หัวหินเดือด! สทศ.ฉะ สพฐ.กลางที่ประชุมย้ำข้อสอบโอเน็ตออกตามหลักสูตร สะท้อนเด็กคิดวิเคราะห์เป็นหรือไม่ ขณะที่ครูมุ่งสอนอัดเนื้อหาอย่างเดียวหวังแค่ให้เด็กพ้นรั้ว รร. ด้าน สพฐ.ระดมขุนพลโต้ทันควันหลักสูตรไม่ใช่ปัญหา แต่เกิดจากหลายปัจจัยทั้งที่บ้านและการบริหารงานของ ผอ.รร. ขณะที่ "จุรินทร์" สั่งทบทวนหลักสูตรเนื้อหาเยอะไปหรือไม่ พร้อมชี้ข้อสอบโอเน็ตต้องมีการทบทวนสัดส่วนเนื้อหาแบ่งเปอร์เซ็นต์คิดวิเคราะห์ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
เมื่อวันที่ 11 ก.ย. กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) จัดประชุมเชิงนโยบายเพื่อระดมความคิด เรื่องการพัฒนาการศึกษาทั้งระบบเพื่อพัฒนาคุณภาพเด็กและเยาวชนไทยระหว่างวันที่ 11-12 ก.ย.โดยมีผู้บริหารองค์กรหลักของ ศธ.และผู้เกี่ยวข้องในวงการศึกษาเข้าร่วมกว่า 300 คน
โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) กล่าวเปิดการประชุมว่า ตนอยากได้คำตอบในด้านนโยบายในหลายคำถามเพื่อขับเคลื่อนองคาพยพใน 6 ข้อ คือ 1.การเรียนการสอนในปัจจุบันสอนให้เด็กท่องจำหรือคิดวิเคราะห์ 2.การออกข้อสอบไม่ว่าจะเป็นการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐานหรือโอเน็ต การสอบความถนัดทั่วไปหรือ GAT และการสอบความถนัดทางวิชาชีพ/วิชาการ หรือ PAT สอดคล้องกับการเรียนการสอนหรือไม่หากสอนอย่างหนึ่ง สอบอีกอย่างหนึ่งในที่สุด รร.กวดวิชาก็เฟื่องฟูเพราะเด็กไม่สามารถเรียนใน รร.ได้รู้เรื่องจึงต้องหันหน้าไปพึ่ง รร.กวดวิชาแทน 3.เด็กไทยเรียนในห้องเรียนมากเกินไปหรือไม่ 4.ระบบการคัดเลือกเข้าเรียนในระดับอุดมศึกษามีความเหมาะสมและสอดคล้องกับระบบการเรียนการสอนและได้นักศึกษาที่ตรงตามความต้องการหรือไม่ 5.สถาบันอุดมศึกษาสามารถผลิตบัณฑิตได้มีคุณภาพ และตรงตามความต้องการของประเทศหรือไม่และ 6.ระบบการประเมินเป็นระบบที่มีความเหมาะสมถูกต้องเที่ยงตรงหรือยัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้าของการประชุมผู้ร่วมอภิปรายข้อมูลซ้ำไปซ้ำมาและไม่ตอบคำถามทั้ง 6 ข้อ ทำให้ช่วงบ่ายนายจุรินทร์ ต้องขอความร่วมมือให้ผู้ร่วมประชุมให้ช่วยตอบคำถามข้อ 1-3 ที่ชัดเจน โดยนายกสมาคม รร.อาชีวศึกษาเอกชนได้ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับการออกข้อสอบโอเน็ตของสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) ว่าทำไมจึงต้องให้ครู รร.สาธิต และอาจารย์ในมหาวิทยาลัยออกข้อสอบเท่านั้น ทำไมไม่เปิดโอกาสให้ครูทั่วไปได้ออกข้อสอบด้วย
รศ.ดร.อุทุมพร จามรมาน ผอ.สทศ.กล่าวว่า การออกข้อสอบโอเน็ตจำเป็นต้องอาศัยผู้ที่มีเวลาและออกข้อเป็นมาช่วยออก อีกทั้งยังต้องสามารถเก็บความลับได้ส่วนหาก ศธ.อยากย้อนกลับไปดูว่าเด็กสามารถคิดวิเคราะห์ได้หรือไม่นั้น สทศ.สามารถช่วยได้โดยวิเคราะห์ผลสอบ GAT ของเด็กเพื่อสะท้อนการคิดวิเคราะห์ของเด็ก ส่วนข้อสอบโอเน็ตสอดคล้องกับการเรียนการสอนหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ แต่ขอย้ำว่าการออกข้อสอบของ สทศ. ออกตามหลักสูตรของ สพฐ.ซึ่งสะท้อนการเรียนการสอนใน รร.ส่วนเด็กเรียนในห้องเรียนมากเกินไปหรือไม่นั้น ตนคิดว่าทุกวันนี้ครูมุ่งสอนและหวังให้เด็กจบออกไปอย่างเดียวทำให้เด็กทุกวันนี้เรียนมากเกินไป
คุณหญิงกษมา วรวรรณ ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) กล่าวว่า ตนคิดว่าหลักสูตรไม่ได้ขวางกั้นการคิดวิเคราะห์ ตรงกันข้ามหลักสูตรของ สพฐ.เน้นการคิดวิเคราะห์ด้วยซ้ำ อีกทั้งความพร้อมของการสอนเชิงคิดวิเคราะห์ แต่ล่ะ รร.ก็มีความแตกต่างกัน บางครอบครัวพ่อแม่สอนให้ลูกรู้จักคิดวิเคราะห์เด็กก็จะรู้จักคิดวิเคราะห์ นอกจากนั้นยังขึ้นอยู่ที่ตัวผู้บริหาร รร.ซึ่ง ผอ.บาง รร.ก็สั่งอย่างเดียว ทำให้ครูชินกับการรับคำสั่งจึงไม่สามารถไปสอนให้เด็กคิดได้ ดังนั้นจึงคิดว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่หลักสูตร ต้องแก้ที่พื้นฐานครอบครัว ผู้บริหาร และ ครู เป็นหลัก
นายสมเกียรติ ชอบผล รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (รอง กพฐ.) กล่าวว่า ปัจจุบันการเรียนการสอนที่ฝึกให้เด็กคิดเป็นนั้นมี แต่ยังไม่มีความเข้มข้นจึงไม่เห็นภาพของความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน ส่วนเรื่องข้อสอบโอเน็ตในปัจจุบันสอดคล้องกับการเรียนการสอนหรือไม่นั้นตนมองว่าข้อสอบปัจจุบันยังไม่สามารถวัดศักยภาพของผู้เรียนได้ ซึ่ง สพฐ.ได้วิเคราะห์ข้อสอบโอเน็ตพบข้อจำกัดอยู่หลายเรื่อง เช่น ความบกพร่องของข้อสอบ ซึ่งมีสัดส่วนความจำและการคิดวิเคราะห์ในแต่ละรายวิชาที่ไม่ชัดเจน ตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญว่าเราจะให้ความสำคัญกับความจำหรือการคิดวิเคราะห์
คุณหญิงสุชาดา กีระนันท์ อดีตอธิการบดีจุฬาฯ กล่าวว่า ตัวหลักสูตรปัจจุบันเขียนได้ดีแต่ตนมีความกังวลเกี่ยวกับสาระการเรียนรู้ที่มากเกินไป แต่หากถามว่ามีการเรียนการสอนปัจจุบันทำให้เด็กคิดวิเคราะห์ได้หรือไม่นั้นคงไม่สามารถตอบได้ เพราะปัจจุบันมี รร.หลายรูปแบบ และยังคงมุ่งเรียนในห้องมาก และก็เรียนกวดวิชามากเช่นกัน เพราะพ่อแม่ตั้งเป้าหมายไว้ว่าทำอย่างไรให้รู้เข้ามหาวิทยาลัย นายจุรินทร์ กล่าวสรุปการอภิปรายว่าเรื่องที่ต้องทำ 2 ส่วน คือ เนื้อหาที่เด็กต้องท่องจำก็ต้องจำ ขณะที่ภารกิจข้างหน้าก็ต้องเพิ่มให้เด็กคิดวิเคราะห์ด้วย ดังนั้นจึงต้องอบรมพัฒนาครูเพื่อสอนให้เด็กคิดวิเคราะห์เป็น ซึ่งขณะนี้ สพฐ.ได้ประสานกับที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ในการอบรมพัฒนาครูทั้ง 500,000 คน ให้เกิดผลทางปฏิบัติจริงๆ
"ส่วนเรื่องเนื้อหาหลักสูตร ก็ต้องกลับไปดูว่าอะไรที่เกินก็ต้องปรับ ขอฝากให้ผู้เกี่ยวข้องกลับไปคิดหาแนวทางปฏิบัติที่สามารถทำได้จริง ยังมีเรื่องข้อสอบโอเน็ตผมอยากให้ สทศ.กลับไปทบทวนว่ามีความจำเป็นต้องแบ่งสัดส่วนระหว่างการคิดวิเคราะห์และการท่องจำหรือไม่ นอกจากนั้น ยังอยากให้ไปดูเรื่องผู้ออกข้อสอบที่มีการวิจารณ์ด้วยว่า ต่อไปควรมีระบบการคัดเลือกผู้ออกข้อสอบหรือไม่ ซึ่งผมคิดจากตรรกะ ว่าข้อสอบที่ออกโดยอาจารย์สาธิตเด็กสาธิตก็สามารถทำได้ดี" นายจุรินทร์กล่าว