Advertisement
ชีวิตเป็นของ ประหลาดและน่ากลัวพอสมควรนะคะ เมื่อนึกถึงว่า ต่อให้เราดูแลชีวิตดีแค่ไหน พยายามใช้สมองและสติปัญญาเพียงใด แต่อุบัติเหตุก็เกิดขึ้นได้เสมอ เพราะโลกนี้มีตัวแปรมากมายที่อยู่นอกเหนือความควบคุม ของเรา
หลาย เรื่องเหนือความคาดหมาย เช่น เราอาจขับรถมาดีๆ แล้วโดนรถอีกคันขับมาชน ทำงานอยู่ดีๆ บริษัทก็ขาดทุน และเราโดนเลย์ออฟ โดนแฟนบอกเลิก แต่งงานไปแล้วต้องมาหย่าร้าง ไปตรวจสุขภาพประจำปีแล้วพบว่าเราเป็นโรค หรือคนที่รักต้องตายจากไป...รู้ไหมคะว่า ในภาวะฉุกเฉินของชีวิตเหล่านี้ เกิดอะไรขึ้นในสมองของเราบ้าง
ความคิดของคนเรามีความเร็ว 3 ระดับ
และหากเราเลือกใช้ได้อย่างถูกต้องตามกาลเทศะ เหมาะควรแก่เหตุการณ์เฉพาะหน้า...เราก็สามารถใช้สมอง ของเราได้อย่างเต็ม ศักยภาพ และไม่มีวัน "ตกเป็นทาสความคิด" ของตัวเองแน่ๆ
ความเร็วที่หนึ่ง คือ "เร็วมาก"...เป็นการตัดสินใจในภาวะฉุกเฉิน อุบัติเหตุ เช่น รถคันหน้าเบรกกะทันหัน เราต้องเหยียบเบรกให้ทันก่อนชนท้ายเขา หรือถูกจี้ ปล้น ไฟไหม้ ถูกทำร้ายร่างกาย ถูกแฟนบอกเลิก...เหตุการณ์เหล่านี้ สมองส่วนคิดที่ประมวลผลช้ามากนั้น...คิดให้เราไม่ทัน ค่ะ ตัวเราจะถูกสั่งการโดยสมองส่วนอารมณ์ให้ "ทำอะไรสักอย่าง" ทันที เพื่อให้มีชีวิตรอดเร็วที่สุดดีที่สุด เช่น วิ่งหนี หรือกระโดดเข้าสู้กับโจร...แม้การตัดสินใจแบบที่หนึ่ งจะเร็วมาก แต่จุด อ่อนคือ เร็วเกินไป จึงไม่ได้รวมเอาข้อมูลปลีกย่อยทั้งหมดมาใช้ เราจึงมักได้ยินเรื่อง สามีโมโหภรรยานึกว่าไปมีกิ๊ก แล้วพลั้งมือฆ่าภรรยาโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ หรือแม้กระทั่งข่าวพ่อฆ่าลูกตาย เพราะโมโหเสียงร้องก็มีมาแล้ว...สมองเราคำนวณพลาดได้ บ่อยๆ ค่ะ อย่าไว้ใจเขามากไปในภาวะฉุกเฉิน เพราะสมองของเราจะสั่งการรุนแรงมากและไม่เสถียรเลย
ความเร็วที่สอง คือ "เร็วปานกลาง" ...หนูดีขอเรียกว่า "สมองกระต่าย" คือคิดได้ปุ๊บปั๊บ รวดเร็ว...เรา ทุกคนถูกฝึกมาให้คิดแบบนี้ตั้งแต่สมัยอยู่ในโรงเรียน แล้วค่ะ คือ การคิดหาคำตอบ หาเหตุผล การคิดแบบนี้ สนใจมุ่งหาคำตอบ และมักคิดว่าคำตอบที่ดีที่สุดมีแค่คำตอบเดียว มองเห็นว่า "การคิด" และพลังงานสมองเป็นเครื่องมือแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุด จึงเน้นที่การ "คิด คิด คิด" เพื่อหาคำตอบให้ได้ และเห็นว่าการหาคำอธิบายมาให้ได้ เป็นสิ่งที่สำคัญกว่าการสังเกตอย่างละเอียดละออ...จุด อ่อนของการคิดแบบนี้คือ เราจะคิดมาก คิดเยอะ หยุดคิดไม่ได้ จนทำให้เกิดอาการสมองล้า นอนไม่หลับเพราะสมองวิ่งวน และมักตกอยู่ในภาวะ "วิ่งชนกำแพง" เวลาหาทางออกไม่ได้เวลาเจอปัญหาใหญ่ เพราะรอไม่เป็น ...คนที่เป็นแบบนี้น่าสงสารมาก หนูดีมักเรียกว่าเขา "ตกเป็นทาส" ความคิดของตัวเองค่ะ
ความเร็วที่สาม คือ "ช้ามาก" ...มีอีกชื่อว่า "สมองเต่า" ...นี่เป็นตาน้ำของปัญญาระดับสูง แต่คนทั่วไปไม่ค่อยมีโอกาสได้สัมผัสหรือนำมาใช้ ระบบการศึกษามองไม่เห็นค่าของความคิดแบบนี้ เพราะ "มันช้ามากกก" ค่ะ เมื่อไม่ใช้...เราเลยนึกว่าตัวเองไม่มี และพอสัมผัสเข้าโดยบังเอิญสักครั้งก็ตกอกตกใจ นึกว่ามีปาฏิหาริย์ ...ลองนึกถึงเวลาที่เรานั่งจิบกาแฟในร้านกาแฟ และปล่อยความคิดล่องลอยไปเรื่อยๆ สิคะ ไม่นึก ไม่คิด นั่งดูคนเดินผ่านไปมาอย่างเพลิดเพลิน ลืมตัวตนไปชั่วคราว...และแวบหนึ่งก็เกิดความคิดสร้างสรรค์อย่างมหัศจรรย์ หรือคำตอบของปัญหาที่เราวิ่งวนคิดแทบตายคิดไม่ออก... อยู่ดีๆ ก็ผุดขึ้นมาเสียอย่างนั้น ...นี่ล่ะค่ะ มหัศจรรย์ปัญญาอย่างเต่า นักคิดยิ่งใหญ่ทำไมมีมากในยุคโบราณ ก็เพราะว่า เวลาในอดีตเป็นของถูก จึงทำให้คนมี "เวลาปล่อยอารมณ์" จนเกิดความคิดยิ่งใหญ่ดีๆ มากมาย ความคิดสร้างสรรค์ก็บันดาลมาจากความเร็วของความคิดแบ บที่สามนี้เอง
และที่น่าทึ่งคือ หาก เราเริ่มใช้ปัญญาอย่างเต่า...ทราบไหมคะว่า มันจะย้อนกลับมาช่วยเรา "คิด" และ "ตัดสินใจ" ได้ในภาวะฉุกเฉิน ที่เป็นเวลาแห่งความเป็นความตาย ถ้าตัดสินใจพลาดเราอาจไม่เหลืออะไรเลย...ดังนั้น การจัดเวลาให้เราได้นั่งปล่อยความคิด สบายๆ ไม่มุ่งหาคำตอบ แต่มองเห็นภาพรวมและตั้งคำถามกว้าง จึงเป็นเรื่องจำเป็น หากเราต้องการใช้สมองให้เต็มศักยภาพ
ที่มา posttoday.com
วันที่ 21 ก.ย. 2552
Advertisement
เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,319 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,135 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,135 ครั้ง เปิดอ่าน 7,202 ครั้ง เปิดอ่าน 7,164 ครั้ง เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง เปิดอ่าน 7,156 ครั้ง เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,141 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,144 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,143 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,146 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,145 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 31,451 ครั้ง |
เปิดอ่าน 11,583 ครั้ง |
เปิดอ่าน 13,263 ครั้ง |
เปิดอ่าน 10,597 ครั้ง |
เปิดอ่าน 9,711 ครั้ง |
|
|