เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกว่า กระบวนการทางดนตรีและศิลปะช่วยส่งเสริมให้วงจรสมองของเด็กมีประสิทธิ ภาพมากขึ้น ส่งผลให้เด็กเรียนรู้ได้รวดเร็ว ในด้านต่างๆ ดังต่อไปนี้
ดนตรี
สมอง - ช่วยพัฒนาเซลล์สมองได้อย่างสมดุล มีการเชื่อมต่อของเซลล์ประสาท ทำให้สมองทั้ง ซีกขวาและซ้ายทำงานพร้อมกัน สมองซีกขวารับรู้ความไพเราะ รู้สึก ผ่อนคลาย ส่วนสมองซีกซ้ายรับรู้ตัวโน้ตและจังหวะ
ภาษา - ช่วยพัฒนาความสามารถทางด้านภาษาและการพูดให้ดีขึ้น
ร่างกาย - การประกอบท่าทางพร้อมเสียงเพลงของเด็ก จะช่วยให้เกิดการเคลื่อนไหว บริหารกล้ามเนื้อและการทรงตัวที่ดี
อารมณ์ - เสียงเพลงที่มีจังหวะ ท่วงทำนองที่ฟังสบาย (ดนตรีคลาสสิค) ทำให้สภาวะจิตใจสงบ กล้ามเนื้อสมองผ่อนคลาย พร้อมรับข้อมูลความรู้ต่างๆ
ศิลปะ
สมอง - กระบวนการทำงานศิลปะ มีผลต่อการพัฒนาสมองและจินตนาการ ฝึกให้สมองคิดตลอดเวลา โดยผ่านกระบวนการทางศิลปะ ฉะนั้น เมื่อสมองทำงานอยู่เรื่อยๆ ฝึกบ่อยๆ สมองจึงมีประสิทธิ ภาพลูกน้อยมีความสามารถ
อารมณ์ - การวาดรูป ระบายสี การปั้น และกระบวนการอื่นๆ ทางศิลปะ ช่วยให้เด็กรู้สึกผ่อนคลาย เรียนรู้ที่จะแสดงออกซึ่งอารมณ์ ความรู้สึก ความคิด ความต้องการของตน และการเข้าใจผู้อื่น
ทักษะสังคม - ช่วยให้เด็กเรียนรู้ทักษะผ่านการทำกิจกรรมเป็น กลุ่ม รู้จักรอคอย และการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
ร่างกาย - ฝึกทักษะการเคลื่อนไหวของร่างกาย และกระตุ้นพัฒนาการการทำงานประสานกันของอวัยวะส่วนต่างๆ เช่น การปั้นแป้งโดว์ การจับดินสอ การระบายสี หรือหัดเขียน
ย้ำว่า ความสามารถ ความฉลาด ความเก่ง หรือทักษะด้านต่างๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ปรารถนานั้น จุดเริ่มต้นมาจากกระบวนการเรียนรู้ที่ดีก่อน เมื่อสมองของลูกน้อยได้รับการกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง สมองก็ยิ่งเชื่อมโยงเซลล์ประสาทต่อกันมากขึ้น
โดยเฉพาะการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ ด้วยอารมณ์และความรู้สึกที่มีความสุข จะยิ่งก่อให้เกิดความทรงจำและกระบวนการเรียนรู้ที่ดี
ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวสดรายวัน