Advertisement
ถาม...แปลกใจ ทำไมแค่คบกันทางเน็ตถึงรักได้ครับ ? ทั้งที่หลายคนไม่เคยเจอหน้ากัน
อันนี้เป็นเพราะบุพเพสันนิวาสหรือว่าเพราะรูปแบบการคบหาทางเน็ตเป็นไปได้ลึกซึ้งกว่า
รูปแบบการทำความรู้จักมักคุ้นแบบเห็นหน้าเห็นตากัน ?
ดังตฤณ ตอบ...
ต้องดูเป็นกรณีไปครับ บางคู่อาจเกิดจากบุพเพสันนิวาสจริง
บางคู่ก็อาจเป็นแค่เหตุปัจจัยทางเน็ตมันเอื้อให้เกิดความรู้สึกจับใจ
ถ้าเป็นบุพเพสันนิวาส หมายถึงเคยอยู่ร่วมกัน และชาตินี้มาพบแล้วอยากถ้อยทีถ้อยอาศัย ถูกใจ
อยากเกื้อกูลกัน เกิดความผูกพัน คบหาจริงจัง แล้วลงเอยที่การมาอยู่ครองเรือนอย่างมีความสุข
ข้อนี้จะไม่มีความแตกต่างระหว่างการคบหาในเน็ตหรือนอกเน็ต
พูดง่ายๆคืออินเตอร์เน็ตเป็นเพียงช่องทางให้คู่เก่ามาพบกันเท่านั้น
ไม่ต่างจากที่คู่เก่าพบกันเพราะบ้านอยู่ใกล้
หรือเพราะบังเอิญไปวิ่งในสวนสาธารณะ หรือเพราะมาเจอในงานแต่งงานเพื่อน
ถ้าไม่ใช่บุพเพสันนิวาสอาละวาดถึงที่สุดก็อาจออกทำนองที่ว่าคุยกันทางเน็ตแล้วปิ๊ง
ยิ้มแย้มชุ่มฉ่ำหัวใจพองโตไปทั้งวัน
แต่พอเจอกันจริงๆกลับยิ้มไม่ออก
หัวใจห่อเหี่ยวแบบสูบลมอย่างไรก็ไม่ขึ้น คบไปคบมาเดี๋ยวเดียวก็เบื่อ
และกลายเป็นเพื่อนทางเน็ตกันต่อแบบไม่มีการรอสัมพันธ์ขั้นอื่นอีก
อย่างนี้ประกันได้ว่าคู่นั้นเจอโรคหลงเพ้อโดยอาศัยอินเตอร์เน็ตเป็นพาหะแพร่เชื้อแน่แล้ว
อันนี้เราก็ต้องมาทำความเข้าใจกันดีๆว่ารูปแบบความสัมพันธ์ผ่านตัวอักษรมันมีฤทธิ์มอมเมาเราได้อย่างไร
เมื่อทำความเข้าใจอย่างดีก็จะมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงพอ
และไม่ต้องเสียเวลาก่อร่างสร้างรักจอมปลอมให้เนิ่นนานเกินไป
ความเข้าใจข้อแรก
คือไม่มีอะไรสะเทือนอารมณ์ได้แรงกว่าจินตนาการของเราเอง
สิ่งใดก่อจินตนาการขึ้นในหัวคุณได้เข้มข้นและต่อเนื่อง
สิ่งนั้นชนะใจคุณไปทั้งหมดหรือเกือบหมดสิ้นแล้ว
การที่คุณเริ่มรู้จักใครสักคนแบบไม่รู้หน้า แต่รู้ความคิดของเขา
มันทำให้คุณก้าวข้ามขั้นตอนการตัดสินกันอย่างผิวเผินด้วยตาเปล่า
เดินทะลุเข้าไปถึงเนื้อแท้ทางจิตใจของอีกฝ่ายโดยตรง ภาษาของใครเป็นอย่างไร
หน้าตาในจินตนาการของเขาก็เป็นไปตามนั้น นี่เป็นหลักกรรมวิบากดีๆนี่เอง
ถ้าพูดดี พูดฉลาด พูดคม พูดให้คนฟังเป็นสุข ผลจะเป็นใบหน้าโสภาน่าพิสมัย
แม้วิบากยังไม่ปรากฏชัดๆเหมือนเกิดใหม่ในชาติหน้า
แต่ก็แจ่มจ้าในมโนทวารของคนฟังหรือคนอ่านอยู่เดี๋ยวนี้แล้ว
ถ้าคุณติดกับจินตนาการของตัวเอง
ก็เท่ากับคุณหลงรักเทวดานางฟ้าบนวิมานในอากาศซึ่งอาจจะไม่เคยมีตัวตนตามฝันเลยก็ได้
ความเข้าใจข้อที่สอง
คนเราชอบการค้นพบน่าระทึก การเริ่มต้นสื่อสารผ่านเน็ตมีอะไรให้ลุ้นเยอะ
ตัวตนที่แท้จริงจะเหมือนตัวอักษรที่เขาระบายให้เห็นไหม
หน้าตาของเขาจะหล่อหรือสวยกว่าที่คุณคิดแค่ไหน
น้ำเสียงจะสะกดให้อยากนิ่งฟังเพียงใด ฐานะทางบ้านรวยหรือจนกว่ากัน
การลุ้นนั่นแหละครับทำให้ใจคุณจดจ่อกับเขาได้เรื่อยๆ
ซึ่งการจดจ่อกับใครอยู่เรื่อยๆก็คืออาการเดียวกับการครุ่นคิดหรือ
เฝ้าฝันถึงคนรักนั่นเอง เมื่อใจใครจดจ่อกับใครจนรู้สึกถึงแรงดึงดูดระหว่างกัน
แรงดึงดูดนั้นก็ให้รสเป็นสุขที่น่าพิศวงต่างฝ่ายต่างจะอุปาทานไปว่ารักกันอย่างเหลือล้น
ก็เพราะความสุขซึ่งเกิดจากใจทะยานไปค้นหาให้ถึงที่สุดนั่นเอง
ยิ่งคบกันแบบไม่พบเจอนานเท่าไหร่
ความผูกพันบนรากฐานของการรอค้นพบขั้นสุดท้ายยิ่งเหนียวแน่นมากขึ้นเท่านั้น
ความเข้าใจข้อที่สาม (ซึ่งไม่ใช่ข้อสุดท้าย แต่นำมากล่าวไว้ท้ายสุดในที่นี้)
เมื่อใดกำแพงทิฐิต่ำ คนเราจะคบกันด้วยความรู้สึกสบายใจและเป็นตัวของตัวเอง
การคุยทางเน็ตจะทำให้คุณรู้สึกว่าต้องระวังตัวน้อยลง
ถ้าไม่ถูกใจก็แค่เลิกคุยกัน แตกต่างจากการคบหาแบบเห็นหน้า
ที่ถ้าทอดสนิทแล้วตัดสัมพันธ์ยากกว่ากันเยอะ
เรื่องผลประโยชน์ทางการเงินหรือความหวังประโยชน์ทางเพศนั้น
ถ้าจะมีก็ถูกยืดเวลาให้ห่างออกไป
ความสบายใจกับการเปิดอกคุยได้ทุกเรื่องนี่แหละตัวที่ทำให้สำคัญว่าเป็นความรักได้เหนือสิ่งอื่นใด
เพราะคนส่วนใหญ่หวังมากที่สุดคือเจอใครสักคนที่คุยถูกคอ ทำให้หายเหงา
แถมไม่ต้องคิดมากกับสัมพันธภาพใดๆไม่มีข้อผูกมัดแน่นหนาเพียงด้วยตัวอักษร
จะเห็นว่าเฉพาะคุณสมบัติหลักๆของการสื่อสารผ่านเน็ตดังกล่าวมา
ก็เพียงพอจะถักทอให้เกิดความผูกพันและสายใยความรู้สึกดีๆไม่มีจำกัด
ได้ยินจนเบื่อแล้วว่าพบรักข้ามโลก ยอมโยกย้ายถิ่นฐาน
ยอมเรียนภาษาของแฟน ก็เพียงเพราะพบรักทางอินเตอร์เน็ต
(ถ้าอุปสรรคมากนัก ผมไม่ให้คะแนนว่าเคยทำบุญร่วมกันมาแน่นหนานัก
แต่อาจต่างฝ่ายต่างเป็นคนมีบุญ และสามารถเข้ากันได้โดยธาตุนิสัย)
สรุป… ความรู้สึกอบอุ่นใจทางเน็ตก็ดี
ความวาบหวามกับคำพูดเล็กๆน้อยๆที่แสดงความอาทรผ่านเน็ตก็ดี
เสน่ห์น่าติดหลงของคนที่คุณไม่รู้ว่าตัวจริงเป็นอย่างไรก็ดี
เหล่านี้ไม่จำเป็นต้องอาศัยบุพเพสันนิวาส
ฉะนั้นอย่าแปลกใจหากเจอตัวจริงแล้วคุณไม่ได้รู้สึกอะไรกับเขาเหมือนกับที่เคยรู้สึกยามสนทนากันผ่านเน็ต
เพราะในชาติใกล้เขากับคุณอาจไม่ร่วมบุญมากพอจะทำให้รู้สึกดียามเคียงกัน
อินเตอร์เน็ตอาจเปรียบเหมือนชาติก่อนทางอารมณ์
เป็นทุนให้คุณคบกันด้วยความเข้าอกเข้าใจง่ายกว่ารูปแบบการคบหาปกติ
แต่ไม่เป็นประกันว่าการคบหาปกติจะรักษาความรู้สึกดีๆเมื่อครั้งยังคุยกันทางเน็ตไว้ได้
และสำหรับท่านสุภาพสตรี เดี๋ยวนี้เท่าที่ทราบมีเยอะนะครับ
ผู้ชายปากหวานทางเน็ตเพื่อหวังผลทางเพศท่าเดียว
คดีอาชญากรรมทางเพศที่มีชนวนมาจากเน็ตนั้นสืบๆแล้วพวกเสือหิวมักเห็นว่าเป็นช่องทางที่ลงทุนต่ำ
แถมไม่ต้องปรากฏโฉมเป็นที่รู้จักของญาติมิตรฝ่ายสาว ขอเพียงจิตวิทยาดี
ล่อลวงมาพบกันสองต่อสองได้โอกาสจะมอมยาหรือหลอกพาไปไหนต่อไหนก็สะดวก
พอเกิดคดีสะเทือนขวัญก็สืบหาตัวยากด้วยประการฉะนี้
ที่สุดคืออย่าเชื่อใจใครง่ายๆ การแฝงตัวอยู่ในเน็ตของทรชนนั้นทำได้ง่าย
และถ้าทำเป็นอาชีพแล้วย่อมเกิดทักษะความชำนาญ ความแยบยล
คุณรู้เสียที่ไหนว่าระหว่างปากหวานกับคุณเขาปากหวานกับอีกกี่คนพร้อมกัน
ฉะนั้นต่อให้เคยโทร.คุยกันแล้ว เหมือนไว้ใจกันได้แล้ว
นัดครั้งแรกก็ควรพาเพื่อนหรือพี่น้องไปด้วยเยอะๆโอกาสเกิดคดีล่อลวงอนาจารจะได้ลดน้อยลง
อย่างน้อยก็มีคนเห็นหน้าเห็นตาเขาถนัดถนี่ จะลงมือคงยั้งคิดบ้างครับ
ที่มา เว็บดังตฤณ
วันที่ 26 ก.ย. 2552
Advertisement
เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง เปิดอ่าน 7,146 ครั้ง เปิดอ่าน 7,145 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,237 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,174 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,146 ครั้ง เปิดอ่าน 7,211 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,191 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,143 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,151 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,156 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,137 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 4,745 ครั้ง |
เปิดอ่าน 35,620 ครั้ง |
เปิดอ่าน 4,451 ครั้ง |
เปิดอ่าน 10,508 ครั้ง |
เปิดอ่าน 26,969 ครั้ง |
|
|