ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

รายงานการพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ (STAD) สาระที่ 1 ศาสนา ศีล


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 6,410 ครั้ง
รายงานการพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ (STAD) สาระที่ 1 ศาสนา ศีล

Advertisement

 

ชื่อเรื่อง          รายงานการพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกัน 
                        เรียนรู้ (STAD) สาระที่ 1 ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม รายวิชาสังคมศึกษา
                        ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
ผู้ศึกษา            นายพรมดี สาลี
สถานศึกษา    โรงเรียนบ้านขามพิทยาคม อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู
สังกัด              สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหนองบัวลำภู เขต 1
ปีที่รายงาน      พ.ศ. 2551
 
บทคัดย่อ
 
                    การศึกษาถือเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่ช่วยพัฒนาเยาวชนของชาติให้เป็นคนดี มีความรู้
แต่ในการจัดการศึกษาของประเทศไทยยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร โดยเฉพาะในวิชา สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ซึ่งเป็นวิชาหนึ่งที่นักเรียนมีปัญหาในการเรียน เพราะการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนยังใช้วิธีการสอนแบบบรรยาย ยังขาดการนำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาใช้ในการเรียนการสอน จากเหตุผลดังกล่าวทำให้ผู้ศึกษาต้องการพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบ
ร่วมมือกันเรียนรู้ (STAD) เข้ามาใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
               การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ ดังนี้  (1) เพื่อพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ (STAD) สาระที่ 1 ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่เรียนโดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ (STAD) สาระที่ 1 ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน  (3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจในการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3  ที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ (STAD) รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
                กลุ่มตัวอย่าง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนบ้านขามพิทยาคม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหนองบัวลำภู เขต 1 จำนวน 33 คน
จาก 1 ห้องเรียน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling)
                  เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า คือ (1) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอน
แบบร่วมมือกันเรียนรู้ (STAD) สาระที่ 1  ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 9 แผนการเรียนรู้ (2)  แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน  ที่เรียนโดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ (STAD) สาระที่ 1 ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม
รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 40 ข้อ ซึ่งมีค่าความยากตั้งแต่ 0.28 ถึง 0.76 มีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.26 ถึง 0.75 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.92 (3)แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ (STAD) สาระที่ 1 ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม รายวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) มี 5 ระดับ จำนวน 1 ชุด จำนวน 18 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.91 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบสมมติฐานใช้ ค่า t-test ( Dependent Samples ) ผลการศึกษาปรากฏ ดังนี้
                    1.  แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ (STAD)  ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพ 86.36/86.06 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
                    2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ที่เรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ (STAD) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
                    3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ (STAD) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก
              โดยสรุปผลการศึกษาครั้งนี้ พบว่า แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ (STAD) ที่ได้พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ อีกทั้งผู้เรียนยังมี ความพึงพอใจในการจัดการเรียนรู้ในระดับมาก ดังนั้นในการจัดการเรียนรู้ จึงสามารถนำ     แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้การสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้(STAD) ไปใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพได้
 
 

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 7608 วันที่ 4 ก.ย. 2552


รายงานการพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้ (STAD) สาระที่ 1 ศาสนา ศีลรายงานการพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้(STAD)สาระที่1ศาสนาศีล

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

แจ้งข่าวสมาชิกครู

แจ้งข่าวสมาชิกครู


เปิดอ่าน 6,397 ครั้ง
เลขเด็ด 30 ธันวาคม 2552

เลขเด็ด 30 ธันวาคม 2552


เปิดอ่าน 6,413 ครั้ง
รามเกียรติ์  ตอนที่  ๓

รามเกียรติ์ ตอนที่ ๓


เปิดอ่าน 6,863 ครั้ง
นิทานเวตาล เรื่องที่  ๒

นิทานเวตาล เรื่องที่ ๒


เปิดอ่าน 6,433 ครั้ง
สดชื่น สุขสันต์ 2010 นะคะ..

สดชื่น สุขสันต์ 2010 นะคะ..


เปิดอ่าน 6,683 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

Girls Generation  กลับมาแล้ว พร้อมมินิอัลบั้มใหม่

Girls Generation กลับมาแล้ว พร้อมมินิอัลบั้มใหม่

เปิดอ่าน 6,422 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
สตาร์ปาร์ตี้ 20 ปี ทีวีพูล!!!!!!!!!
สตาร์ปาร์ตี้ 20 ปี ทีวีพูล!!!!!!!!!
เปิดอ่าน 6,429 ☕ คลิกอ่านเลย

โลกนี้ไม่มี...เพียงแค่สีขาวกับสีดำ......(นิทาน...)
โลกนี้ไม่มี...เพียงแค่สีขาวกับสีดำ......(นิทาน...)
เปิดอ่าน 6,421 ☕ คลิกอ่านเลย

ข่าวด่วน!!!?คุณหญิงกษมา? เซ็นโยกย้าย แต่งตั้ง ผอ.สพท.49 ราย มีผล 1 ต.ค. 52 นี้
ข่าวด่วน!!!?คุณหญิงกษมา? เซ็นโยกย้าย แต่งตั้ง ผอ.สพท.49 ราย มีผล 1 ต.ค. 52 นี้
เปิดอ่าน 6,423 ☕ คลิกอ่านเลย

10 วิธีเลิกบุหรี่ได้สำเร็จ(เลิกจากใจ)
10 วิธีเลิกบุหรี่ได้สำเร็จ(เลิกจากใจ)
เปิดอ่าน 6,415 ☕ คลิกอ่านเลย

 13  ขั้นตอน คนนอนกรน มีตัวช่วยแล้ว.....ไม่แห้วสำหรับคนใกล้ตัวแน่นอน....
13 ขั้นตอน คนนอนกรน มีตัวช่วยแล้ว.....ไม่แห้วสำหรับคนใกล้ตัวแน่นอน....
เปิดอ่าน 6,399 ☕ คลิกอ่านเลย

งานประดิษฐ์..ก้อนหินทับกระดาษ
งานประดิษฐ์..ก้อนหินทับกระดาษ
เปิดอ่าน 6,488 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

กรมอนามัย ย้ำดื่มน้ำเปล่าดีที่สุด ดื่มให้เหมาะสม พอเพียง ดีต่อร่างกาย
กรมอนามัย ย้ำดื่มน้ำเปล่าดีที่สุด ดื่มให้เหมาะสม พอเพียง ดีต่อร่างกาย
เปิดอ่าน 5,653 ครั้ง

วิธีถ่ายภาพแบบมโน เสมือนตัวเองไปเที่ยวมา
วิธีถ่ายภาพแบบมโน เสมือนตัวเองไปเที่ยวมา
เปิดอ่าน 12,638 ครั้ง

ย้อนอดีตสอนภาษาไทย : แจกลูก-สะกดคำ
ย้อนอดีตสอนภาษาไทย : แจกลูก-สะกดคำ
เปิดอ่าน 35,266 ครั้ง

สำนักงาน ก.ค.ศ.เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกฏหมาย วินัย ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
สำนักงาน ก.ค.ศ.เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกฏหมาย วินัย ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
เปิดอ่าน 14,013 ครั้ง

4 สาเหตุที่เด็กๆ เบื่อโรงเรียน
4 สาเหตุที่เด็กๆ เบื่อโรงเรียน
เปิดอ่าน 10,701 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ