เรารู้จักกับรสหวานตั้งแต่เมื่อไหร่นั้นไม่มีใครสามารถยืนยันได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น คงต้องขอบคุณบรรพบุรุษของเราอีกครั้งที่ทำให้เราได้ น้ำผึ้งมีส่วนประกอบหลายอย่างทั้งทำลายเชื้อโรค และช่วยให้เนื้อเยื่อเจริญงอกงาม จากหลักฐานที่ค้นพบในอียิปต์ ทำให้เรารู้ว่าชาวอียิปต์นั้นนิยมใช้น้ำผึ้งในการรักษาศพไม่ให้เน่าเปื่อย
ส่วนคนไทยนั้นนิยมใช้น้ำผึ้งรักษาอาหารไม่ให้เสียคุณค่า เก็บรักษาได้นาน ไม่เพียงเท่านั้น
น้ำผึ้งยังสามารถรักษาแผลที่เกิดจากโรคมะเร็งได้อีกด้วย แม้ว่าโรคมะเร็งจะเป็นโรคที่รักษาให้หายได้ยากแต่ในส่วนของแผลนั้นน้ำตาลสามารถสมานให้กลายเป็นผิวดังเดิมได้โดยง่าย น้ำผึ้งที่เหมาะสมในการรักษาแผลต้องเป็นน้ำผึ้งแท้ 100 % ไม่ควรเจือปนด้วยสารใดๆทั้งสิ้น และต้องมีความสะอาดที่สุด วิธีเก็บรักษาง่ายๆ คือ บรรจุน้ำผึ้งใส่ขวดปิดฝาให้แน่น จากนั้นนำไป แช่แข็งในตู้เย็น เมื่อจะนำมาใช้จึงนำมาละลายในอุณหภูมิปรกติ วิธีนี้จะเก็บรักษาไว้ใช้ได้นาน ปัจจุบันบริษัทในประเทศออสเตรเลีย เจ้าแห่งอาหารเสริมเพื่อสุขภาพได้ผลิตน้ำผึ้งออกวางจำหน่ายเพื่อใช้ในทางการแพทย์อย่างแพร่หลาย อย่างไรก็ดี สำหรับประเทศไทยยังไม่มี แบบแผนที่ชัดเจนในการนำน้ำตาลและน้ำผึ้งมารักษาแผลต่างๆ ดังนั้นก่อนใช้ควรปรึกษา
คุณหมอถึงความเหมาะสม เพื่อที่เราจะได้รับประโยชน์ตามที่ควรได้รับ และไม่เกิดโทษใน ภายหลัง
ที่มา www.thaifooddb.com/article.html