ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

กิน"รกช้าง"ย่างยา(ผี)หลอก...หรือแก้โรคหอบ


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,140 ครั้ง
Advertisement

กิน"รกช้าง"ย่างยา(ผี)หลอก...หรือแก้โรคหอบ

Advertisement


          "รกช้างเป็นบุญแรกที่ลูกช้างได้ทำ โดยเพนียดช้างจะมีช้างตกลูกเฉลี่ยเดือนละเชือก ควาญช้างก็จะนำรกช้างมาย่างจนแห้ง แล้วเก็บไว้บนปะรำพิธี เอาไว้แจกจ่ายชาวบ้านเวลาขอไปทำยาผีบอก เข้าลูกกลอน ผสมเครื่องยารักษาโรคหอบหืด อัมพฤกษ์ อัมพาต ฯลฯ" ลายทองเหรียญ มีพันธ์ ประธานมูลนิธิพระคชบาล และวังช้างอยุธยาแลเพนียด บอก

          "พอช้างตกลูกจะมีรกสีขาว มีเนื้อคล้ายม้ามติดอยู่ด้วย มีขนาดใหญ่มากขนาดคนนั่งงอเข่าเข้าไปอยู่ในรกได้สบาย ๆ จากนั้นควาญช้างก็จะนำรกมาย่างจนแห้งทันที จะเหลือขนาดเท่ากับโต๊ะเล็ก ๆ แล้วนำมาเก็บไว้ที่ปะรำพิธี ถ้าชาวบ้านมาขอ ก็จะแบ่งให้ขนาดเท่ากระดาษเอ4 เอาไปทำยารักษาคนป่วยและเก็บไว้บางส่วน บางครั้งรู้สึกไม่สบายใจ เครียด ๆ ก็เคยเอารกช้างมาต้มน้ำกิน ทำให้รู้สึกสบายใจขึ้น" ลายทองเหรียญกล่าวถึงความเชื่อที่ยังไม่มีการพิสูจน์ แต่ก็สามารถหายจากความรู้สึกไม่สบายทั้งปวงได้เป็นปลิดทิ้ง






ขอขอบคุณข้อมูลจากคมชัดลึก



          ฮือฮา!! ตำรายาผีบอก "รกช้าง" รักษาโรคภูมิแพ้ - หอบหืดได้เป็นปลิดทิ้ง แถมยังมีสรรพคุณบำรุงสมรรถภาพทางเพศ เป็นความเชื่อที่เลื่องลือแพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว จนชาวบ้านร้านตลาดพอรู้ข่าวมีช้างตกลูกที่ใด ก็จะแห่กันไปเฝ้ารอขอรกช้างมา กินรักษาโรคเรื้อรังที่ทรมานสังขารมาแรมปี แม้จะไม่มีผลยืนยันทางการแพทย์ว่า รกช้างรักษาโรคหอบหืดได้จริง แต่คุณค่าทางจิตใจนั้นเต็มร้อยเข้าขั้น "ยาหลอก" !?!

          ผศ.นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองอธิการบดี ฝ่ายวางแผนและพัฒนา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคภูมิแพ้ อธิบายถึงอาการโรคภูมิแพ้ด้วยภาษาทางการแพทย์ที่เข้าใจง่าย ๆ โรคนี้เกิดจากภูมิต้านทานของผู้ป่วย ขยันทำงานมากกว่าภูมิต้านทานของคนปกติ เช่น ภูมิต้านทานที่จมูกของคนปกติเวลาเจอเชื้อโรค ไวรัส แบคทีเรีย ก็จะทำงานด้วยการจาม น้ำมูกไหล เพื่อขับไล่เชื้อโรคแบบพอดี ๆ หากเจอละอองเกสรดอกหญ้าก็จะเฉย ๆ ไม่แสดงอาการขับไล่ แต่ถ้าเป็นโรคภูมิแพ้ ก็จะขับไล่สิ่งแปลกปลอมทุกชนิด ทำให้จาม น้ำมูกไหล ตลอดทั้งวัน จนไม่เป็นอันทำงาน ดังนั้น วิธีรักษาที่ได้ผล คือการทำให้ภูมิต้านทานของร่างกายทำงานปกติ โดยหลีกเลี่ยงสิ่งที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้นั่นเอง

          ดังนั้น ความเชื่อที่ว่า รกช้างช่วยรักษาอาการภูมิแพ้ได้อย่างชะงักนั้น อาจารย์เฉลิมชัยชี้ว่า ไม่อาจอธิบายได้ทางการแพทย์ เหมือนกับการกินวิตามินซี ก็ไม่สามารถป้องกันโรคภูมิแพ้ได้ การรักษาที่ได้ผลคือ การทดสอบว่าร่างกายแพ้สิ่งใดกันแน่ แล้วก็หลีกเลี่ยงสิ่งที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ ซึ่งปัจจุบันสามารถทดสอบได้อย่างรวดเร็วทันใจ เจ็บเหมือนมดกัดหรือหนามเกี่ยว และเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 500 - 2,000 บาท เพียงแค่ 20 นาทีก็รู้ผล โดยไม่จำเป็นต้องกินยาแก้ภูมิแพ้ ทั้งที่ไม่รู้ว่าตัวเองแพ้อะไรไปตลอดชีวิต

          กลุ่มผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ที่เกิดจากหลอดลมหดตัว ทำให้เกิดอาการหอบหืด ซึ่งกลายเป็นกลุ่มเป้าหมายของยาผีบอก สูตรรกช้าง ผศ.นพ.เฉลิมชัย เตือนว่า การที่คนเรากินอะไรที่ร่างกายไม่คุ้นเคย อาจเกิดอาการแพ้ได้เช่นกัน โดยเฉพาะรกช้างนั้น ก็ไม่รู้ว่ามีอะไรอยู่บ้าง หากเป็นรกมนุษย์เท่าที่ศึกษามาจะมีเนื้อเยื่อของแม่และลูก ทำหน้าที่เป็นตัวกลางส่งอาหารจากแม่สู่ลูก และรับของเสียจากลูกสู่แม่ ไม่ได้มีอะไรพิเศษไปมากกว่านี้ แต่สิ่งที่เกิดจากความเชื่อ อาจมีผลทางจิตใจช่วยให้รักษาโรคหายได้ 30 - 40 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยทั้งหมด

          "ที่ประเทศอินเดียมีวิธีรักษาอาการแน่นจมูก ด้วยการมานั่งล้อมรอบฤาษีแล้วปรบมือ 300 ครั้ง ก่อนจะแยกย้ายกันไปทำงานตามปกติ จากยอดผู้ป่วย 100 คน อาการดีขึ้น 30 คน ทางการแพทย์เรียกว่า "ยาหลอก" เป็นผลจากมนุษย์เรามีจิตใจเชื่อมั่นศรัทธาในสิ่งนั้นๆ ทำให้อาการดีขึ้น ส่วนอีก 70 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือก็ยังป่วยเหมือนเดิม คล้ายกับการรักษาด้วยสมุนไพร แค่มีคนหายป่วย 30 เปอร์เซ็นต์ ก็ลือกันว่ารักษาโรคได้ ในทางกลับกัน ยาแผนปัจจุบันหากนำมารักษาแล้วหายป่วยแค่ 30 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าใช้ไม่ได้ผล" ผศ.นพ.เฉลิมชัย กล่าว 

          ด้าน รศ.นพ.สมชาย ธนวัฒนาเจริญ หน่วยเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ ภาควิชาสูติศาสตร์ - นรีเวชวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ลองพิจารณาหาสรรพคุณทางยาของรกช้าง ด้วยการนำมาเทียบเคียงกับรกมนุษย์ ซึ่งมีฮอร์โมนอยู่เยอะมาก จึงนิยมนำมาทำเครื่องสำอางกันอย่างแพร่หลาย นอกจากนี้ รกยังมีระบบภูมิคุ้มกันที่กดภูมิต้านทานของพ่อ ที่อาจจะทำอันตรายต่อทารกในครรภ์ แต่ก็ยังไม่มั่นใจอยู่ดีว่ารกของสัตว์ จะมีลักษณะเดียวกันนี้หรือไม่

          "ผมไม่ค่อยเชื่อว่าระบบเซลล์ของสัตว์จะช่วยกดภูมิต้านทานรักษาโรคภูมิแพ้ได้ เพราะเด็กที่แพ้นมวัว ยังถูกกระตุ้นให้เด็กแพ้โปรตีนสัตว์ตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ และยังไม่มีผลการศึกษาที่ทำให้เชื่อได้ว่า รกช้างจะช่วยรักษาโรคภูมิแพ้ได้ ถ้ายิ่งนำไปผ่านกรรมวิธีด้วยการต้ม ย่าง อาจจะทำให้เซลล์ถูกทำลายไปแล้วก็ได้" รศ.นพ.สมชาย ตั้งข้อสังเกต

          ส่วน นสพ.ชิษณุ ติยะเจริญศรี รองประธานมูลนิธิช่วยชีวิตสัตว์ป่าแห่งประเทศไทย ซึ่งเคยมีประสบการณ์ เก็บรกแมวเปอร์เซียแช่แข็งไว้ให้คนที่มาขอไปรักษาโรคหอบหืด สะท้อนว่า การกินรกช้างมีมาตั้งนานแล้ว โดยจะนำรกช้างไปตากแดดแล้วต้มหรือย่างกิน เพื่อรักษาโรคหอบหืด เป็นความเชื่อที่สมควรจะมีการพิสูจน์ว่า รกช้างมีสรรพคุณทางยารักษาโรคภูมิแพ้จริงหรือไม่ แต่จริง ๆ แล้วการรักษาโรคภูมิแพ้ แค่หลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้แพ้ก็เพียงพอแล้ว ทั้งนี้ ขบวนการเกิดโรคภูมิแพ้เกิดจากร่างกายหลั่งสารฮีสเตอมีน ทำให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ เช่น บวมแดง คัน ฯลฯ จึงต้องกินยาต้านฮีสตามีนหรือยาคลอเฟนิรามีน

          "ผมก็เคยบอกคนที่มาขอรกแมวไปกินรักษาโรคหอบหืดว่า รกก็เป็นโปรตีนกินไปเถอะ แต่อย่าหยุดกินยา หากอาการภูมิแพ้กำเริบขึ้นมาอีก จะอันตรายถึงชีวิต" นสพ.ชิษณุ เตือน

          แม้ในทางการแพทย์จะยังไม่มีรายงานและการพิสูจน์ถึงสรรพคุณทางยาของรกช้างที่มีต่อโรคภูมิแพ้ แต่ในมุมมองของคนเลี้ยงช้างยังคงมีความเชื่อชนิดฝังหัว ถึงความวิเศษของรกช้าง พวกเขาเชื่อว่ารกได้ทำหน้าที่ปกปักดูแลป้องกันภัยร้ายให้แก่เหล่าเทวดาทั้ง 26 องค์ ที่คอยพิทักษ์ลูกช้างตั้งแต่อยู่ในท้องตลอด 2 ปี ด้วยเหตุนี้รกช้างจึงเป็นหนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สามารถขจัดปัดเป่าสารพัดโรคได้ ตำรับยาสมุนไพรจึงมักปรากฏชื่อรกช้างเป็นส่วนผสมอยู่ด้วยเสมอ  

 


โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 7254 วันที่ 15 ก.ย. 2552


กิน"รกช้าง"ย่างยา(ผี)หลอก...หรือแก้โรคหอบกินรกช้างย่างยา(ผี)หลอก...หรือแก้โรคหอบ

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

เลิกเข้าใจผิดได้แล้ว..!!

เลิกเข้าใจผิดได้แล้ว..!!


เปิดอ่าน 7,147 ครั้ง
^^ สะบายดี เวียงจันทร์ ^^

^^ สะบายดี เวียงจันทร์ ^^


เปิดอ่าน 7,145 ครั้ง
เมื่อหนาวมาเยือน

เมื่อหนาวมาเยือน


เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง
การระวังหนังสือ

การระวังหนังสือ


เปิดอ่าน 7,402 ครั้ง
กับดัก..หนู..!!

กับดัก..หนู..!!


เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

โรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 ? การป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 ? ไข้หวัดใหญ่ 2009

โรคไข้หวัดใหญ่ สายพันธุ์ใหม่ 2009 ? การป้องกันไข้หวัดใหญ่ 2009 ? ไข้หวัดใหญ่ 2009

เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ดื่มน้ำมะพร้าวช่วงท้อง ดีจริงหรือ ?
ดื่มน้ำมะพร้าวช่วงท้อง ดีจริงหรือ ?
เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย

ชีวิตครูของผม ตอน โรงเรียนในฝัน หรือโรงเรียนรังแกฉัน (ตอนที 1 )
ชีวิตครูของผม ตอน โรงเรียนในฝัน หรือโรงเรียนรังแกฉัน (ตอนที 1 )
เปิดอ่าน 7,405 ☕ คลิกอ่านเลย

...เพราะว่ากินแล้วได้บุญ..
...เพราะว่ากินแล้วได้บุญ..
เปิดอ่าน 7,136 ☕ คลิกอ่านเลย

สำหรับผู้ต้องการเปลี่ยน
สำหรับผู้ต้องการเปลี่ยน
เปิดอ่าน 7,143 ☕ คลิกอ่านเลย

"นิวโรบิกส์" ....ยิมนาสติกสมอง
"นิวโรบิกส์" ....ยิมนาสติกสมอง
เปิดอ่าน 7,137 ☕ คลิกอ่านเลย

เด็ก15ปีฆ่าเด็ก9ขวบโพสต์งานอดิเรกคือฆ่าคน
เด็ก15ปีฆ่าเด็ก9ขวบโพสต์งานอดิเรกคือฆ่าคน
เปิดอ่าน 7,141 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

"ครอบฟันสี" อย่าคิดเป็นอื่นไกล นี่คือพืชชนิดหนึ่ง
"ครอบฟันสี" อย่าคิดเป็นอื่นไกล นี่คือพืชชนิดหนึ่ง
เปิดอ่าน 12,744 ครั้ง

คิ้วตกปัญหาโหงวเฮ้งที่ต้องรีบแก้
คิ้วตกปัญหาโหงวเฮ้งที่ต้องรีบแก้
เปิดอ่าน 40,737 ครั้ง

ประโยชน์และสรรพคุณทางยาของกระเทียม
ประโยชน์และสรรพคุณทางยาของกระเทียม
เปิดอ่าน 19,377 ครั้ง

เทคนิคใหม่จากสิงคโปร์ทำภาพสีไม่ใช้หมึกคมชัดกว่าเลเซอร์เจ็ท
เทคนิคใหม่จากสิงคโปร์ทำภาพสีไม่ใช้หมึกคมชัดกว่าเลเซอร์เจ็ท
เปิดอ่าน 13,159 ครั้ง

คณิตาสตร์กับปรากฏการณ์ธรรมชาติ
คณิตาสตร์กับปรากฏการณ์ธรรมชาติ
เปิดอ่าน 45,048 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ