ตามรอยคำขวัญเมืองสงขลา “นกน้ำเพลินตา สมิหลาเพลินใจ เมืองใหญ่สองทะเล เสน่ห์สะพานป๋า ศูนย์การค้าแดนใต้”
นกน้ำเพลินตา
“นกน้ำเพลินตา” …หมายถึง อุทยานนกน้ำคูขุด อุทยานนกน้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ซึ่งอยู่ในพื้นที่อำเภอสทิงพระพื้นที่ของอุทยานก็คือพื้นที่ของทะเลสาบสงขลาส่วนใน มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงามเมากค่ะ ที่สำคัญมีบรรดานกน้ำมากมายอาศัยอยู่ตามเกาะแก่ง เป็นสถานที่น่าไปเที่ยวอย่างยิ่ง ครูอิงเคยนั่งเรือล่องทะเลบัวด้วยค่ะมีดอกบัวนับล้านดอกเลยนะคะ เวิ้งน้ำกว้างใหญ่ของ ทะเลสาบสงขลาเป็นสิ่งที่ทรงคุณค่าต่อผู้คนที่อยู่รอบข้างทะเลสาบ อย่างประมาณค่าไม่ได้เพราะครอบคลุมถึงสามจังหวัดได้แก่ พัทลุง สงขลา และนครศรีธรรมราช
นอกจากนี้คูขุดยังเป็นบ้านเกิดของตัวตลกสำคัญในหนังตะลุงด้วยค่ะ ถ้าใครเคยดูหนังตะลุงต้องรู้จัก อ้ายเท่ง ซึ่งเอาเค้ามาจากชาวบ้านคนหนึ่ง ชื่อเท่ง อยู่บ้านคูขุด อำเภอสะทิงพระ จังหวัดสงขลา
"สมิหลาเพลินใจ" หมายถึงหาดสมิหลา หาดทรายสวยงามที่ขึ้นชื่อของสงขลา...
"เมืองใหญ่สองทะเล" หมายถึงตัวเมืองสงขลาในปัจจุบันนี้เอง ที่ถูกขนาบด้วยทะเลทั้งสองด้าน คือทะเลอ่าวไทยและทะเลสาบสงขลา ถนนสายที่ติดกับทะเลสาบสงขลาคือ ถนนนครนอกค่ะ
"เสน่ห์สะพานป๋า" หมายถึง “สะพานติณสูลานนท์” ที่เชื่อมโยงระหว่าง อำเภอเมืองสงขลาและอำเภอสิงหนคร ไปถึงคาบสมุทรสทิงพระอันเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของครูอิงเองค่ะ โดยใช้เกาะยอกลางทะเลสาบสงขลาเป็นจุดเชื่อม สมัยก่อนตอนครูอิงเด็ก ๆ ยังไม่มีสะพานติณสูลานนท์ครูอิงต้องเดินทางโดยแพขนานยนต์ค่ะ ซึ่งปัจจุบันก็ยังคงมีอยู่นะคะ
"ศูนย์การค้าแดนใต้"หมายถึง “เมืองหาดใหญ่” ศูนย์กลางแห่งธุรกิจภาคใต้ คิดว่าใคร ๆ ก็คงรู้จัก สำหรับครูอิงแล้วถนัดที่จะแนะนำสงขลามากกว่าค่ะ เพราะพำนักพักพิงที่นี่มาแต่เล็กแต่น้อย ซอกซอนไปทุกตรอกซอกซอยด้วยจักรยานคู่ชีพ และถนนสายที่ครูอิงคลุกคลีมากที่สุดเห็นจะเป็น ถนนนางงาม ถนนนครใน และถนนนครนอกค่ะ โดยเฉพาะถนนนางงามนี่สุดยอดด้านอาหารการกินจริง ๆ ค่ะเอกลักษณ์ของสงขลาเห็นจะอยู่ที่แหลมสมิหลานี่แหละค่ะ นั่นคือรูปปั้นนางเงือกที่ริมหาดสมิหลา ใครมาสมิหลาแล้วไม่ได้ถ่ายรูปกับนางเงือก ก็เหมือนกับมาไม่ถึงสงขลา.........
....วงเวียนที่ถนนชายหาดสมิหลา ถูกตบแต่งไว้อย่างสวยงาม ด้านตรงกันข้ามจะเป็นเขาน้อย บนเขาน้อยจะเป็นสวนสาธารณะ อันมีอนุสาวรีย์พลเอกสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลฑิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศร์ ซึ่งในอดีตพระองค์ท่านเคยดำรงตำแหน่ง สมุหเทศาภิบาลและอุปราชมณฑลภาคใต้ ทรงสร้างความเจริญเติบโตและคุณประโยชน์อย่างมากมาย ให้กับชาวสงขลา เมื่อพูดถึงแหลมสมิหลาแล้ว ครูอิงมีร้านอาหารอร่อยที่ชอบไปทานบ่อย ๆ ชื่อร้านอาหารนายหวาน ร้านอาหารทะเลเจ้าเก่าเจ้าอร่อย ตั้งอยู่ติดกับโรงแรมสมิหลา ติดชายหาดสมิหลา นั่งทานอาหารไปมองทิวทัศน์ทะเลไป ได้บรรยากาศค่ะ....เมนูเด็ดของร้านนี้ก็ต้องปูม้านึ่ง ที่แกะมาให้เรากินง่าย น้ำจิ้มก็รสเด็ด อีกอย่างที่ชอบคือน้ำพริกแมงดาสูตรพื้นบ้านค่ะ คลุกข้าวร้อน ๆ อร่อยมากค่ะ
ยังมีสถานที่น่าท่องเที่ยวอีกมากมาย เช่น สถาบันทักษิณคดีศึกษาที่เกาะยอ เป็นสถานที่หนึ่งที่ครูอิงต้องมาฝึกฝนวิชาค่ะ ครูอิงชอบไปเดินมากค่ะ ที่นี่จะเป็นคล้ายๆพิพิธภัณฑ์ บอกกล่าวเล่าเรื่องถึงความเป็นมาของขนชาวปักษ์ใต้ ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ รวมถึงเรื่องวัฒนธรรมประเพณีต่างๆ เสียค่าเข้าชมเพียง 30 บาทเท่านั้นค่ะ ถ้าใครได้ไปอย่าลืมแวะชมห้องกระต่ายขูดมะพร้าวนะคะ
เกาะยอยามเย็นค่ะ
“สวนสัตว์สงขลา” ก็มีนะคะ ตั้งอยู่บนเขา มีวิวทิวทัศน์มีบรรยากาศที่สวยงาม
“ถนนนางงาม” ที่ครูอิงกล่าวถึงในตอนต้น ขอเพิ่มเติมอีกนิดว่าเป็นถนนที่สวยที่สุดในประเทศไทย (ตามชื่อถนน) เป็นถนนเล็กๆที่คลาสสิคจริง ๆ ค่ะ เพราะมีสถาปัตย์กรรมของบ้านเรือน สองฟากฝั่งที่ยังคงความเก่าอยู่ได้ ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม ที่สำคัญไปถนนนางงามแล้วพลาดไม่ได้ คือร้านขนมที่เรียงรายเปิดขายกันหลายร้าน แล้วก็เป็นขนมไทยๆหาทานยากทั้งนั้นค่ะ อ้อมีร้านขายสตูรสเลิศด้วยค่ะ
“เขาตังกวน” หนึ่งในตัวละครเรื่องเกาะแมวเกาะหนู บนเขาตังกวนจะมีพระธาตุที่ชาวสงขลาเคารพอยู่ แถมยังมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม สามารถมองเห็นทะเลทั้งสองด้าน สมกับชื่อ “เมืองสองทะเล"
แต่สิ่งที่สงขลามีมาก ก็คือ “มหาวิทยาลัย” ที่นี่มีมหาวิทยาลัยถึงสี่แห่งค่ะ คือ มหาวิทยาลัยทักษิณ ซึ่งเดิมก็คือมหาวิทยาลัยศรีนครินทราวิโรฒ เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “มหาวิทยาลัยทักษิณ” หมายถึงมหาวิทยาลัยแห่งภาคใต้ (ไม่เกี่ยวกับ ท่านอดีตนายกท่านใดนะเจ้าคะ อิ..อิ..อิ..) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตภาคใต้สงขลา มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย ศูนย์การศึกษาสงขลา....และ "มหาวิทยาลัยราภัฏสงขลา" ยังไม่นับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และมหาวิทยาลัยหาดใหญ่ ที่อยู่ที่หาดใหญ่นะคะ
มีโรงเรียนประจำจังหวัดชาย คือโรงเรียนมหาวชิราวุธ (ครูอิงจบมัธยมปลายจากที่นี่ค่ะ) และโรงเรียนประจำจังหวัดหญิง คือโรงเรียนวรนารีเฉลิมค่ะ
ชีวิตร่อนเร่อยู่หลายจังหวัด แต่ครูอิงว่าเมืองสงขลาเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุดในบรรดาที่อยู่มาค่ะ อากาศสบาย ๆ มีชายทะเลอยู่ในเมือง สองฝั่งทะเลด้วยค่ะ แต่อย่าถามหาย่านธุรกิจการค้าใหญ่ๆหรือแหล่งบันเทิงใหญ่ๆนะคะ ใครชอบสถานที่แบบนั้นต้องที่ "หาดใหญ่" ค่ะ ย่านธุรกิจและแหล่งบันเทิงมหึมา ซึ่งก็อยู่ใกล้กันนิดเดียว 30 กม.เองค่ะ...หาดใหญ่-สงขลา จึงเป็นเมืองที่ต่างพึ่งพิงพึ่งพากัน.... จุ๊ ๆ อย่าเอ็ดไปนะคะ ที่ดินส่วนใหญ่และ ธุรกิจใหญ่ ๆที่หาดใหญ่หลายแห่งเป็นของคนสงขลาค่ะ หรือไม่ก็เป็นเงินทุนจากคนสงขลาค่ะ .......คนสงขลาเป็นคนอยู่แบบง่าย ๆ ไม่ชอบอะไรหรูหราฟู่ฟ่า รักกีฬา ชอบออกกำลังกาย จะเห็นได้จากผู้คน ถีบจักรยาน วิ่ง เต้นแอโรบิก เล่นวอลเล่ย์บอลชายหาดกันทั่วไป....ขณะที่คนหาดใหญ่ ชอบทำธุรกิจ ค้าขาย ตอนเด็ก ๆ ครูอิงคุ้นเคยกับภาพ อาแปะแก่ๆ นั่งรถรับจ้างจากสงขลา ไปเก็บค่าเช่าตึกหรู ๆ ที่หาดใหญ่ค่ะ
ครูอิงเคยอาศัยอยู่แถว ๆ นี้หละค่ะ
ทั้ง ๆที่อยากจะทำอย่างนั้นตั้งแต่ตอนนี้ แต่ก็มีความจำเป็นหลายประการ จำต้องรอไปก่อนค่ะอีกไม่นาน ดอกหญ้าเมืองสองทะเลอย่างครูอิงคงได้กลับไปอยู่สงขลา อาจจะเป็นบั้นปลายของชีวิต
ขอให้ทุกท่านเที่ยวสงขลา-หาดใหญ่ให้มีความสุขนะคะ
แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ไม่ไกลจากหาดใหญ่ "ตลาดคลองแห"
ขอบคุณ บางภาพ และ บางข้อมูลจาก http://www.oknation.net/blog/print.php?id=276907