได้แต่งงานกับคนที่ดีพร้อมและมีลูกที่น่ารัก มีครอบครัวที่อบอุ่นสิ่งเหล่านี้ ใช่การประสบความสำเร็จในชีวิตที่แท้จริงหรือเปล่าหนอ อาจจะใช่ถ้าความสุขนั้นเป็นสิ่งเที่ยงแท้แน่นอนไม่แปรผันและคงอยู่ตราบนานเท่านานมิเสื่อมสลาย ทว่าความเป็นจริงมิได้มีสิ่งใดที่จีรังยั่งยืน แม้เราอาจมีครอบครัวที่อบอุ่น มีคนที่เรารักและรักเราที่ดีแสนดีสักปานใด แต่เราก็ไม่อาจฝืนกฎธรรมชาติ ไม่สามารถอยู่กันไปชั่วนิจนิรันดร์ได้ ทรัพย์สมบัติภายนอกก็มิอาจรับประกันได้ว่าจะอยู่กับเราตลอดไป หลายคนเคยร่ำรวยแล้วต้องกลับตกอับยากจน หลายคนเคยยิ่งใหญ่ก็อาจกลับตกต่ำได้ ชีวิตคนเรามิใช่อะไรที่มั่นคงถาวร ในความเป็นจริงนั้นมันแสนจะคลอนแคลนหาได้เป็นไปดังใจเราต้องการทุกอย่างไม่ ฉะนั้นสิ่งใดเล่าที่จะเป็นการประสบความสำเร็จที่แท้จริงในชีวิตของคนเรา แน่นอนที่สุดว่าสิ่งนั้นก็คือความสุขที่แท้จริงที่จะต้องไม่เปลี่ยนแปลงแปรผันไป นั่นคือ “ความพ้นทุกข์” อันเป็นสิ่งที่ทุกชีวิตต่างต้องการอย่างแท้จริง
|
สำหรับเรา ๆ ท่าน ๆ การประสบความสำเร็จในชีวิตนี้ก็คือ “อยู่อย่างมีความหมาย และจากไปอย่างเป็นสุข” เพราะชีวิตนี้มีเริ่มต้นและสิ้นสุดเป็นของคู่กัน ซึ่งแท้ที่จริงหาได้มีสิ่งใดเกิดขึ้นและสิ่งใดสิ้นสุดจริงๆไม่ ทว่าเป็นเพียงกระแสของการแปรเปลี่ยนตามเหตุตามปัจจัยที่เรียกว่า “ความเป็นเช่นนั้นเอง” แต่โดยสายตาของสามัญชนย่อมสมมติบัญญัติว่าชีวิตมีเกิดขึ้นเป็นจุดเริ่มและตายลงเป็นจุดสุดท้ายหากยังมีกระแสแห่งความสืบเนื่องก็ย่อมเกิดขึ้นสืบต่อและดับไปเป็นที่สุด เกิดแล้วดับ ดับแล้วเกิดเป็นกระแสต่อเนื่องไปตามเหตุปัจจัย ซึ่งในความเป็นจริงหาได้ควรแก่การยึดติดยึดถือให้เกิดทุกข์เกิดโทษไม่ ในเมื่อเราเกิดมาแล้วก็ต้องตายไป ฉะนั้นขณะที่เรายังมีลมหายใจอยู่นี้ การที่เราทำสิ่งที่ดีงามแบ่งปันความสุขให้แก่ทุกชีวิตที่พบเจอ ทำหน้าที่ของตนให้เป็นประโยชน์ต่อสรรพชีวิต มองสิ่งทั้งหลายตามความเป็นจริง และค่อยๆสลัดทิ้งความยึดมั่นถือมั่นสำคัญผิด นี่เป็นการทำให้ชีวิตของเรามีคุณค่า ทำชีวิตให้เป็นชีวิตที่เปี่ยมความหมาย มากกว่าการอยู่เพียงเพื่อตนเองหรือพรรคพวกตัวเองเท่านั้น ความสุขจากการให้นั้นยิ่งใหญ่กว่าความสุขจากการรับ พึงจำไว้ว่า “อยู่เพื่อตัว อยู่แค่สิ้นลม อยู่เพื่อสังคม อยู่ชั่วฟ้าดิน” ฉะนั้นเราควรที่จะคิด พูด ทำ เพื่อประโยชน์ของตนเป็นที่สอง เพื่อประโยชน์ของสรรพชีวิตเป็นที่หนึ่ง นี่คือการดำเนินชีวิตที่เรียกว่าก้าวไปบนหนทางของผู้ประสบความสำเร็จในชีวิตที่แท้จริง ที่ดำรงอยู่อย่างเปี่ยมล้นด้วยความสุขมีชีวิตที่ “อยู่อย่างมีความหมาย” ทว่าอีกประการที่ขาดเสียมิได้ก็คือเมื่อความตายมาถึง เราต้องสามารถก้าวผ่านความตายไปได้อย่างองอาจงดงาม เราต้องมีจิตใจที่เป็นอิสระจากความยึดมั่นถือมั่น สามารถจากโลกนี้ไปได้อย่างสงบและเป็นสุข ปราศจากความหวั่นวิตกกังวลขุ่นข้องหมองใจ แต่นี่จะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อเราได้ฝึกฝนอบรมจิตใจของเราให้พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความตายไว้อย่างเพียงพอตั้งแต่เรายังมีชีวิตอยู่เท่านั้น การเตรียมตัวเพื่อเผชิญกับชั่วขณะสุดท้ายของชีวิตนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญที่หลายคนอาจมองข้าม ฉะนั้นหากเราปรารถนาที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างแท้จริงแล้ว เราจำเป็นต้องฝึกฝนจิตใจของเราให้ดำเนินชีวิตด้วยความกรุณาและเข้าใจความจริงของสรรพสิ่งตามความเป็นจริงที่พ้นจากความยึดถือและการปรุงแต่ง ช่วยเหลือเกื้อกูลสรรพชีวิตตามความสามารถและโอกาสบทบาทหน้าที่ฐานะและจังหวะชีวิตของตน เป็นการก้าวเดินไปด้วยความสุขที่แท้และเตรียมพร้อมที่จะก้ามข้ามผ่านพ้นความตายไปอย่างสงบและงดงาม เราจึงจะถือได้ว่าประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างถูกต้องแท้จริง นั่นคือ
“อยู่อย่างมีความหมาย และจากไปอย่างเป็นสุข”
|
วันที่ 27 ก.ย. 2552
Advertisement
เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,146 ครั้ง เปิดอ่าน 7,145 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,150 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,145 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง เปิดอ่าน 7,148 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,145 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,153 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,137 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,162 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,136 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,142 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 26,713 ครั้ง |
เปิดอ่าน 142,378 ครั้ง |
เปิดอ่าน 14,187 ครั้ง |
เปิดอ่าน 19,704 ครั้ง |
เปิดอ่าน 36,150 ครั้ง |
|
|