Advertisement
❝ วิธีเลิกสูบบุหรี่ด้วยตัวเอง
โดยส่วนใหญ่ ( 90% ) ผู้ที่เลิกสูบบุหรี่ได้สำเร็จ เลิกได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องใช้ยา หรือสารนิโคตินแทนบุหรี่ การใช้สารนิโคตินแทนมิได้หมายความว่าจะสามารถเลิกบุหรี่ได้ทุกคน
ความตั้งใจจริง กำลังใจ การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเอง การลดความเครียดช่วงที่อยากบุหรี่ ลดอาการอยากบุหรี่เบี่ยงเบนความสนใจความอยากสูบบุหรี่ได้
วิธีการที่ผู้เลิกสูบบุหรี่ทำได้สำเร็จแนะนำคือ
1. เตรียมตัว ตั้งใจ ตัดสินใจแน่วแน่ ว่าต้องการเลิกสูบบุหรี่ด้วยตัวเอง
2. กำหนดวัน ? ปลอดบุหรี่ ? ของตนเอง อาจเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
วันเกิดตนเอง หรือ บุตร ? ภรรยา ไม่ควรเลือกเวลาช่วงที่งานเครียด ควรหาใครบางคนให้รับรู้และคอยช่วยเหลือ
3. ทิ้งบุหรี่ และอุปกรณ์ทั้งหมด เพื่อมิให้สิ่งเหล่านี้มากระตุ้นความอยากบุหรี่อีก
4. แจ้งแก่คนในครอบครัว ที่ทำงาน นายจ้าง เพื่อนสนิท เพื่อนร่วมงาน เพื่อให้เป็นกำลังใจ เป็นแรงสนับสนุนให้เลิกได้สำเร็จ
5. เมื่อถึงวันสำคัญที่กำหนดไว้แล้วว่า ? วันปลอดบุหรี่ ? ให้หยุดเลย
6. ให้งดสุรา กาแฟ อาหารรสจัด ละเว้นการรับประทานอาหารให้อิ่มเกินไป ไม่ควรนั่งที่โต๊ะอาหารนาน เพราะหลังอาหารทุกมื้อจะเกิดความอยากบุหรี่อีก ควรดื่มน้ำผลไม้ เช่น น้ำมะนาว เพราะความเป็นกรดจะช่วยล้างนิโคตินออกไป
7. ในช่วงแรกที่งดบุหรี่ จะรู้สึกหงุดหงิด ให้สูดหายใจเข้า ? ออก ลึกๆ ดื่มน้ำมากๆ เพื่อลดความอยาก หรืออาบน้ำ ถ้าเป็นไปได้
8. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ หางานอดิเรกทำเพื่อคลายเครียด เพราะส่วนใหญ่หลังเลิกบุหรี่น้ำหนักตัวจะเพิ่มขึ้น การออกกำลังกาย การควบคุมอาหาร ลดอาหารไขมัน จะเป็นการควบคุมน้ำหนักได้ทางหนึ่ง
9. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ทำประจำตอนสูบบุหรี่ เลี่ยงสถานการณ์ สถานที่ที่เคยสูบบุหรี่อยู่เป็นประจำ
10. ฝึกปฎิเสธ ซ้อมพูดกับตัวเอง เพื่อนฝูง ?? ไม่ครับ ?? ?? ผมไม่สูบครับ ?? ? นายแน่มากที่เลิกสูบบุหรี่ได้ ?
อาการที่เกิดขึ้นจากการอดบุหรี่ และวิธีแก้ไข
1. หงุดหงิด งุ่นง่าน อยากสูบบุหรี่อีก จนแทบไม่อาจควบคุมได้ เพราะร่างกายคุณติดนิโคติน และนี่เองที่เป็นสาเหตุให้คุณอยากสูบบุหรี่
การแก้ไข
1. ดื่มน้ำให้มากที่สุด ดื่มบ่อยๆ เพื่อชำระนิโคตินออกจากร่างกายให้หมดไปโดยเร็วที่สุด
2. ออกกำลังกาย เช่น เดินเร็วๆ ปั่นจักรยาน เพื่อช่วยผ่อนคลายเหงื่อจะช่วยขับถ่ายนิโคตินให้ออกไป
3. อายน้ำอุ่น และถูด้วยผ้าขนหนูให้ทั่วตัว จะทำให้ผ่อนคลายได้ดี
4. พูดคุยกับคนข้างเคียงที่คุ้นเคย เพื่อระบายความหงุดหงิดออกไปบ้าง
5. งดเว้นอาหารจากเนื้อสัตว์ อาหารติดมัน และอาหารรสจัดต่างๆ
6. ฝึกหายใจเข้า ?ออก ลึกๆ คล้ายกับถอนหายใจบ่อยๆ
2. ง่วง กระสับกระส่าย ไม่มีสมาธิในการใช้ความคิด
-- การแก้ไข
1. นอนหลับ หรือนั่ง เพื่อผ่อนคลายในห้องที่เงียบๆ ฟังเพลงเบาๆ ผ่อนคลายความรู้สึกสับสนออกไป
2. งดเว้นงานที่ต้องใช้ความคิดมากๆ
3. พักร้อน หรือ ลางานครึ่งวัน เพื่อพักผ่อน
4. ดื่มนมอุ่นๆ
3. โกรธ ขุ่นเคืองง่าย
-- การแก้ไข
1. อดทนกับอารมณ์ของตนเอง บอกคนข้างเคียงให้ทราบ และขอร้องให้อดทน เข้าใจคุณ
2. แสดงออกในทางสร้างสรรค์ เช่น เต้นรำ เล่นกีฬา ออกกำลังกาย
3. ถ้าทนไม่ไหวให้ทุบหรือชกหมอน เข้าห้องน้ำและตะโกนก็ช่วยได้
4. เขียนระบายความรู้สึกในสมุดบันทึก
5. คุยปัญหากับเพื่อนสนิท
4. หมดแรงปวดศรีษะ ไอมีเสมหะ เจ็บคอ หายใจผิดปกติ บุหรี่เป็นตัวกระตุ้น เมื่อไม่ได้สูบ ทำให้หมดแรงเป็นธรรมดา
-- การแก้ไข
1. หากิกรรมที่กระตุ้นความรู้สึกมีชีวิตชีวา เช่นออกกำลังกาย เต้นรำ
2. พักผ่อนด้วยวิธีการนอน หรือออกไปสูดอากาศในธรรมชาติ
3. ดื่มน้ำอุ่น หรือน้ำผลไม้ประจำจะช่วยให้ชุ่มคอ
4. รับประทานยาแก้ปวด
อาการทางกายเหล่านี้ เป็นการเปลี่ยนแปลงทางเคมี เพื่อปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติเท่านั้น อย่าตกใจ อาการจะเป็นเพียงชั่วคราว ประมาณ 72 ชั่งโมงเท่านั้น
โอกาสในการแนะนำการเลิกบุหรี่
เหตุผลในการเลิกบุหรี่ของคนติดบุหรี่แต่ละคนแตกต่างกัน ซึ่งความสำเร็จในการเลิกบุหรี่นั้น ขึ้นอยู่กับกำลังใจที่เข้มแข็งของคน คนนั้นเป็นสำคัญ ส่านความสำเร็จในการช่วยเหลือผู้อื่นเลิกบุหรี่นั้น ขึ้นอยู่กับการเลือกเวลาที่เหมาะสม ซึ่งมีหลายโอกาสที่อยากจะแนะนำ เช่น
ช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงในชีวิต ( เปลี่ยนเพื่อนร่วมงาน เปลี่ยนงาน ตั้งครรภ์ หรือมีลูกเล็กๆ )
มีปัญหาสุขภาพที่รุนแรง
การขึ้นราคาบุหรี่
เพื่อนหรือญาติที่เสียชีวิตจากโรคที่สัมพันธ์กับบุหรี่
การสร้างแรงกดดันทางสังคม ในโอกาสพิเศษ เช่นวันปีใหม่
วันงดบุหรี่โลก
จากทั้งหมดที่กล่าวมา หากเราทำความเข้าใจกับลักษณะ และสาเหตุของการติดบุหรี่แล้ว จะช่วยเหลือตนเอง และคนอื่นที่ติดบุหรี่ที่ต้องการเลิกได้ดีขึ้น
เลิกบุหรี่แล้วดีอย่างไร
ในสัปดาห์แรกที่เลิกบุหรี่ จะมีอาการ ? อยาก ? บุหรี่อยู่ สัปดาห์ต่อมาอาการอยากจะลดน้อยลง ความอยากจะหายไป และต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม จริงจัง ตั้งใจเลิกพฤติกรรม ที่เคยชินกับบุหรี่ เช่น ดื่มกาแฟ ดื่มสุรา นั่งเล่นที่โต๊ะอาหารหลังอิ่ม หากคุณคิดอยากเลิกสูบบุหรี่ คงปยากทราบแล้วว่าโดยทั่วไปมีวิธีอะไรบ้าง
วิธีอะไรบ้าง
1. การดูแลตัวเอง พร้อมความตั้งใจสูง กำลังใจของผู้ต้องการเลิกบุหรี่เอง และบุคคลรอบข้าง
2. การให้สุขศึกษา เข้าคลินิกอดบุหรี่ อาจเป็นกลุ่ม หรือรายบุคคล
3. การใช้ยาช่วยระงับ ลดอาการเครียด เช่น ยานอนหลับ
4. การใช้สารนิโคตินทดแทน ในรูปแบบต่างๆ เช่น หมากฝรั่ง แผ่นแปะผิวหนังนิโคติน
5. การฝังเข็มลดอาการอยาก คลายอาการหงุดหงิด
6. รับคำปรึกษาจากแพทย์
7. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเอง
8. การใช้สื่อต่างๆ สร้างพลัง ? กำลังใจ การวมกลุ่มโปรแกรมอดบุหรี่สำหรับชุมชน
เมื่อคุณเลิกบุหรี่
ร่างกายและปอดของคุณจะ ? ปลอด ? จากสารพิษในควันบุหรี่ ปอดจะโปร่งจากนิโคติน
สารทาร์ หรือน้ำมันดิน ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก๊าซ และสารเคมีอื่นๆ อีกหลายพันชนิด ทางเดินหายใจจะรู้สึกโล่ง ? สะดวก ขึ้นกว่าเดิม ภายใน 2 สัปดาห์ เสมหะจะลดลง ลดความเสี่ยงต่อโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ เช่น คออักเสบ หลอดลมอักเสบ เนื่องจากไม่มีควันบุหรี่ที่เป็นสารก่อความระคายเคือง และทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น ที่สำคัญคือลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งของอวัยวะต่างๆ ลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ ลดความเสี่ยงความทุกข์ทรมานจากโรคถุงลมปอดโป่งพอง ถ้าเลิกสูบบุหรี่ขณะที่ยังไม่มีการทำลายปอดอย่างถาวร สมรรถนะปอด จะสามารถฟื้นตัวขึ้นได้ ? ไม่มีคำว่าสาย สำหรับการเลิกบุหรี่ ?
ประโยชน์ของการเลิกบุหรี่
1. การหยุดสูบบุหรี่เป็นผลดีต่อสุขภาพเป็นอย่างมาก และเป็นผลดีที่เกิดขึ้นทันทีที่เลิกสูบบุหรี่ ทั้งในเพศชาย และเพศหญิง ในทุกกลุ่มอายุ ไม่ว่าจะป่วยเป็นโรคจาการสูบบุหรี่แล้วก็ตาม
2. ผู้ที่เลิกสูบบุหรี่จะมีอายุยืนยาวกว่าผู้ที่สูบบุหรี่ต่อไป โดยผู้ที่เลิกสูบบุหรี่ก่อนอายุ 50 ปี จะมีโอกาสเสียชีวิตเพียงครึ่งหนึ่งของผู้ที่ยังคงสูบบุหรี่ต่อไป เมื่อทั้งสองกลุ่มมีอายุ 65 ปี
3. การเลิกสูบบุหรี่ลดโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอด มะเร็งระบบอื่นๆ หัวใจวายกะทันหัน เส้นเลือดในสมองตีบหรือตันกะทันหัน โรคถุงลมปอดโป่งพอง และโรคปอดเรื้อรังอื่นๆ
4. ผู้หญิงที่หยุดสูบบุหรี่ก่อนการตั้งครรภ์ หรือระหว่าง 3- 4 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ จะลดความเสี่ยงที่ลูกจะมีน้ำหนักแรกคลอดน้อยกว่าปกติ
5. ผลดีที่จะเกิดขึ้นต่อสุขภาพจากากรหยุดสูบบุหรี่มีมาก น้ำหนักเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเพิ่มโดยเฉลี่ย 2.3 กิโลกรัม
6. ในการหยุดสูบบุหรี่ เมื่อเทียบกับผู้ที่ยังสูบบุหรี่ต่อไป ความเสี่ยงของการที่จะเสียชีวิตลดลงอย่างรวดเร็ว
❞
วันที่ 20 ก.ย. 2552
Advertisement
เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง เปิดอ่าน 7,133 ครั้ง เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง เปิดอ่าน 7,147 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,146 ครั้ง เปิดอ่าน 7,134 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,143 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,143 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,141 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,137 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,145 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,148 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,144 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 11,007 ครั้ง |
เปิดอ่าน 18,852 ครั้ง |
เปิดอ่าน 40,249 ครั้ง |
เปิดอ่าน 16,243 ครั้ง |
เปิดอ่าน 23,577 ครั้ง |
|
|