Advertisement
นางสิบสอง
กาลครั้งหนึ่งในสมัยพุทธกาล มีเศรษฐีคนหนึ่งชื่อว่า นนทเศรษฐี มีบ้านเรือนใหญ่โตและทรัพย์สมบัติมากมาย แต่ไม่มีบุตรธิดาไว้คอยดูแลทรัพย์สินเหล่านั้นเลย วันหนึ่งเขาไปนมัสการพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เขานำกล้วย 12 ผลไปถวายพระพุทธองค์ด้วย ในขณะถวายกล้วยต่อพระพุทธเจ้า เขาก็ตั้งอธิษฐานว่าด้วยอานิสงค์แห่งทานนี้ ขอให้เขามีบุตรหรือธิดาจำนวนเท่ากับกล้วยนั้น
หลังจากกลับมาบ้าน เขาก็บอกกับภรรยาเกี่ยวกับความปรารถนาที่ตนได้อธิษฐา นกับพระพุทธเจ้าไว้ ภรรยาของเขาดีใจมาก และหลังจากนั้นไม่นานนางก็ตั้งครรภ์และคลอดลูกสาวจำน วนครบ 12 คนพอดี น้องสาวคนเล็กสุดมีชื่อว่า เภา มีความสวยและฉลาดกว่าใครทั้งหมด อย่างไรก็ตามหลังจากคลอดลูกสาวทั้ง 12 คนแล้ว โชคชะตาของท่านเศรษฐีและภรรยาก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเ ป็นหลังมือ ทั้งคู่กลับจนลงทุกวันๆ การค้าขายก็ไม่ค่อยดีในขณะที่ลูกสาวก็กินจุขึ้นเรื่อ ย ๆ เมื่อไม่สามารถแก้ปัญหาความขาดแคลนอาหารเลี้ยงดูบุตร สาวได้ เศรษฐีจึงตัดสินใจขายบ้านเพื่อเอาเงินมาซื้ออาหารเลี ้ยงลูก ๆ จากที่เคยร่ำรวยก็กลับกลายเป็นจน เขาพาครอบครัวไปอยู่ที่กระท่อมในทุ่งนาและก็ดำเนินชี วิตอยู่ด้วยการทำนา บ่อยครั้งที่สองสามีภรรยาไม่สามารถหาอาหารเพียงพอเพื ่อมาเลี้ยงบุตรสาวที่กำลังกินกำลังนอนได้ ทั้งคู่รู้สึกเสียใจที่เห็นบุตรสาวร้องไห้หาของกินแต ่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรดี
ถึงแม้ว่าเขาจะรักบุตรสาวมาก แต่ก็สุดที่จะทนต่อสภาพเช่นนี้ได้ ดังนั้นเขาจึงคิดแผนที่จะนำบุตรสาวของตนไปปล่อยในป่า ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากภรรยา นนทเศรษฐีนำบุตรสาวของตนขึ้นเกวียนพาออกไปในป่า ก่อนที่จะจากมาเขาก็เก็บผลไม้ไว้มากมายเพื่อให้ลูก ๆ ได้กินกัน แล้วปล่อยให้ทั้งหมดวิ่งเล่นอยู่ ณ ที่นั้นเอง ในขณะที่เด็ก ๆ เพลิดเพลินอยู่กับการเล่นนั้นเขาก็แอบกลับมาบ้านแต่เ พียงลำพัง
หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการเล่น พี่น้องทั้งสิบสองคนก็มองหาบิดาของพวกตน เมื่อไม่เห็นบิดาอยู่บริเวณนั้นพวกเขาก็ร้องไห้กันกร ะจองอแง แต่เภาไม่รู้สึกตื่นเต้นตกใจอะไรนางปลอบพวกพี่ ๆ และบอกว่า ตนสามารถจำทางกลับบ้านได้ดี ก่อนพระอาทิตย์ตกดินเภาก็สามารถพาพวกพี่ ๆ กลับมาถึงบ้านได้ ทันทีที่มาถึงบ้าน พวกเด็ก ๆ ก็หาของกินในครัวเพราะว่าเหน็ดเหนื่อยมาจากการเดินทา งไกล
สองสามีภรรยาทั้งดีใจและเสียใจปนกัน ที่ดีใจเพราะเห็นบุตรสาวของตนยังมีชีวิตอยู่และที่เส ียใจก็เพราะต้องเผชิญกับความยากลำบากแบบเดิมอีก พวกเด็ก ๆ เองไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันข้างหน้าขอให้มีอาห ารมาใส่ปากก็เพียงพอแล้ว พวกเด็ก ๆ มีความสุขในขณะที่พ่อแม่เสียใจเมื่อนึกถึงความตายของ ทุกคนอันเนื่องมาจากความอดอยาก
ครั้นรุ่งสาง ผู้เป็นบิดาก็คิดถึงแผนการที่จะเอาบุตรสาวไปปล่อยอีก ครั้งนี้เขาพาลูก ๆ ไปยังป่าลึก และใช้หนทางคดเคี้ยวมากจนยากที่จะจำได้ เมื่อรู้ว่าบิดาตนหายไปแล้วพี่น้องทั้งสิบาองคนก็หลง อยู่ในป่า ซึ่งใกล้กับบริเวณครอบครองโดยนางยักษ์ขิณีผู้เป็นม่า ยชื่อว่า สันธมาลา (บ้างว่า สันตรา) สามีของนางที่ตายไปเป็นพญายักษ์ชื่อว่าท้าวสักกะ
นางยักษ์สันธมาลา หรือ นางยักษ์สันตรา ตามจินตนาการของผู้สร้างละคร
ทันทีที่ได้เห็นพวกเด็ก ๆ นางยักษ์ผู้ไม่มีบุตรธิดาก็นึกรักพี่น้องทั้งสิบสองค นขึ้นมาทันทีและต้องการเลี้ยงดูอย่างน้องสาวหรือลูกส าวของตนก็ได้ แต่นางยักษ์ก็มีเจตนาเคลือบแฝงในการอุ้มชูพวกเด็ก ๆ เหล่านั้นด้วยเหมือนกัน เพราะนางยักษ์เองต้องการนัยน์ตาของเด็ก ๆ ไว้ผสมทำยาอายุวัฒนะกินด้วย ทันใดนั้นนางก็แปลงร่างเป็นหญิงสาวรูปร่างสวยเพื่อไม ่ให้เด็ก ๆ ตกใจกลัวเมื่อเห็นตนเป็นยักษ์ หลังจากทำความคุ้นเคยกับเด็ก ๆ แล้วนางก็ชวนให้พวกเขาไปอยู่ในวังของตน ที่เมืองคชบุรีซึ่งมีของกินมากมาย เด็ก ๆ มีความยินดีมากที่ได้ยินเช่นนั้นและตกลงที่จะไปอยู่ก ับนางยักษ์ผู้ซึ่งส่งข่าวไปยังชาวเมืองของนางให้แปลง กายเป็นมนุษย์ เพื่อว่าธิดาบุญธรรมของตนจะได้ไม่ตกใจ นับแต่นั้นมาพี่น้องทั้งสิบสองก็อยู่กับนางยักษ์อย่า งมีความสุขจนถึงวัยสาว
วันหนึ่งในขณะที่พี่สาวคนโตเพลิดเพลินอยู่กับการชื่น ชมความสวยงามของดอกไม้อยู่นั้นนางก็เดินไกลออกไปและถ ึงบริเวณหวงห้าม ซึ่งนางยักษ์สันธมารกำลังกินเนื้อมนุษย์อยู่ นางเห็นเหตุการณ์เข้าโดยบังเอิญและยังได้เห็นคนถูกจั บมาขังไว้เป็นจำนวนมากอีกด้วย นางก็รู้ได้ทันทีว่าผู้ที่อุปถัมภ์ค้ำชูพวกตนนั้น แท้ที่จริงแล้วเป็นยักษ์ในร่างแปลงของหญิงสาวผู้เลอโ ฉม แล้วนางก็บอกให้น้อง ๆ ของนางทราบ ผู้ซึ่งก็กลัวว่าอาจจะถูกยักษ์จับกินเข้าสักวันหนึ่ง ก็ได้ ดังนั้นพวกพี่น้องจึงเตรียมแผนหนีออกจากเมืองยักษ์ แต่ก่อนที่จะหนีนางยักษ์ไปพวกเขาได้ช่วยปล่อยคนทั้งห มดที่นางยักษ์จับมาขังไว้เป็นอาหารแล้วก็เข้าไปซ่อนต ัวในพุ่มไม้ซึ่งก็ยังไม่ปลอดภัย เพราะนางยักษ์ทำการค้นหาแบบพลิกแผ่นดินโชคดีที่รุกขเ ทวดาและสัตว์อื่น ๆ เข้ามาช่วย นางยักษ์หาพี่น้องทั้งหมดไม่พบ แต่นางยักษ์ก็ยังไม่ละความพยายามอยู่นั้นเอง ในเวลาเดียวกันขณะที่พระฤาษีกำลังเข้าฌานอยู่นั้นก็ไ ด้เห็นเหตุการณ์และรู้สึกสงสารพี่น้องผู้น่าสงสารเหล ่านั้น ท่านจึงดลใจให้นางยักษ์ไปค้นหาทางอื่นและก้ยกเลิกการ ค้นหาไปในที่สุด และแล้วพระฤาษีก็บอกหญิงสาวเหล่านั้นว่าเหตุที่พวกนา งต้องเผชิญกับความทุกข์ยากเช่นนี้ ก็เพราะว่าเมื่อชาติที่แล้วพวกนางได้นำลูกสุนัขไปปล่ อยทิ้งไว้ในป่า ดังนั้นบาปจึงตามพวกเขามาในชาตินี้และชาติหน้าจนกว่า จะครบ 500 ชาติจึงจะหมดกรรม
หลังจากอำลาพระฤาษีแล้ว นางทั้งสิบสองก็ออกเดินทางต่อและไปถึงสระน้ำแห่งหนึ่ งในเมืองงกุตารนคร ซึ่งปกครองโดยพระเจ้ารณสิทธิราช ทุกวันจะมีนางค่อมทาสีแบกหม้อน้ำทองคำมาตักน้ำไปให้พ ระราชาสรงในพระราชวัง ในขณะเตรียมที่จะตักน้ำจาสระ นางค่อมเหลือบไปเห็นเงาเหล่าหญิงสาวหน้าตาสวยคล้ายกั บนางฟ้า นางเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเงาของตน แต่เมื่อพี่น้องทั้งสิบสองหัวเราะเยาะนาง นางก็แหงนหน้าขึ้นดูแล้วก็เห็นเหล่าหญิงสาวอยู่บนต้น ไทร นางคิดว่าหญิงเหล่านั้นเป็นนางฟ้า จึงรีบไปกราบทูลให้พระราชาทรงทราบ และแล้วพระราชาก็รีบเสด็จมายังสระน้ำในทันที
ภาพนางทั้งสิบสองคน
(จากละครเรื่องนางสิบสอง)
เมื่อได้เห็นพี่น้องทั้งสิบสองคน พระราชาก็ทรงตกตะลึงในความงามของพวกนางและสอบถามว่าเ ป็นใครมาจากไหน เมื่อได้รับการกราบทูลให้ทรงทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้ นแล้ว พระราชาจึงรับสั่งให้นางลงมาและให้ไปอยู่ในวังของพระ องค์ แล้วพระราชาก็ทรงแต่งตั้งให้พวกนางทั้งหมดเป็นพระมเห สีของพระองค์ และเนื่องจากพวกนางมีชีวิตอยู่ในวังอย่างสุขสบายในฐา นะพระมเหสี ตอนนี้พวกนางก็เลยคิดถึงบิดามารดาของพวกตนบ้าง ดังนั้นพวกนางจึงทูลขอพระบรมราชานุญาตจากพระราชานำบิ ดามารดาของพวกตนมาอยู่เสียด้วยกันในวัง พระราชาก็ทรงอนุญาตสองสามีภรรยาผู้น่าสงสารดีใจยิ่งน ักที่ได้กลับมาอยู่กันพร้อมหน้ากับบุตรสาวอีกครั้ง หลังจากที่ต้องพลัดพรากกันไปเสียนาน
ในขณะเดียวกัน นางยักษ์สันธมาลาก็ได้ธิดาบุญธรรมชื่อว่า เมรี ผู้ซึ่งเป็นธิดาของเพื่อนสามานางมีนามว่า ปทุมราช ซึ่งก็เป็นเจ้าเมืองอสูรชื่อว่า กำพุธ ท้าวปทุมราชมีธิดา 2 คน ชื่อว่าเมรีและศรีทัศนา ทั้งสองพี่น้องถือกำเนิดจากมารดาผู้เป็นมนุษย์พระนาม ว่า พระนางศรีสมุทร เมื่อโหรหลวงของพระองค์ทำนายว่า ถ้าให้ธิดาทั้งสองคนอยู่รวมกันแล้วความหายนะที่ไม่ทร าบสาเหตุก็จะนำความพินาศมาสู่ทุกชีวิตในเมือง ท้าวปทุมราชจึงมอบบุตรสาวของตนคนหนึ่งให้นางยักษ์สัน ธมาลาเลี้ยงดูนับแต่บัดนั้นมา
ต่อมานางยักษ์สันธมาลาได้ข่าวว่านางสิบสองไปได้ดีมีค วามสุขก็เกิดความอิจฉาริษยาและเคียดแค้นมาก นางจึงตามนางสิบสองมายังเมืองกุตารนครและรอหญิงค่อมอ ยู่ที่ต้นไทรที่สระน้ำ ซึ่งนางจะต้องมานำน้ำไปให้พระราชาสรงเหมือนอย่างปกติ แล้วนางสันธมาลาก็แปลงร่างเป็นหญิงสาวมีหน้าตาสวยงาม กว่านางสิบสองมาก เมื่อได้เห็นหญิงสาวผู้สวยที่สุด นางค่อมก็รีบไปกราบทูลพระราชาผู้ซึ่งเสด็จมาทอดพระเน ตรนาง และก็ต้องตะลึงในความงามของนาง พระราชาจึงนำนางเข้าวัง และทรงแต่งตั้งให้นางเป็นพระมเหสีองค์ใหม่และนางก็เป ็นพระมเหสีที่โปรดปรานของพระราชาในทันที นับจากนั้นมานางสิบสองก็ประสบเคราะห์กรรมอย่างแสนสาห ัส เพราะนางยักษ์ใช้มนต์สะกดให้พระราชาหลังรักนางจนกระท ั่งอยู่ภายใต้อำนาจของนาง นางแกล้งป่วยและต้องการนัยน์ตาของนางสิบสองมาทำยา พระราชาก็ทรงรับสั่งให้นางสิบสองเข้าเฝ้าแล้วให้ควัก ดวงตาของนางสิบสองออก แต่เภาโชคดีกว่าพี่สาวคนอื่น ๆ เพราะพระองค์อนุญาตให้นางเหลือดวงตาไว้ข้างหนึ่ง
หลังจากรับสั่งให้ควักดวงตาของนางสิบสองออกแล้ว พระราชาก็รับสั่งให้นำอดีตพระมเหสีของพระองค์ไปขังไว ้ในอุโมงค์ ซึ่งทั้งหมดต้องประสบความทุกข์ทรมานอย่างน่าสมเพทเวท นา ในขณะเดียวกันหลังจากได้ดวงตาของนางสิบสองแล้ว นางยักษ์สันธมาลาก็ส่งดวงตาทั้งหมดไปให้ธิดาบุญธรรมข องนางเก็บไว้ ในเวลาต่อมาพี่น้องทั้งหมดยกเว้นเภาก็ตั้งครรภ์ พระอินทร์ทราบว่านางสิบสองได้รับความทุกข์ทรมานมาก และไม่มีใครดูแลจึงรับสั่งให้เทวดาลงไปเกิดเป็นลูกขอ งน้องคนสุดท้อง ด้วยเหตุนั้นเภาจึงตั้งครรภ์
นางยักษ์สั่งให้ทหารของตนเฝ้าอุโมงค์ไว้เพื่อไม่ให้ใ ครแอบช่วยเหลือนางสิบสองได้ กล่าวกันว่าสาเหตุที่นางสิบสองต้องได้รับความทุกข์เช ่นนี้ ก็เพราะเมื่อชาติที่แล้วในขณะเล่นอยู่ริมแม่น้ำ พวกนางจับปลามา 12 ตัว แล้วใช้เหล็กแหลมทิ่มนัยน์ตาทั้งสองข้างของปลาเหล่าน ั้นแล้วก็ปล่อยลงในแม่น้ำ แต่ว่าเภาเองทิ่มแทงเพียงตาข้างเดียวของปลาที่ตนจับ ดังนั้นนางจึงไม่ถูกควักดวงตาทั้งสองข้าง
ต่อมาพี่น้องทั้งหมดยกเว้นเภาก็คลอดลูกออกมาซึ่งถูกฉ ีกออกเป็นชิ้น ๆ ทันทีและแจกแบ่งกันกินเป็นอาหาร เนื่องจากพวกนางถูกทรมานด้วยความหิวมากจนกระทั่งต้อง กินลูกของพวกตน แต่ถึงอย่างไรเภาก็ไม่ยอมกินเนื้อทารกที่ได้รับแบ่งใ ห้นั้น ทุกครั้งที่นางได้ส่วนแบ่งนางก็จะนำไปซ่อนไว้ ดังนั้นเมื่อถึงคราวที่นางคลอดลูกบ้างพี่ ๆ ของนางก็จะได้ไม่ฆ่าลูกของตน ดังนั้นนางจึงนำเนื้อทารกที่ซ่อนไว้มาแบ่งให้พวกพี่ ๆ แทน การทำเช่นนี้จึงไม่ทำให้พวกพี่ ๆ ของตนสงสัยในเจตนาของนางที่ต้องการเลี้ยงลูกไว้ แล้วเภาก็ตั้งชื่อลูกว่า รถเสน
ถึงแม้ว่าพวกทหารที่เฝ้าอุโมงค์จะรู้เกี่ยวกับการถือ กำเนิดของรถเสน แต่ก็ไม่มีใครไปบอกให้นายของตนทราบ เพราะพวกเขาเองก็รักและเมตตากุมารน้อย ทั้งยังช่วยเลี้ยงดูให้อีกด้วยเมื่อรถเสนโตขึ้นเขาก็ ถามมารดาถึงสาเหตุที่ต้องมาอยู่ในอุโมงค์ เภาจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ผู้เป็นลูกฟัง รถเสนรู้สึกเสียใจมากที่เห็นผู้เป็นมารดาและป้า ๆ ต้องทนทุกข์ทรมานเช่นนี้ และแล้วพระอินทร์ก็เสด็จลงมายังโลกมนุษย์เพื่อสอนกลอ ุบายในการเล่นการพนันให้กับรถเสน พระอินทร์ได้ให้ไก่ชนวิเศษพร้อมทั้งเครื่องแต่งกายแก ่รถเสนด้วย แล้วรถเสนก็ขออนุญาตมารดาเพื่อออกจาอุโมงค์ไปเผชิญกั บโลกภายนอก เพราะตนเองก็โตเป็นหนุ่มแล้ว
เมื่อมาถึงศาลาสาธารณะ ก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังเล่นพนันไก่ชนอยู่ รถเสนจึงเล่นพนันนั้ด้วยและมีชัยชนะได้รางวัลพอที่จะ ซื้ออาหารมาให้มารดาและป้า ๆ ของตนได้ แน่นอนที่สุดว่าการถือกำเนิดของรถเสนนำมาซึ่งความหวั งให้กับนางสิบสอง นับแต่นั้นมารถเสนก็ออกไปเล่นพนันทุกวันและมีชัยชนะท ุกครั้งไป ข่าวการมีชัยชนะของรถเสนแพร่ไปถึงพระเจ้ารณสิทธิราช ทรงรับสั่งให้รถเสนเข้าเฝ้า แล้วพระราชาก็ชวนให้เขาเล่นสกากับพระองค์ รถเสนท้าพระราชาว่าถ้าหากเขาแพ้เขายินดีเป็นทาสของพร ะราชาตลอดไป แต่ถ้าหากว่าเขาชนะเขาต้องการเพียงข้าว 12 ห่อเท่านั้น พระราชาทรงตอบตกลง และผลก็ปรากฏว่าพระราชาทรงแพ้ถึง 2 ครั้ง ดังนั้นรถเสนจึงได้ข้าว 12 ห่อมาให้มารดาและป้าดังที่คาดหวังไว้
ในวันต่อมา พระราชาทรงพระประสงค์ที่จะเล่นสกากับรถเสนอีก พระองค์ชวนรถเสนไปเล่นกับพระองค์ในปราสาทเรือนทอง และถามชายหนุ่มเกี่ยวกับบิดามารดาของเขา หนุ่มน้อยจึงกราบทูลว่ามารดาของตนชื่อว่าเภา อยู่กับป้าทั้ง 11 คนของตนในอุโมงค์ หลังจากทรงทราบความจริง พระราชาก็สวมกอดชายหนุ่มและบอกกับเขาว่าเขาเป็นโอรสข องพระองค์
ในกาลต่อมา ท้าววัตถาเจ้าเมืองจินดามาท้าพระเจ้ารณสิทธิราชพนันช นไก่ รถเสนจึงอาสาพนันชนไก่แทนพระราชาและมีชัยชนะ นับแต่วันนั้นพระเจ้ารณสิทธิราชก็รักโอรสของพระองค์ม าก และทรงประกาศว่าพระองค์รักโอรสดั่งดวงใจของพระองค์
เมื่อได้ยินคำประกาศของพระราชา นางยักษ์สันธมาลาผู้ซึ่งตอนนี้เป็นหญิงสาวสวย ก็แกล้งทำเป็นป่วยหนักและต้องการผลไม้ชนิดหนึ่งซึ่งม ีรสเปรี้ยว เรียกว่า มะงั่วหาวและมะนาวโห่เพื่อใช้ทำยาและมีอยู่แต่เฉพาะใ นเมืองของนางเท่านั้น นางสันธมาลาขอร้องให้พระราชาส่งเจ้าชายรถเสนไปนำผลไม ้นั้นมาให้นาง พระราชาทรงตอบตกลงโดยไม่เต็มพระทัยนักและส่งเจ้าชายไ ปยังเมืองคชบุรี แต่ก่อนจากไป เจ้าชายรถเสนขอให้พระราชาส่งอาหารไปให้มารดาและป้าขอ งตนทุก ๆ วัน พระราชาทรงรับและทรงอนุญาตให้รถเสนใช้ม้าของพระองค์ช ื่อม้าพาชี ซึ่งสามารถบินไปในอากาศได้เหมือนนก นางสันธมาลาจึงบอกให้รถเสนนำจดหมายไปให้บุตรสาวของตน ด้วย แล้วเจ้าชายก็ผูกจดหมายไว้กับคอม้าและเริ่มออกเดินทา ง
เมื่อออกเดินทางมาได้ระยะหนึ่ง รถเสนก็หยุดพักที่ศาลาพระฤาษีและปล่อยให้ม้าออกไปกิน หญ้ากินน้ำในบริเวณใกล้ ๆ นั้น ทันใดนั้นพระฤาษีก็เหลือบไปเห็นลักษณะดีของม้าจึงเข้ าไปดูใกล้ ๆ และก็พบว่ามีจดหมายแขวนอยู่ที่คอม้า ด้วยความสงสัยท่านจึงตัดสินใจเปิดอ่านโดยไม่ได้รับอน ุญาตและก็พบข้อความประหลาดว่า ถ้าหากชายหนุ่มผู้นี้ถึงกลางวันให้กินกลางวันแต่ถ้าเ ขาถึงกลางคืนก็ให้กินกลางคืน พระฤาษีแปลกใจที่พบข้อความเช่นนั้น ท่านจึงเข้าฌานและก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พระฤาษีคิดว่าเจ้าชายควรจะได้แต่งงานกับพระธิดาเมรีแ ละปกครองเมืองยักษ์แทนที่จะมาถูกยักษ์กิน แล้วพระฤาษีก็เปลี่ยนข้อความใหม่เป็น "ถึงกลางคืนให้รับกลางคืน ถึงกลางวันให้รับกลางวัน ผัวแก้วผัวขวัญของเมรี" แล้วพระฤาษีก็กลับไปที่ศาลาของท่านอวยพรให้รถเสนโชคด ีมีชัย
ต่อมาพี่น้องทั้งหมดยกเว้นเภาก็คลอดลูกออกมาซึ่งถูกฉ ีกออกเป็นชิ้น ๆ ทันทีและแจกแบ่งกันกินเป็นอาหาร เนื่องจากพวกนางถูกทรมานด้วยความหิวมากจนกระทั่งต้อง กินลูกของพวกตน แต่ถึงอย่างไรเภาก็ไม่ยอมกินเนื้อทารกที่ได้รับแบ่งใ ห้นั้น ทุกครั้งที่นางได้ส่วนแบ่งนางก็จะนำไปซ่อนไว้ ดังนั้นเมื่อถึงคราวที่นางคลอดลูกบ้างพี่ ๆ ของนางก็จะได้ไม่ฆ่าลูกของตน ดังนั้นนางจึงนำเนื้อทารกที่ซ่อนไว้มาแบ่งให้พวกพี่ ๆ แทน การทำเช่นนี้จึงไม่ทำให้พวกพี่ ๆ ของตนสงสัยในเจตนาของนางที่ต้องการเลี้ยงลูกไว้ แล้วเภาก็ตั้งชื่อลูกว่า รถเสน
ถึงแม้ว่าพวกทหารที่เฝ้าอุโมงค์จะรู้เกี่ยวกับการถือ กำเนิดของรถเสน แต่ก็ไม่มีใครไปบอกให้นายของตนทราบ เพราะพวกเขาเองก็รักและเมตตากุมารน้อย ทั้งยังช่วยเลี้ยงดูให้อีกด้วยเมื่อรถเสนโตขึ้นเขาก็ ถามมารดาถึงสาเหตุที่ต้องมาอยู่ในอุโมงค์ เภาจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ผู้เป็นลูกฟัง รถเสนรู้สึกเสียใจมากที่เห็นผู้เป็นมารดาและป้า ๆ ต้องทนทุกข์ทรมานเช่นนี้ และแล้วพระอินทร์ก็เสด็จลงมายังโลกมนุษย์เพื่อสอนกลอ ุบายในการเล่นการพนันให้กับรถเสน พระอินทร์ได้ให้ไก่ชนวิเศษพร้อมทั้งเครื่องแต่งกายแก ่รถเสนด้วย แล้วรถเสนก็ขออนุญาตมารดาเพื่อออกจาอุโมงค์ไปเผชิญกั บโลกภายนอก เพราะตนเองก็โตเป็นหนุ่มแล้ว
เมื่อมาถึงศาลาสาธารณะ ก็เห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังเล่นพนันไก่ชนอยู่ รถเสนจึงเล่นพนันนั้ด้วยและมีชัยชนะได้รางวัลพอที่จะ ซื้ออาหารมาให้มารดาและป้า ๆ ของตนได้ แน่นอนที่สุดว่าการถือกำเนิดของรถเสนนำมาซึ่งความหวั งให้กับนางสิบสอง นับแต่นั้นมารถเสนก็ออกไปเล่นพนันทุกวันและมีชัยชนะท ุกครั้งไป ข่าวการมีชัยชนะของรถเสนแพร่ไปถึงพระเจ้ารณสิทธิราช ทรงรับสั่งให้รถเสนเข้าเฝ้า แล้วพระราชาก็ชวนให้เขาเล่นสกากับพระองค์ รถเสนท้าพระราชาว่าถ้าหากเขาแพ้เขายินดีเป็นทาสของพร ะราชาตลอดไป แต่ถ้าหากว่าเขาชนะเขาต้องการเพียงข้าว 12 ห่อเท่านั้น พระราชาทรงตอบตกลง และผลก็ปรากฏว่าพระราชาทรงแพ้ถึง 2 ครั้ง ดังนั้นรถเสนจึงได้ข้าว 12 ห่อมาให้มารดาและป้าดังที่คาดหวังไว้
ในวันต่อมา พระราชาทรงพระประสงค์ที่จะเล่นสกากับรถเสนอีก พระองค์ชวนรถเสนไปเล่นกับพระองค์ในปราสาทเรือนทอง และถามชายหนุ่มเกี่ยวกับบิดามารดาของเขา หนุ่มน้อยจึงกราบทูลว่ามารดาของตนชื่อว่าเภา อยู่กับป้าทั้ง 11 คนของตนในอุโมงค์ หลังจากทรงทราบความจริง พระราชาก็สวมกอดชายหนุ่มและบอกกับเขาว่าเขาเป็นโอรสข องพระองค์
ในกาลต่อมา ท้าววัตถาเจ้าเมืองจินดามาท้าพระเจ้ารณสิทธิราชพนันช นไก่ รถเสนจึงอาสาพนันชนไก่แทนพระราชาและมีชัยชนะ นับแต่วันนั้นพระเจ้ารณสิทธิราชก็รักโอรสของพระองค์ม าก และทรงประกาศว่าพระองค์รักโอรสดั่งดวงใจของพระองค์
เมื่อได้ยินคำประกาศของพระราชา นางยักษ์สันธมาลาผู้ซึ่งตอนนี้เป็นหญิงสาวสวย ก็แกล้งทำเป็นป่วยหนักและต้องการผลไม้ชนิดหนึ่งซึ่งม ีรสเปรี้ยว เรียกว่า มะงั่วหาวและมะนาวโห่เพื่อใช้ทำยาและมีอยู่แต่เฉพาะใ นเมืองของนางเท่านั้น นางสันธมาลาขอร้องให้พระราชาส่งเจ้าชายรถเสนไปนำผลไม ้นั้นมาให้นาง พระราชาทรงตอบตกลงโดยไม่เต็มพระทัยนักและส่งเจ้าชายไ ปยังเมืองคชบุรี แต่ก่อนจากไป เจ้าชายรถเสนขอให้พระราชาส่งอาหารไปให้มารดาและป้าขอ งตนทุก ๆ วัน พระราชาทรงรับและทรงอนุญาตให้รถเสนใช้ม้าของพระองค์ช ื่อม้าพาชี ซึ่งสามารถบินไปในอากาศได้เหมือนนก นางสันธมาลาจึงบอกให้รถเสนนำจดหมายไปให้บุตรสาวของตน ด้วย แล้วเจ้าชายก็ผูกจดหมายไว้กับคอม้าและเริ่มออกเดินทา ง
เมื่อออกเดินทางมาได้ระยะหนึ่ง รถเสนก็หยุดพักที่ศาลาพระฤาษีและปล่อยให้ม้าออกไปกิน หญ้ากินน้ำในบริเวณใกล้ ๆ นั้น ทันใดนั้นพระฤาษีก็เหลือบไปเห็นลักษณะดีของม้าจึงเข้ าไปดูใกล้ ๆ และก็พบว่ามีจดหมายแขวนอยู่ที่คอม้า ด้วยความสงสัยท่านจึงตัดสินใจเปิดอ่านโดยไม่ได้รับอน ุญาตและก็พบข้อความประหลาดว่า ถ้าหากชายหนุ่มผู้นี้ถึงกลางวันให้กินกลางวันแต่ถ้าเ ขาถึงกลางคืนก็ให้กินกลางคืน พระฤาษีแปลกใจที่พบข้อความเช่นนั้น ท่านจึงเข้าฌานและก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พระฤาษีคิดว่าเจ้าชายควรจะได้แต่งงานกับพระธิดาเมรีแ ละปกครองเมืองยักษ์แทนที่จะมาถูกยักษ์กิน แล้วพระฤาษีก็เปลี่ยนข้อความใหม่เป็น "ถึงกลางคืนให้รับกลางคืน ถึงกลางวันให้รับกลางวัน ผัวแก้วผัวขวัญของเมรี" แล้วพระฤาษีก็กลับไปที่ศาลาของท่านอวยพรให้รถเสนโชคด ีมีชัย
ขอบคุณจันทร์เจ้าขาดอทคอม
__________________
วันที่ 24 ก.ย. 2552
Advertisement
เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,195 ครั้ง เปิดอ่าน 7,145 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,136 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,151 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,138 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,138 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,145 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,135 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 17,686 ครั้ง |
เปิดอ่าน 10,810 ครั้ง |
เปิดอ่าน 15,258 ครั้ง |
เปิดอ่าน 26,407 ครั้ง |
เปิดอ่าน 15,157 ครั้ง |
|
|