Advertisement
วันสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ 'พ่อหลวงของเรา'
เมืองชุมพร มีลักษณะภูมิประเทศที่ตั้งอยู่ในที่ลุ่ม โดยมีภูเขาสูงทางทิศตะวันตกซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำที่ไหลผ่านมายังเมืองชุมพร โดยมีแม่น้ำสายหลักคือแม่น้ำท่าตะเภา ซึ่งรับน้ำในพื้นที่อำเภอท่าแซะ และอำเภอบางสะพานบางส่วน ไหลลงสู่ทะเลที่ปากน้ำชุมพร และอีกสายหนึ่งคือแม่น้ำชุมพรซึ่งมีแหล่งต้นน้ำอยู่ในบริเวณเขตป่าเขา รอยต่อระหว่างจังหวัดชุมพรและจังหวัดระนองไหลผ่านมายังเขตชุมชนในเมือง และไหลออกสู่ทะเลที่อ่าวทุ่งคา ตั้งแต่อดีตกาลมาจังหวัดชุมพรจะประสบปัญหาอุทกภัยเป็นประจำทุกปี และปีหนึ่งอาจเกิดขึ้นหลายครั้งสร้างความเสียหายแก่ทรัพย์สินและความเดือดร้อนให้กับประชาชนมาตลอด
วันที่ 4 พฤศจิกายน 2532 ได้เกิดมหาวาตภัย ไต้ฝุ่นเกย์ และเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่เนื่องจากพายุไต้ฝุ่นเกย์เคลื่อนเข้าสู่ฝั่งบริเวณอำเภอเมือง และอำเภอปะทิว และเคลื่อนตัวผ่านไปยังอำเภอท่าแซะ ก่อนที่จะเคลื่อนผ่านไปยังทะเลอันดามันทางจังหวัดระนอง ผลของพายุทำให้เกิดความเสียหายแก่บ้านเรือน ทรัพย์สิน ไร่นา รวมทั้งมีผู้เสียชีวิตเกือบ 1,000 คน ยังความเดือดร้อนให้แก่ชาวชุมพรอย่างแสนสาหัส ความทุกข์อันแสนสาหัสของชาวชุมพรทราบถึงพระเนตรพระกรรณของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และได้ทรงศึกษาหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาให้ชาวชุมพร กรมชลประทานจัดทำ โครงการขุดคลองเพื่อระบายน้ำจากแม่น้ำท่าตะเภา บริเวณบ้านหัววัง ตำบลบางลึก อำเภอเมืองชุมพร มาลงทะเลบริเวณอ่าวพนังตัก ตำบลนาทุ่ง อำเภอเมืองชุมพร ขึ้นอีกสายหนึ่ง เรียกว่า คลองหัววัง-พนังตัก หรือคลองในหลวง ซึ่งเป็นชื่อที่ประชาชนรู้จักกันดีระยะทางยาว 8,100 เมตร และพัฒนาพื้นที่หนองน้ำสาธารณะบริเวณหนองใหญ่ ตำบลบางลึก เป็นแก้มลิงธรรมชาติ เป็นแหล่งกักเก็บน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วม และเป็นแหล่งน้ำสำรองของจังหวัดชุมพรในอนาคต พระองค์ท่านได้มอบหมายให้ ท่านดิสธร วัชโรทัย ผู้อำนวยการกองงานส่วนพระองค์มาให้ความช่วยเหลือและแนะนำอย่างใกล้ชิด
จนกระทั่งในระหว่าง วันที่ 18-22 สิงหาคม 2540 เกิดพายุโซนร้อนซีต้า พัดขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ผ่านไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือของไทย อิทธิพลของพายุโซนร้อนซีต้าทำให้ฝนตกหนักมากทั่วทุกพื้นที่ของจังหวัดชุมพร น้ำในคลองต่าง ๆ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลันในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะในเขตเมืองชุมพร น้ำท่วมมีระดับสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของชาวชุมพร มากกว่าน้ำท่วมที่เกิดจากพายุไต้ฝุ่นเกย์ จนเข้าสู่ภาวะปกติในวันที่ 31 สิงหาคม 2540 เหตุดังกล่าวได้สร้างความเสียหายจำนวนมหาศาลทั้งชีวิต ทรัพย์สิน เรือกสวนและไร่นา จนมิอาจประเมินค่าได้ ต่อมาเดือนพฤศจิกายน ในปีเดียวกันนั้น กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนว่า “พายุ ลินดา” ซึ่งเป็นพายุที่มีลักษณะการก่อตัวบริเวณเดียวกันกับพายุเกย์ และพยากรณ์ว่าจะมีความรุนแรงใกล้เคียงกัน จะขึ้นฝั่งบริเวณจังหวัดชุมพร ซึ่งเป็นวาระครบรอบ 8 ปี แห่งการเกิดมหาวาตภัยไต้ฝุ่นเกย์พอดี สร้างความตื่นตระหนกให้กับชาวชุมพรอย่างยิ่ง เพราะเพิ่งประสบอุทกภัยอย่างรุนแรงผ่านมาเพียง 3 เดือน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นห่วงถึงความเดือดร้อนของราษฎรชาวชุมพร ทรงเร่งรัดให้ทำการขุด คลองหัววัง-พนังตัก ให้แล้วเสร็จ เพื่อสามารถระบายน้ำลงสู่ทะเลได้ก่อนที่พายุจะขึ้นฝั่ง ดั่งพระราชดำรัสที่พระราชทานให้แก่คณะบุคคลต่าง ๆ ที่เข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต วันพฤหัสบดีที่ 4 ธันวาคม 2540 ความว่า “...สำหรับการขุดคลองให้สำเร็จนั้น ทางมูลนิธิชัยพัฒนาจะสนับสนุนเงินสิบแปดล้าน ซึ่งถ้าทางราชการมอบเงินตามงบประมาณได้เมื่อไร ก็ขอคืน แต่ไม่ทราบว่าทางราชการจะสนับสนุนเงินนี้หรือไม่ แต่ก็ไม่เป็นไรมูลนิธิยอมที่จะเสียประโยชน์ไปบ้าง ทำอย่างนี้เพราะเห็นว่าการลงทุนแม้จะมีเงินน้อย แต่การลงทุนเพื่อให้มีผลผลิตมากขึ้นข้อหนึ่ง การลงทุนเพื่อให้ไม่ต้องเสียเงินอีกข้อหนึ่ง เป็นสิ่งที่คุ้มเพราะว่าถ้าเราไม่ทำ ก็เชื่อว่าการที่มีน้ำท่วมทั้งที่ทำการเพาะปลูก ทั้งสถานที่ราชการหรือเอกชนเสียหายนั้น จะต้องเสียเงินมากกว่ามาก คือเสียเงินสงเคราะห์ผู้เสียหาย ถ้าไม่มีความเสียหายก็ไม่ต้องเสียเงิน ประชาชนจะได้ทำมาหากินอย่างปกติ ฉะนั้นการที่ลงทุนเพื่อให้สำเร็จภายในเดือนนั้น สิบแปดล้านกว่าก็น่าจะคุ้มค่า เป็นการประหยัดเงินของประชาชน และงบทางราชการด้วย”
เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2541 นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันใหญ่หลวงต่อชาวชุมพรอีกครั้งหนึ่ง ยังความปลาบปลื้มอันหาที่สุดมิได้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเป็นประธานในการเปิดป้ายโครงการแก้มลิงหนองใหญ่ ตามพระราชดำริ ทอดพระเนตรและติดตามงานการขุด คลองหัววัง-พนังตัก เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม ขณะที่ทรงงานบนสะพาน “อาภากร” สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระราชดำรัสว่า “น่าจะจัดแข่งเรือบริเวณนี้ เพราะมีคันคลองเป็นชั้น ๆ เหมือนอัฒจันทร์”
จังหวัดชุมพร จึงได้จัดแข่งขันเรือเพื่อสนองพระราชดำรัสของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ขึ้นครั้งแรกเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2541 ณ คลองหัววัง-พนังตัก บริเวณโรงเรียนเมืองชุมพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานถ้วยรางวัล สำหรับการแข่งขันเรือยาวประเภท 16 ฝีพาย
สำหรับการจัดงานในปี พ.ศ. 2552 นี้ เป็นครั้งที่ 10 จะจัดขึ้นระหว่าง วันที่ 17-20 กันยายน โดยได้กำหนดชื่องานว่า “วันสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในหลวงของเราและการแข่งขันเรือยาวขึ้นโขนชิงธงชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี”
นายอำนวย บัวเขียว นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพร กล่าวว่า การจัดงานวันสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในหลวงของเรา และการแข่งขันเรือยาวขึ้นโขนชิงธงชิงถ้วยพระราชทานฯ ประจำปี พ.ศ. 2552 ได้กำหนดรูปแบบกิจกรรม 2 ประเภท คือ กิจกรรมทางน้ำ และกิจกรรมทางบก ตลอดจนกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
สำหรับปีนี้ มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดชุมพรเขตอำเภอเมือง จำนวน 18 แห่งพร้อมใจกันเข้าร่วมกิจกรรมขบวนแห่ทางบกในวันที่ 18 กันยายน คาดว่าจะมีพลังมวลชนเข้าร่วมในขบวนแห่ทางบกไม่ต่ำกว่า 3 พันคน โดยจะมีการอัญเชิญถ้วยพระราชทานจากสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัดชุมพรในเขตเทศบาลเมืองชุมพรไปยังคลองหัววัง-พนังตัก
ในวันที่ 20 กันยายน จะเป็นการชิงชนะเลิศการแข่งขันเรือยาวฯ ประเภท 32 ฝีพายคณะกรรมการจัดงานได้ประสานไปยังสถานีโทรทัศน์ Thai PBS (ทีวีไทย) เพื่อทำการถ่ายทอดสดตั้งแต่เวลา 14.00-16.00 น.
สาธิต ศรีหฤทัย
ขอบคุณที่มาจาก หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
Advertisement
เปิดอ่าน 20,918 ครั้ง เปิดอ่าน 13,973 ครั้ง เปิดอ่าน 2,576 ครั้ง เปิดอ่าน 20,335 ครั้ง เปิดอ่าน 9,338 ครั้ง เปิดอ่าน 32,813 ครั้ง เปิดอ่าน 17,322 ครั้ง เปิดอ่าน 3,245 ครั้ง เปิดอ่าน 11,139 ครั้ง เปิดอ่าน 21,177 ครั้ง เปิดอ่าน 1,091 ครั้ง เปิดอ่าน 84,234 ครั้ง เปิดอ่าน 12,919 ครั้ง เปิดอ่าน 4,516 ครั้ง เปิดอ่าน 12,539 ครั้ง เปิดอ่าน 23,876 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 9,040 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 56,514 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 47,675 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 85,406 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 19,636 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 9,006 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,894 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 4,813 ครั้ง |
เปิดอ่าน 10,553 ครั้ง |
เปิดอ่าน 11,024 ครั้ง |
เปิดอ่าน 12,182 ครั้ง |
เปิดอ่าน 22,111 ครั้ง |
|
|