ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ศรีสะเกษลุกฮือชุมนุมใหญ่ทวงคืน?เขาวิหาร? 14 ก.ย. ? ลั่นไม่ยอมเสียแผ่นดินไทยแม้นิ้วเดียว


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,517 ครั้ง
Advertisement

ศรีสะเกษลุกฮือชุมนุมใหญ่ทวงคืน?เขาวิหาร? 14 ก.ย. ? ลั่นไม่ยอมเสียแผ่นดินไทยแม้นิ้วเดียว

Advertisement

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
กลุ่มแกนนำ ออกแจกจ่ายเอกสารเชิญชวนปปช.ศรีสะเกษลุกฮือ รวมตัวหน้าศาลากลางจังหวัดฯ รณรงค์ “ ทวงคืนเขาพระวิหาร” ครั้งใหญ่ ใน14 ก.ย.  ( 12 ก.ย.)






ศรีสะเกษ - ชาวศรีสะเกษลุกฮือ ประกาศรวมตัวหน้าศาลากลางจังหวัดฯ รณรงค์ “ ทวงคืนเขาพระวิหาร” ครั้งใหญ่ ใน14 ก.ย. นี้ แกนนำประกาศลั่นจะไม่ยอมเสียแผ่นดินไทยแม้แต่ตารางนิ้วเดียว พร้อมระดมพลรวมทวงคืนแผ่นดินไทยที่ เขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา ร่วมกับมวลชนพันธมิตรฯ และ ปชช.ชาวไทยผู้รักชาติทั่วประเทศ 19 ก.ย.นี้
       
       12 ก.ย. 52 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น. ที่บริเวณหน้าสถานีรถไฟศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้มีบรรดาแกนนำสมาชิกเครือข่ายประชาชนปกป้องแผ่นดินไทยศรีสะเกษ , กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ศรีสะเกษ และ คณะกรรมการประสานงานเพื่อพัฒนาจังหวัดศรีสะเกษ นำโดย นายอรุณศักดิ์ โอชารส ประธานที่ปรึกษาเครือข่ายประชาชนปกป้องแผ่นดินไทยศรีสะเกษ และ นายโกวิท อินทรวงษ์โชติ ประธานเครือข่ายประชาชนปกป้องแผ่นดินไทยศรีสะเกษ และคณะแกนนำกว่า 10 คน ได้มารวมตัวกัน แจกจ่ายจดหมายเปิดผนึกเชิญประชาชนชาว จ.ศรีสะเกษ ที่ผ่านไปมา ได้เข้าร่วมชุมนุมรณรงค์ทวงคืนแผ่นดินไทย เขาพระวิหาร ที่หน้าศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ วันที่ 14 ก.ย.นี้
       
       โดยมีรถยนต์ติดตั้งเครื่องกระจายเสียงและติดป้ายทั้ง 2 ข้าง ระบุข้อความว่า “ ขอเชิญทุกภาคส่วนแสดงพลังร่วมกับพี่น้องชาวไทย ทวงคืนผืนแผ่นดินเขาพระวิหาร ณ สนามหน้าศาลากลาง จ.ศรีสะเกษ วันที่ 14 ก.ย. 52 เวลา 09.00 น.” ซึ่ง ได้รับความสนใจจากประชาชนชาวศรีสะเกษเป็นอย่างมาก
       
       นายอรุณศักดิ์ โอชารส ประธานที่ปรึกษาเครือข่ายประชาชนปกป้องแผ่นดินไทยศรีสะเกษ กล่าวว่า ประเทศไทยได้เสียปราสาทพระวิหารไปแล้วตามคำพิพากษาของศาลโลก และไม่มีทางที่จะเอากลับคืนมาเป็นของประเทศไทยได้ แต่ในขณะนี้พื้นที่รอบปราสาทพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตร (ตร.กม.) หรือ ร่วม 3,000 ไร่ ซึ่งเป็นผืนแผ่นดินของไทยถูกรัฐบาลเขมรยึดครองเข้ามาสร้างวัด สร้างถนน และบ้านเรือนจำนวนมาก เหมือนกับว่าเป็นผืนดินของประเทศกัมพูชาทั้ง ๆ ที่เป็นดินแดนของไทย
       
       จากการที่ตนได้มีการไปสำรวจเขตแดนบนเขาพระวิหารที่ชัดเจนแล้ว จึงเห็นว่าประชาชนชาวศรีสะเกษและชาวไทยทั่วประเทศจะยอมให้เสียดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียวให้กับกัมพูชาอีกต่อไปไม่ได้ แต่หากเราไม่ทำอะไรออกมาเลยก็จะถูกชาวกัมพูชารุกรานเอาแผ่นดินไปอย่างต่อเนื่อง
       
       ทางด้าน นายโกวิท อินทรวงษ์โชติ ประธานเครือข่ายประชาชนปกป้องแผ่นดินไทยศรีสะเกษ กล่าวว่า พวกเราในนามเครือข่ายประชาชนปกป้องแผ่นดินไทยศรีสะเกษ อยากขอเชิญชวนประชาชนชาวศรีสะเกษทุกหมู่เหล่า ทุกภาคส่วน ได้เข้ามามีส่วนร่วมแสดงพลัง โดยการร่วมเดินรณรงค์ผลักดันชาวกัมพูชาให้ออกไปจากนอกพื้นแผ่นดินไทย
       
       “โดย วันที่ 14 ก.ย. นี้ เนัดรวมตัวกันที่บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษใน เวลา 09.00 น. เพื่อร่วมกันรณรงค์ครั้งใหญ่ใน นอกจากนั้นชาวศรีสะเกษจะเข้าร่วมรณรงค์ทวงคืนผืนแผ่นดินไทยที่เขาพระวิหาร ชายแดนไทย-กัมพูชา อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ในวันที่ 19 ก.ย. นี้ พร้อมกับเครือข่ายพันธมิตรฯ และ ประชาชนชาวไทยผู้รักชาติทั่วประเทศด้วย ” นายโกวิท กล่าว

http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000106210

 

 ข้อมูลเกี่ยวกับเขาพระวิหาร  เพิ่มเติม

ภาพจากธนบัตร(รูปบน)

 

 

ศรีสะเกษ (ศก.)


"ศรีสะเกษแดนปราสาทขอม หอมกระเทียมดี

มีสวนสมเด็จ เขตดงลำดวน

หลากล้วนวัฒนธรรม เลิศล้ำสามัคคี"

 

 

@ ปราสาทเขาพระวิหาร (เขมร: PrasatPreahVihear, ปฺราสาทพฺระวิหาร อังกฤษ: Prasat Preah Vihear) เป็นปราสาทหิน อยู่บริวณเทือกเขาพนมดงรัก ในจังหวัดพระวิหาร ของกัมพูชา ติดชายแดนไทย ที่อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ อยู่ใกล้อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร นับเป็นปราสาทขอมที่สำคัญแห่งหนึ่ง ทั้งในแง่ประวัติศาสตร์การก่อสร้างเทวสถานของฮินดู ประวัติศาสตร์การเรียกร้องเขาพระวิหาร และยังเป็นแห่งท่องเที่ยวที่สำคัญทั้งของไทยและกัมพูชาด้วย

เทวาลัยหรือปราสาทหินแห่งแรกในบริเวณนี้ สร้างขึ้นเมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 9 ทั้งหมดสร้างขึ้นเพื่อถวายแด่พระศิวะ อย่างไรก็ตาม ซากปรักหักพังของเทวาลัยที่เหลืออยู่ มีอายุตั้งแต่สมัยเกาะแกร์ ในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 10 ครั้นเมื่อนครหลวงของอาณาจักรขอมอยู่ใกล้ เมื่ออยู่ที่นครวัด นอกจากนี้ยังมีองค์ประกอบบางประการในรูปแบบศิลปะของปราสาทบันทายศรี แต่โครงสร้างส่วนใหญ่ของปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 และ สุริยวรมันที่ 2 ในครึ่งแรกของศตวรรษที่ 11 และศตวรรษที่ 12 ตามลำดับ

 @ เดิมปราสาทเขาพระวิหารอยู่ในเขตการปกครองของประเทศไทย ขึ้น
อยู่กับบ้านภูมิซรอล ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ

@ (ค.ศ.1899,ร.ศ.-118 เมื่อ พ.ศ. 2442) พระเจ้าน้องยาเธอกรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์ได้ทรงค้นพบ พระองค์ได้จารึก ร.ศ. และพระนามไว้ที่บริเวณชะง่อนผา
เป้ยตาดีว่า 118 สรรพสิทธิ

 

@ อันเนื่องมาจากสนธิสัญญาที่ประเทศไทยทำกับฝรั่งเศสเมื่อปี 2447 (ค.ศ.1904) ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5 ฝรั่งเศสได้เขียนแผนที่ขีดเส้นพรมแดนขึ้น และจากเส้นแบ่งพรมแดนนั้น ปราสาทเขาพระวิหารจะอยู่ในอาณาเขตของไทย แต่เมื่อมีการทำสนธิสัญญาเพิ่มเติมในปี 2450 ก็มีการกำหนดเขตแดนขึ้นใหม่อีก คราวนี้ทำให้ปราสาทเขาพระวิหารต้องตกไปอยู่ในอาณาเขตของกัมพูชา แต่ไทยก็ไม่ได้ทักท้วงแต่ประการใด เพราะจำเป็นต้องยอมทำตามมหาอำนาจฝรั่งเศสในขณะนั้น จึงเท่ากับเป็นการยอมรับไปโดยปริยาย

 

@ ต่อมา เกิดสงครามเรียกร้องดินแดนระหว่างไทยกับฝรั่งเศสในปี 2483 สมัยรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ทำให้ไทยได้ดินแดน 4 จังหวัด คือ ไชยบุรี จำปาศักดิ์ เสียมราฐ และพระตะบอง มาจากกัมพูชา

ปราสาทเขาพระวิหารก็อยู่ในเขตดินแดนที่ไทยได้มาในยุคปลุกกระแสชาตินิยมครั้งนั้นด้วย

 

@ แต่ภายหลังเมื่อญี่ปุ่นแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 ไทยจำเป็นต้องปรับสภาพตัวเองไม่ให้เป็นผู้แพ้สงครามตามญี่ปุ่น จึงต้องยอมยกดินแดนที่ได้มาทั้ง 4 จังหวัดนั้นให้กับฝรั่งเศสไป

@จนเมื่อฝรั่งเศสพ่ายแพ้ในสงครามอินโดจีนเมื่อปี 2497 ไทยจึงได้ส่งทหารเข้าไปครอบครองพื้นที่ปราสาทเขาพระวิหารอีกครั้งหนึ่ง แต่ไม่มีกฎหมายระหว่างประเทศรองรับ

@ ปี 2502 เจ้านโรดม สีหนุ กษัตริย์กัมพูชา ยื่นฟ้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2502 ว่าประเทศไทยรุกล้ำอธิปไตยกัมพูชา

 

@ ซึ่งวันนั้นทำให้ คนไทยเริ่มรู้จักเขาพระวิหารเป็นครั้งแรก และยังช่วยกันบริจาคเงินคนละ 1 บาท เป็นค่าใช้จ่ายให้ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช นำคณะทนายความไปต่อสู้ในศาลโลก

@  กระทั่งวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2505 ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice)

ศาลโลกกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ได้ไตร่สวน 73 ครั้ง ในระยะ 3 ปี 

ก็ตัดสินให้ปราสาทเขาพระวิหารเป็นของกัมพูชา และท้ายที่สุดก็ตกเป็นของกัมพูชาด้วยคะแนน 9 ต่อ 3 เสียง โดยใช้หลักการจากสนธิสัญญาปีค.ศ.1907ตรงกับสมัย ร.5 ที่ฝั่งเศสได้ขีดพรมแดนให้เขาพระวิหารอยู่อินโดจีน การกำหนดพรหมแดนดังกล่าว รัฐบาลสยามในสมัยนั้น ได้ยอมรับไปโดยปริยายโดยมิได้มีการท้วงติงดังนั้น การนิ่งเฉยก็เท่ากับเป็นการยอมรับ หรือ " กฏหมายปิดปาก "นั่นเอง

@ หลักฐานอย่างหนึ่งที่เขมรนำมาเป็นหลักฐานสำคัญ....

...ดังเช่น..เมื่อครั้งสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพในสมัยที่ดำรงตำแหน่งอภิรัฐมนตรีในสมัย ร. 7 เมื่อปี พ.ศ.2472 ที่เสด็จตรวจโบราณวัตถุสถานมณฑลนครราชสีมา

(ลาวกลาง)ได้เสด็จไปยังเขาพระวิหารด้วยและก็ได้ทรงแจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ข้าราชการอาณานิคมของฝรั่งเศส ซึ่งก็ได้มาถวายการต้อนรับอย่างเป็นทางการ มีการประดับธงทิวฝรั่งเศสเหนือปราสาทนั้น และมีการถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐานพร้อมมีสมุดให้ลงนามว่าพระองค์ได้เสด็จขึ้นเขาฯ จริง  หลักฐานทั้ง 2 อย่างนี้ก็ได้กลายเป็นหลักฐานอย่างดีที่เขมรจะนำมาใช้ในการต่อสู้กับไทยในปี 2505 ว่า.....

...สยามยอมรับว่าเขาพระวิหารขึ้นอยู่กับอธิปไตยของอีกฟากหนึ่งของพรมแดน...

@ ผลการตัดสินของศาลโลก มีข้อกำหนด 3 ประการ คือ


   1. ให้คืนเนื้อที่ประมาณ 150 ไร่
   2. ให้คืนวัตถุโบราณจำนวน 50 ชิ้น
   3. ให้ถอนทหารและตำรวจออกจากพื้นที่

@ แต่หลังจากนั้นไม่นาน กัมพูชาเกิดสงครามกลางเมืองขึ้นภายในประเทศ ปราสาทหินแห่งนี้เปิดให้สาธารณชนเข้าชมเป็นช่วงสั้นๆ ในปี พ.ศ. 2535 แต่ปีต่อมาก็ถูกเขมรแดงเข้าครอบครอง จากนั้นก็เปิดอีกครั้งจากฝั่งประเทศไทย เมื่อปลายปี พ.ศ. 2541 และเมื่อ พ.ศ. 2546 กัมพูชาก็ได้ตัดถนนเข้าไปจนสำเร็จสมบูรณ์หลังจากรอคอยเป็นเวลาช้านาน แต่ก็มีการงดอนุญาตให้เข้าเป็นระยะโดยมิได้กำหนดล่วงหน้า

@ หนังสือพิมพ์ของเยอรมันยุคนั้นบางฉบับเขียนไว้ว่า..รัฐบาลฝรั่งเศสหาผลงานให้รัฐบาลเพื่อหาเสียง จึงหาเรื่องโยงใยฟ้องเขาพระวิหารของประเทศไทย...เพื่อเป็นผลงานของรัฐบาล...เขาว่าอย่างนั้น...

เสียค่าเข้าอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร คนไทย 20บาทค่ารถยนต์ส่วนบุคคล30บาทฝรั่งน่าจะ 400 บาท

ผามออีแดง ลงไปดูภาพสลักนูนต่ำ

ภาพสลักนูนต่ำ1500ปี คาดว่าช่างฝึกฝีมือก่อนไปสลักจริงที่เขาพระวิหาร

เดินเท้าไปอีก 1.5กม.

ตรงนี้แหละที่ฝ่ายไทยว่าเป็นเขตแบ่งชายดน

(ห่างจากประตูเหล็กประมาณ 100 - 200 เมตร) 

@ ปราสาทเขาพระวิหารมีความยาวประมาณ 800 เมตร ตามแนวเหนือใต้

และส่วนใหญ่เป็นทางเข้ายาว และบันไดสูงถึงยอดเขา จนถึงส่วนปราสาทประธาน ซึ่งอยู่ที่ยอดเขาทางใต้สุดของปราสาท (สูง 120 เมตรจากปลายตอนเหนือสุดของปราสาท และ 525 จากพื้นราบของกัมพูชา) แต่โครงสร้างปราสาทแห่งนี้ก็ยังแตกต่างอย่างมากจาก สถาปัตยกรรมปราสาทหินของหินโดยทั่วไปที่พบในพระนคร เพื่อจำลองเขาพระสุเมรุ อันเป็นที่ประทับของเทพเจ้า ตามคติความเชื่อของฮินดู

@ ทางเข้าสู่ปราสาทประธานนั้น มีโคปะรุคั่นอยู่ 5 ชั้น

 (ปกติจะนับจากชั้นในออกมา ดังนั้นโคปุระชั้นที่ 5

จึงเป็นส่วนที่ผู้เข้าชมจะพบเป็นส่วนแรก)

โคปุระแต่ละชั้นก่อนถึงลานด้านหน้า จะผ่านบันไดหลายขั้น โคปุระแต่ละชั้นจึงเปลี่ยนระดับความสูงทีละช่วง นอกจากนี้โคปะรุยังบังมิให้ผู้ชมเห็นส่วนถัดไปของปราสาท จนกว่าจะผ่านทะลุแต่ละช่วงไปแล้ว ทำให้ไม่สามารถแลเห็นโครงสร้างปราสาททั้งหมดจากมุมใดมุมหนึ่งได้

มุมมองจากข้างบนมองลงข้างล่าง

 

@ โคปุระชั้นที่ 5 เดินเท้าขึ้นทางบันได 1 เป็นบันไดหินมีลักษณะค่อน
ข้างชัน เนื่องจากมีความเชื่อกันว่าการที่จะเข้าเฝ้าเทพนั้น จะไปด้วยอาการ
เคารพนพนอบในลักษณะหมอบคลานเข้าไป 
 
เป็นศิลปะแบบเกาะแกร์ ยังมีร่องรอยสีแดงที่เคยประดับตกแต่งตัวปราสาทเอาไว้ แต่ส่วนหลังคากระเบื้องนั้นหายไปหมดแล้ว

บริเวณหน้าผาที่มองเห็นเขมรเมืองต่ำอยู่ด้านล่าง

มุมมองลงไปจากหน้าผา (เป้ยตาดี )

     
 @ เป้ยตาดี เป้ยเป็นภาษาเขมร ซึ่งแปลว่า ชะง่อนผา หรือโพงผา ตรงยอด
เป้ยตาดีสูงกว่าระดับน้ำทะเล 657 เมตร ถ้าวัดจากพื้นที่เชิงเขาพื้นราบฝั่งประ-
เทศกัมพูชาสูงประมาณ 447 เมตร ตรงชะง่อนผาเป้ยตาดี จะมีรอยสักพระ
หัตย์ของ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงสรรพสิทธิประสงค์

ว่า 118-สรรพสิทธิ  เมื่อปี 2442

 แต่ก่อนมีธงไตรรงค์ของไทยอยุ่ที่ บริเวณผาเป้ยตาดี

แผนผังเขาพระวิหาร


ภาพสลักพระศิวะและพระอุมาทรงโคนนทิ(อุมามเหศวร)

 


ปราสาทเขาพระวิหาร

http://www.oknation.net/blog/kontummadha/2007/08/06/entry-1

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=yamara-tee&month=09-2007&date=23&group=1&gblog=23

 

เพลง..เขาพระวิหาร...-  อินโดจีน

เพลงนี้ แต่งโดยน้าทวีศักดิ์ สุทาวัน (น้าวี อินโดจีน)

ชาว อ. ราษีไศล จ. ศรีสะเกษ

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 923 วันที่ 13 ก.ย. 2552

ร่มรถ ร่มติดรถยนต์ ร่มกันแดดรถยนต์ ม่านบังแดด ผ้าคลุมหลังคารถพับเก็บได้ กันแดดกันสาด กันขี้นก Car Sunclose

฿479 - ฿1,439

https://s.shopee.co.th/8Kb790kwhT?share_channel_code=6


ศรีสะเกษลุกฮือชุมนุมใหญ่ทวงคืน?เขาวิหาร? 14 ก.ย. ? ลั่นไม่ยอมเสียแผ่นดินไทยแม้นิ้วเดียวศรีสะเกษลุกฮือชุมนุมใหญ่ทวงคืน?เขาวิหาร?14ก.ย.?ลั่นไม่ยอมเสียแผ่นดินไทยแม้นิ้วเดียว

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

กำเนิดปากกา

กำเนิดปากกา


เปิดอ่าน 7,561 ครั้ง
----->10 ไม้ประดับบนโต๊ะทำงาน

----->10 ไม้ประดับบนโต๊ะทำงาน


เปิดอ่าน 7,510 ครั้ง
เรื่องเด็กๆ

เรื่องเด็กๆ


เปิดอ่าน 7,499 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

ภาพสวย สายฝน

ภาพสวย สายฝน

เปิดอ่าน 7,508 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ทายนิสัยจากวิชาที่ชอบ
ทายนิสัยจากวิชาที่ชอบ
เปิดอ่าน 7,507 ☕ คลิกอ่านเลย

>>>10 วิธี ประหยัดกระดาษ อย่างสร้างสรรค์!!!
>>>10 วิธี ประหยัดกระดาษ อย่างสร้างสรรค์!!!
เปิดอ่าน 8,148 ☕ คลิกอ่านเลย

คุณธรรม  8  ประการของครูที่ควรรู้
คุณธรรม 8 ประการของครูที่ควรรู้
เปิดอ่าน 7,513 ☕ คลิกอ่านเลย

เกร็ดความรู้....8 วิธีสวย....ด้วยน้ำผึ้ง
เกร็ดความรู้....8 วิธีสวย....ด้วยน้ำผึ้ง
เปิดอ่าน 7,508 ☕ คลิกอ่านเลย

การบริหารเงินในครอบครัว..คุณ
การบริหารเงินในครอบครัว..คุณ
เปิดอ่าน 7,506 ☕ คลิกอ่านเลย

สำหรับครู...ก่อนวันไหว้ครู
สำหรับครู...ก่อนวันไหว้ครู
เปิดอ่าน 7,507 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

พืชที่ใช้เป็นอาหาร
พืชที่ใช้เป็นอาหาร
เปิดอ่าน 60,777 ครั้ง

ประกันสังคมสิทธิที่คนวัยทำงานควรรู้ ประโยชน์ที่ได้คุณภาพชีวิตที่ไม่ควรมองข้าม
ประกันสังคมสิทธิที่คนวัยทำงานควรรู้ ประโยชน์ที่ได้คุณภาพชีวิตที่ไม่ควรมองข้าม
เปิดอ่าน 20,357 ครั้ง

วิธีการดูแลรักษาหน้าจอ Touch Screen
วิธีการดูแลรักษาหน้าจอ Touch Screen
เปิดอ่าน 21,140 ครั้ง

ทำไมเวลาเกา จึงหายคัน
ทำไมเวลาเกา จึงหายคัน
เปิดอ่าน 16,444 ครั้ง

รูปแบบการสอนวิธีการทางสถิติสำหรับการวิจัยที่มีประสิทธิภาพ
รูปแบบการสอนวิธีการทางสถิติสำหรับการวิจัยที่มีประสิทธิภาพ
เปิดอ่าน 19,340 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.

Thailand Web Stat

Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ