เมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น พญ.ดวงกมล เผยว่าปัญหาผิวที่พบบ่อย คือ ผิวมันและมีสิว ที่มีคำกล่าวว่า สิวเป็นเรื่องธรรมชาตินั้นมีส่วนถูก เนื่องจากการเกิดสิวนั้นมาจากการอุดตันในรูขุมขนจากการสร้างเคราติน (Keratin) ที่ผิดปกติ เกิดเป็นโคมิโดน (Comedone) และผลจากฮอร์โมนเพศชายที่เพิ่มขึ้นในวัยนี้ กระตุ้นการทำงานของต่อมไขมันให้ขยายขนาดและผลิตไขมัน (Sebum) ออกมา แบคทีเรียที่อยู่ในรูขุมขนก็เพิ่มจำนวนขึ้นมาย่อยไขมัน เกิดเป็นกรดไขมันที่ทำให้เกิดสิวอักเสบ ความรุนแรงของสิวในแต่ละคนไม่เท่ากันขึ้นกับกรรมพันธุ์และฮอร์โมนเพศชาย เพราะฉะนั้น จะเห็นว่าสิวไม่ได้เกิดจากความสกปรกแต่เพียงอย่างเดียว แต่มีปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย การล้างหน้าบ่อยๆ จึงไม่ได้เป็นการรักษาสิว ในทางตรงกันข้ามยิ่งล้างหน้าจะยิ่งทำให้มีการผลิตไขมันออกมาทดแทน ทำให้รูขุมขนอุดตันมากขึ้นด้วย ดังนั้น จึงควรล้างหน้าไม่เกิน 2 – 3 ครั้งต่อวันก็สะอาดเพียงพอแล้ว
สำหรับการรักษาสิวนั้น พญ.ดวงกมล กล่าวว่ามีทั้งการทายาและรับประทานยา ขึ้นกับความรุนแรง ถ้ามีแค่สิวอุดตัน ไม่อักเสบ สามารถใช้ยาทาได้ แต่ถ้าสิวอักเสบมาก ต้องรับประทานยาแก้อักเสบ ถ้ามีสิวอักเสบรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ เพื่อลดโอกาสเกิดแผลเป็นจากสิว หลีกเลี่ยงการบีบหรือแกะสิว เพราะทำให้เกิดรอยหลุมสิว ซึ่งยากที่จะรักษาให้ผิวกลับมาเรียบดังเดิม
นอกจากนี้ยังมีวิธีการอื่นในการรักษารอยหลุมสิว คือ การขัดผิวด้วยเกล็ดอัญมณีหรือไม่โครพิล (Micropeel) โดยใช้หัวขัดพ่นเกล็ดอัญมณีลงมาที่ผิว จะมีแรงดูดเบาๆ ขณะเดียวกันเกล็ดอัญมณีที่พ่นออกมาจะขัดผิวชั้นตื้นๆ ออกไป ความรู้สึกในขณะทำการขัดจะคล้ายการใช้กระดาษทรายละเอียดถูเบาๆ ที่ผิวแต่ไม่ทำให้เกิดแผลจึงไม่ต้องพักฟื้นหลังทำไมโครพีลจึงสามารถแต่งหน้า และทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ
การทำไมโครฟิลนี้จะทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น และชั้นคอลลาเจน (Collagen) ใต้ผิวเพิ่มขึ้นจึงทำให้รอยหลุมสิวตื้นขึ้น ควรทำต่อเนื่องทุก 1 – 3 สัปดาห์ และจะเริ่มเห็นผลการรักษาประมาณ 5 ครั้งขึ้นไป ขึ้นกับความลึกของรอยหลุมสิว แต่ละครั้งใช้เวลาทำนาน 45 นาที – 1 ชั่วโมง วิธีนี้นอกจากจะใช้ในการรักษารอยหลุมสิวแล้ว ยังเหมาะสำหรับผิวที่มีริ้วรอย ผิวมันรูขุมขนกว้าง รอยแตกลายที่หน้าท้อง ต้นขา และสะโพก
ส่วนการดูแลผิวสำหรับวัยทำงานพญ.ดวงกมล เผยว่า วัยนี้มีโอกาสใช้เครื่องสำอางมากขึ้น การดูแลทำความสะอาดผิวหลังแต่งหน้าจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะถ้าทำความสะอาดเครื่องสำอางไม่หมดอาจทำให้รูขุมขนอุดตันเป็นสิวได้ง่าย ควรใช้คลีนซิ่งโลชั่นเช็ดเครื่องสำอางออกก่อน แล้วจึงใช้โฟมหรือเจลล้างหน้าทำความสะอาด จะทำให้ล้างเครื่องสำอางได้หมดจด
ริ้วรอยรอบดวงตาและรอยหมองคล้ำใต้ตา อาจเกิดจากการอดนอน โรคภูมิแพ้ กรรมพันธุ์และการขยี้ตาบ่อยๆ ทำให้เกิดริ้วรอยเล็กๆ ใต้ตา เราสามารถป้องกันการเกิดริ้วรอยเหล่านี้ด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ขยี้หรือถูเปลือกตาอย่างรุนแรง ทาครีมรอบดวงตาเพิ่มความชุ่มชื้น นอกจากนี้ การนวดโดยใช้คลื่นเสียงอัลตราโซนิก (Ultrasonic) จะช่วยให้สารเติมความชุ่มชื้นเช่น Hyaluronate ซึมสู่ผิวได้ดีขึ้น โดยสามารถทำได้สัปดาห์ละครั้ง วิธีนี้ไม่ทำให้ผิวระคายเคือง หลังทำเสร็จแล้วก็สามารถดูแลผิวได้ตามปกติ