ต้องยอมรับว่าศาสตร์แห่งการบำบัดรักษาในแพทย์แผนจีนเป็นเรื่องที่น่าทึ่ง เพราะยิ่งค้นคว้า ศึกษาเจาะลึกลงไป ก็ยิ่งพบกับความมหัศจรรย์ เช่นเดียวกับการบำบัดนี้ ′กวาซา′ (Gua Sha)
กวาซา เป็นศาสตร์การรักษาของจีนโบราณที่ได้รับการสืบทอดกันมาอย่างยาวนานมากกว่า 2,000 ปีมาแล้ว และยังคงได้รับความนิยมนำมารักษามาถึงปัจจุบัน คำว่า ′กวา′ (อ่านว่า Gwa) แปลว่า ′ขูด′ ส่วน ′ซา′ (อ่านว่า Shaw) นั้นหมายถึง ′รอยแดง′นั่นแปลว่า กวาซา คือ การบำบัดด้วยการขูดผิวหนังตามร่างกาย จนเป็นรอยแดง เสมือนเป็นการ ′ล้างพิษ′ ทางผิวหนังนั่นเอง
รอยแดงที่ปรากฏนั้น จะเป็นส่วนที่สะท้อนถึงระบบอวัยวะภายในและกลไกการทำงานของร่างกาย ถ้าผู้มีสุขภาพดี เลือดลมดี รอยแดง หรือผื่นแดงที่ปรากฏจะเป็นรอยแดงจางๆ และจะหายไปในเวลาอันรวดเร็ว แต่ถ้าเป็นคนที่สุขภาพไม่ดี ร่างกายไม่สมดุล หรือมีสิ่งตกค้างในร่างกายมาก รอยแดงจะขึ้นอย่างชัดเจน และจะใช้เวลาราว 2-4 วันกว่ารอยจะหาย
กวาซานี้จะมีแนวคิดและวิธีการคล้ายกับการกดจุดเพื่อช่วย ปรับสมดุลให้ร่างกาย เพียงแต่เปลี่ยนจากการกด มาเป็นการขูดด้วย ′เขาควาย′ หรือ ′หยก′ แทน
การขูดนี้จะเริ่มด้วยการลงน้ำมันสมุนไพรเพื่อลดการเสียดสี แล้วใช้เขาควายหรือหยกขูดผิว โดยทำมุมราว 45 องศา ขูดในแนวลงและในทิศทางเดียวกัน ในจุดที่สะท้อนถึงระบบต่างๆ ทั้งหน้าอก หลัง แขนพับข้อศอกด้านใน เข่าด้านใน หรือบ่า เป็นต้น เมื่อผิวถูกขูดก็จะเกิดสุญญากาศขึ้น ของเสียที่ตกค้างก็จะถูก ผลักออกมาในรอยผื่นแดง ผิวจะร้อนขึ้นเล็กน้อย รูขุมขนจะขยาย ในเวลาเดียวกัน ออกซิเจน สารอาหาร หรือสมุนไพรที่ทาไป ช่วงแรก ก็จะซึมเข้าสู่ผิวหนัง
การขูดนี้ก็จะไปช่วยจัดเรียงเส้นประสาทใหม่ ทำให้กล้ามเนื้อที่มีพังผืด หรือมีการบีบรัดอยู่คลายตัวออก ช่วยทำให้ระบบการหมุนเวียนของเลือดเป็นระบบมากขึ้น ทั้งยังช่วยปรับระบบต่อมน้ำเหลืองให้ขับของเสียได้ดียิ่งขึ้น เมื่อพิษตกค้างลดน้อยลง ร่างกายก็จะเข้าสู่ภาวะสมดุล สุขภาพก็จะแข็งแรงมากขึ้น
วิธีการนี้นอกจากจะได้รับความนิยมในประเทศจีนแล้ว ประเทศทางยุโรปและอเมริกาก็ยังให้ความสนใจไม่น้อย ด้วยเชื่อว่าจะสามารถรักษาโรคต่างๆ ทั้งอาการปวดเมื่อย ปวดชาตามร่างกาย ปวดข้อ ภูมิแพ้ ไข้หวัด อัมพฤกษ์ อัมพาต รอบเดือนมาไม่ปกติ หมอนรองกระดูกทับเส้น ไมเกรน ฯลฯ
สำหรับในประเทศไทย กวาซาได้เข้ามาแพร่หลายมาหลายปี และมีการปรับประยุกต์เพื่อการบำบัดในรูปแบบต่างๆ แต่ก็ยังคงยึดแนว ′การขูด′ เหมือนเดิม โดยอาจจะเปลี่ยนวัสดุอุปกรณ์ไปในรูปต่างๆ อาทิ ช้อน ชาม งาช้าง หรือก้อนหิน มาใช้แทน นอกจากนี้ยังมีการนำกวาซามาใช้เพื่อความงามอีกด้วย
′ซีที สปา′ สปาที่นำศาสตร์ของไทยและจีนมาผสมผสานเพื่อการบำบัดและความงาม ได้ใช้กวาซามาใช้ปรับแก้ไขรูปร่างที่มีปัญหาส่วนเกินให้กลับมากระชับเข้าที่ได้ในทุกสัดส่วน ทั้งยังนำมาช่วย ในการลดริ้วรอยทำให้ผิวหน้ากระจ่างใสได้อีกด้วย ด้วยการใช้บันได 3 ขั้น เผาผลาญ ขับน้ำ-ล้างพิษ และกระชับสัดส่วน
กรรมวิธีนี้ไม่ว่าจะเป็นการลดหุ่น หรือกระชับผิวหน้า ก็จะใช้วิธีคล้ายคลึงกัน คือเริ่มจากการชำระร่างกายหรือผิวหน้าให้สะอาดหมดจด ก่อนที่จะอาบอบด้วยน้ำมันหอมระเหย ถ้าเป็นใบหน้าก็จะใช้โสมมาขัดผลัดเซลล์ผิวและพ่นไอเย็นแทน ไอร้อนเพื่อหยุดการสร้างเม็ดสีของผิว
จากนั้นจึงนวดและขูดแบบวิธีกวาซา ตามด้วยนวดกระชับสัดส่วน กระตุ้นการเผาผลาญ ไล่ไขมันที่สะสม ปิดท้ายด้วยการแร็ปเพื่อกำจัดเซลลูไลต์ เช่นเดียวกับผิวหน้าที่จะปิดท้ายด้วยการทรีตเมนต์ผิวหน้า ใช้เครื่องซูเปอร์โซนิกผลักครีมบำรุงให้เข้าสู่ผิวอย่างล้ำลึก ทั้งยังกระตุ้นคอลลาเจน ช่วยทำให้ผิวหน้าแข็งแรง มีเลือดฝาด และช่วยให้หลับสนิทได้อีกด้วย
นับเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของความงามที่พัฒนาต่อยอดมาจากศาสตร์สุขภาพนับพันปี ศาสตร์สุขภาพที่ใช้การปรับสมดุลช่วยให้งามได้อย่าง ′ฮองเฮา′
ข้อมูลจาก :
|