ชี้หมอไม่รับรอง วอนผู้บริโภคอย่าหลงเชื่อ
หมอไม่รับรอง-อย่าเชื่อ อ้างเพิ่มพลัง-รักษาโรค ขายราคาสูง-เกลื่อนเว็บ ตร.ดังเผยซื้อมาใช้เอง
อย.เตือน- เหรียญ ควอนตั้ม ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่ดารา- ไฮโซอยู่ขณะนี้ อ้างมีพลังงานสเคลาร์สามารถรักษาโรคต่างๆ ได้ และช่วยให้การทรง ตัวดีขึ้น ขณะที่ อย.ออกมาเตือนว่าเหรียญดังกล่าวไม่มีผลทางการแพทย์ เตรียมดำเนินคดี ตามข่าว
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 1 กย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านในจังหวัดเชียงใหม่ทั้งข้าราชการ,แม่ค้าเจ้าของร้านอาหารเริ่มฮิตหาซื้อใส่หินลาวาภูเขาไฟหรือหินสกาล่า นำมาคล้องคอหรือติดตัว โดยอ้างว่า หินสกาล่าหรือหินที่อ้างว่านำมาจากหินลาวาภูเขาไฟจากประเทศญี่ปุ่น นำมาทำเป็นรูปทรงกลมเรียกว่า "เหรียญควอนตั้ม" โดยซื้อมาในราคา 3-6 พันบาท แล้วแต่ ผู้นำมาจำหน่ายจะตั้งราคา บางรายก็ทำมาในรูปลักษณะเป็น พระพิฆเนศ วัตถุมงคลรูปแบบต่าง ๆ ออกจำหน่ายให้บูชาในราคา 2,000 บาทขึ้นไป และยังมีการพูดปากต่อปากถึงคุณสมบัติในการรักษาโรคต่าง ๆ แถมทำให้มีพลังงานเพิ่มขึ้นอย่างน่ามหัศจรรย์และให้ทำการทดสอบได้ เป็นเรื่องของทางวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่เรื่องของไสยศาสตร์ ซึ่งคนที่นำมาใส่ต่างพากันทดสอบทดลอง เรื่องของพลังงานที่เพิ่มขึ้น ด้วยกันเอาหินดังกล่าวไปแช่น้ำและให้คนที่มาทดสอบเอามือจุ่มน้ำและพากันยกคนที่มีน้ำหนักมาก ขึ้น ไม่ก็ทดสอบเรื่องการหันหลังไปดู โดยเมื่อใส่หินดังกล่าวติดตัวก็จะสามารถหันไปดูได้มุมไกลขึ้น รวมทั้งการมีพลังเพิ่มขึ้น
น.ส.เกสราพรรณ เพชรศรีธิ เจ้าของร้านอาหารเพชรดอยงาม ต.ป่าแดด อ.เมืองเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตนเป็นผู้หนึ่งที่ได้ซื้อหินสกาล่านี้มา โดยได้รวมเงินกับญาติพี่น้องซื้อมาจำนวน 5 อัน ตกราคาอันละ 3,750 บาท ตอนแรกพี่สาวของตนนำมาใส่ก่อนเพราะพี่สาวมีโรคประจำตัว ตอนนั้นไม่มีใครสนใจกระทั่งต่อมาแม่ได้นอนล้มป่วย ตนจึงได้ขอยืม หินดังกล่าวจากพี่สาวให้แม่ใส่ ปรากฏว่าแม่ของตนลุกเดินได้เฉยเลย พี่สาวของตนที่ให้ตนยืมให้แม่ ปรากฏว่าต่อมาเกิดอาการโรคเก่ากำเริบ รีบขอหินสกาล่า หรือเหรียญควอนตั้ม จากแม่คืน ตนจึงได้ตัดสินใจซื้อเหรียญหรือหินสกาล่า นี้มาให้กับแม่และตนก็ใส่ด้วย มีครั้งหนึ่ง ตนไปทำการดายหญ้าหน้าร้านและได้เรียกพนักงานในร้านไปช่วย ตอนนั้นแดดร้อนมาก ปรากฏว่าพนักงานในร้านทำงานได้สักพักไม่ไหวพากันเข้าร่มหมด ส่วนตนก็ทำการดายหญ้าต่อไปอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย และนึกในใจว่าพวกพนักงานทำงานแป๊ปเดี๋ยวก็อู้งานแล้ว มารู้ตอนหลังเพราะตนห้อยเหรียญควอนตั้มหรือหินสกาล่า ทำให้ตนมีพลังงานเยอะ จึงเกิดความเชื่อและได้ซื้อมาให้กับญาติสนิทมิตรสหายและพูดปากต่อปากดังกล่าว
ด้านนายนิพนธ์ วิชัยรัตน์ ผู้ช่วย ผอ.สวนสัตว์เชียงใหม่ได้เปิดเผยว่า ตนได้นำเหรียญควอนตั้ม หรือหินสกาล่า มาห้อยที่คอ ตอนแรกตนรู้สึกแน่นท้อง และรอผลการเจาะเลือดว่าตนเป็นอะไรแน่ รู้สึกอึดอัดแน่นท้อง ทางคนรู้จักกันได้ให้เหรียญควอนตั้ม หรือหินสกาล่าให้ตนห้อยไว้ ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะตนไม่เชื่ออยู่แล้ว ก็ได้ห้อยที่คออยู่ได้ประมาณ 2 วัน การอึดอัดท้องก็รู้สึกเบาบางลง จะเป็นเพราะพลังจากหินดังกล่าวทำปฏิกริยากับร่างกายตนหรือว่าเป็นเพราะร่างกายของตนทำการรักษาหรือว่ายาที่ตนรับประทานลงไป เลยสับสน และต่อมาได้ตนได้ไปดูการทดสอบหินสกาล่า โดยมีการยกคนขึ้น ทำให้ตนแปลกใจว่า หินดังกล่าวทำให้คนมีพลังเพิ่มหรือไม่ ซึ่งตนก็ทดสอบก็มีพลังเพิ่มจริง ๆ เรื่องนี้ตนเชื่อแล้วว่าหินช่วยเพิ่มพลัง แต่เรื่องหินช่วยรักษาโรคต่าง ๆ นั้นตนยังไม่เชื่อ ถ้าหินดังกล่าวช่วยรักษาโรคอย่างที่อ้างมาอย่างนี้ก็ไม่ต้องมีโรงพบาบาลมีหมอ มีพยาบาลแล้ว
อย่างไรก็ตามเมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งได้รับการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่ว่า ทางสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) เคยประกาศไว้เมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2551 ว่า เหรียญควอนตั้มไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มารับรอง และไม่มีหน่วยงานรัฐใดๆ รับรอง หากพบเห็นการซื้อขาย โปรดแจ้งสายด่วนอย. 1556 หรือ 0-2590-7000 หรือที่สาธารณสุขจังหวัดแต่ละจังหวัด
ภาพ/ข่าว จากหนังสือพิมพ์ข่าวสด
เตือนระวังถูกหลอก "เหรียญควอนตั้ม" เปิดเว็บขายเกลื่อน ระบุชื่อคนดังมีกันเพียบ อ้างสรรพคุณเลิศเป็นสนามพลังทางชีวภาพของร่างกายมนุษย์ ทำให้เซลล์ต่างๆ มีพลังมากขึ้น ไม่เจ็บป่วย ลดอาการอักเสบ รักษาโรคได้ ทำให้แก่ช้า ถ้านำมาห้อยคอหรือใส่กระเป๋าเสื้อ พลังงานสเคลาร์ที่มากับเหรียญเกิดจากการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนภายใน ระบุทำจากลาวาที่เกิดจากภูเขาไฟระเบิด ทำขายทั้งที่เป็นเหรียญ นาฬิกา และสร้อยข้อมือ ราคาสูงถึงกว่า 2 หมื่นบาท ขณะที่อย.ประกาศตั้งแต่ปี"51 ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รับรอง หากพบมีการซื้อขายให้แจ้งอย.สายด่วน 1556 ได้ทันที
เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้มีฟอร์เวิร์ด เมล์ เตือนให้ระมัดระวังความเชื่อเหรียญ ควอนตั้ม(Quantum Pendant) ซึ่งอ้างว่ามีสรรพคุณในการรักษาโรคต่างๆ ทำให้การทรงตัวดีขึ้น โดยอ้างว่าผลิตขึ้นจากลาวาตามธรรมชาติ ที่เกิดจากการระเบิดของภูเขาไฟ ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษในการกักเก็บพลังงานสเคลาร์ ที่อยู่ภายในโครงสร้างระดับโมเลกุลที่เกาะกัน ใช้เทคโนโลยีชั้นสูงจากญี่ปุ่น
สำหรับการใช้งานให้นำเหรียญควอนตั้มมาสวมไว้ที่คอ หรืออาจจะใส่กระเป๋าเสื้อไว้ พลังงานสเคลาร์ที่มากับเหรียญเกิดจากการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนภายใน และเคลื่อนไหวอย่างเป็นช่วงๆ ซึ่งไม่ได้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง เมื่อร่างกายได้รับคลื่นพลังงานสเคลาร์แล้ว จะมีผลต่อสนามพลังทางชีวภาพของร่างกายมนุษย์ ซึ่งในคำเตือนระบุว่า เกรงว่าประชา ชนที่ไม่เข้าใจหรือศึกษาให้ดีจะถูกหลอกลวงได้ เนื่อง จากเหรียญดังกล่าวมีราคาแพง
จากนั้นผู้สื่อข่าวตรวจสอบไปยังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) ได้รับการเปิดเผยว่า อย.เคยประกาศไว้เมื่อวันที่ 29 ส.ค.2551 ว่า เหรียญ ควอนตั้มไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์มารับรอง และไม่มีหน่วยงานรัฐใดๆ รับรอง หากพบเห็นการซื้อขาย โปรดแจ้งสายด่วนอย. 1556 หรือ 0-2590-7000
น.พ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า อยากเตือนว่าอย่าหลงเชื่อการโฆษณาของสินค้าดังกล่าว เพราะไม่มีผลการวิจัย หรือการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ใดๆ รองรับว่า การห้อยเหรียญสามารถช่วยรักษาโรคได้ อาจจะมีเพียงแค่คลื่นแม่เหล็กเพียงเล็กน้อย แต่ไม่มีประสิทธิ ภาพหรือนัยสำคัญทางวิทยาศาสตร์ ว่าสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ หรือรักษาโรคใดๆ ได้
"อยากเตือนประชาชนว่าการโฆษณาดังกล่าวไม่สามารถเชื่อถือได้ อย่าหลงเชื่อ เพราะจะทำให้เสียโอกาสในการรักษาพยาบาลที่ถูกต้อง จนอาจทำให้อาการทรุดลงหรือไม่สามารถรักษาได้ทันการณ์ ซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหาย" น.พ.พิพัฒน์กล่าว
น.พ.พิพัฒน์กล่าวต่อว่า ขณะนี้สั่งการให้กองควบคุมเครื่องมือแพทย์ วินิจฉัยส่วนประกอบของเหรียญดังกล่าว ว่าทำมาจากอะไร มีส่วนประกอบที่เป็นอันตรายหรือไม่ ซึ่งสินค้าใดๆ ก็ตามหากมีการโฆษณาว่าสามารถรักษาโรคได้ ก็จะจัดเป็นเครื่องมือแพทย์ ต้องขออนุญาตนำเข้าและขาย ซึ่งต้องพิสูจน์ผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ให้ได้ รวมถึงมีการตรวจสอบจากอย. หากไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษตามพ.ร.บ. เครื่องมือแพทย์ 2531 จำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า นอกจากนี้ยังมีเว็บไซต์บางแห่งระบุถึงสรรพคุณว่า พลังงานสเคลาร์เหมาะกับการรักษาผู้มีปัญหาด้านสุขภาพ รักษาโรค ทำให้ร่างกายแข็งแรง ชะลอความชรา ช่วยเพิ่มพลังงาน และสมรรถภาพในการเล่นกีฬาหรือออกกำลังกาย ช่วยเพิ่มออกซิเจนเข้าสู่เซลล์และกระแสเลือด ทำให้คลายอาการเจ็บปวดตามกล้ามเนื้อ หรือบรรเทาอาการปวดหลังได้ดี รวมทั้งลดอาการอักเสบของแผล ผดผื่น ลดการแข็งตัวและการเกิดลิ่มในเลือด ทำให้เกิดโรคเส้นเลือดตีบ ทำให้ระบบการไหลเวียนโลหิตทั่วร่างกายดีขึ้น ช่วยย่อยสลายไขมันโปรตีนส่วนเกินและสารตกค้าง อันเป็นสาเหตุของการเกิดโรคต่างๆ
ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดริ้วรอยแห่งวัย ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียและไวรัส ป้องกันอันตรายที่เกิดจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า และคลื่นวิทยุจากโทรศัพท์มือถือ ปกป้องดีเอ็นเอจากการถูกทำลาย ทำให้ร่างกายสามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้ ช่วยให้มีสมาธิมากขึ้น และช่วยสร้างสมดุลสมองทั้งสองซีก ช่วยลดอาการซึมเศร้า เพิ่มความกระฉับกระเฉง ทำให้น้ำมีโมเลกุลเล็กลง ร่างกายจึงสามารถดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ข้อมูลในเว็บไซต์ระบุว่า เมื่อร่างกายได้รับคลื่นพลังงานสเคลาร์แล้ว ผลึกน้ำในร่างกายจะเปลี่ยนเป็นรูปทรงสวยงาม จะมีผลต่อสนามพลังทางชีวภาพของร่างกายมนุษย์ ทำให้เซลล์ต่างๆ ของร่างกายมีพลังมากขึ้น และสุดท้ายก็คือระบบการทำงานของร่างกายในส่วนต่างๆ จะดีขึ้นตาม
นอกจากนี้ในเว็บไซต์ดังกล่าวยังโปรโมตด้วยการลงรูปภาพและคำสัมภาษณ์ของบรรดาคนดัง ดารานักแสดง นักกีฬาที่มีชื่อเสียง หรือแม้แต่ข้าราชการระดับสูงหลายคน อาทิ นายญาณพล ลาภอาภารัตน์ นายรังสิมันต์ เทียนหิรัญ นักกีฬาโบว์ลิ่งทีมชาติไทย นายวิโรจน์ นาคบัว กัปตันบางกอกแอร์เวย์ส, ไกร ครรชิต ดาราอาวุโส, อานนท์ เทพลิบ แชมป์ซูเปอร์ครอสชิงแชมป์ประเทศไทย 2008, สมบัติ เมทะนี ดาราอาวุโส, นาตาลี เกลโบวา ศรีชาพันธุ์ อดีตนางงามจักรวาล, พล.อ.กิตติ รัตนฉายา อดีตแม่ทัพภาค 4 รวมถึงหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ พระเกจิชื่อดังภาคอีสาน
สำหรับเหรียญควอนตั้มขายเหรียญละ 6,250 บาท นอกจากเหรียญแล้ว ยังมีนาฬิกา ราคา 22,000 บาท สร้อยข้อมือราคา 6,600 บาท และกระติกน้ำราคา 6,650 บาท
ด้าน พล.ต.ต.อังกูร อาทรไผท อดีต ผบก.ทล. ซึ่งอ้างว่าเป็นผู้หนึ่งที่จำหน่ายเหรียญควอนตั้ม เปิดเผยว่า ก่อนหน้าตนมีอาการปวดข้อปวดเข่าทรมาน จึงไปรักษาด้านการใช้พลังงานแม่เหล็กก็มีอาการดีขึ้น ต่อมามีคนนำ เหรียญควอนตั้ม เหรียญศุภมงคล Quantum Pendant พลังงานสเคลาร์ ที่สามารถฟื้นฟูร่างกาย ลดอาการบาดเจ็บ มาขาย จึงสั่งมาและนำมาสวมตรงจุดที่ปวดปรากฏว่าลดอาการปวดลง เห็นว่าดี จึงสั่งมามาก และแบ่งขายให้คนอื่นไปบ้าง ความจริงแล้วเรื่องนี้แล้วแต่คนที่เอาไปใช้ บางคนเอาไปใช้แล้วเป็นผลดีต่อสุขภาพเหมือนตน แต่บางคนก็ไม่ดีมันแล้วแต่คน ซึ่งตนใช้มาแล้วประมาณปีเศษ เรื่องนี้ต้องลองดู เพราะเป็นความเชื่อที่พิสูจน์ไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทราบหรือไม่ว่า อย.ประกาศว่าไม่มีสรรพคุณและคุณสมบัติในการรักษาโรค และจะดำเนินคดี พล.ต.ต.อังกูร กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่เรื่องนี้เป็นความเชื่อของแต่ละคนบางคนใช้ถูกก็ดีไป ตนไม่ได้เป็นเอเยนต์นำเข้ามาจำหน่าย แต่เป็นเพียงผู้ที่ซื้อมาเยอะจึงแบ่งขายก็เท่านั้น
...............โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน...ความเชื่อเป็นสิทธิส่วนบุคคล.....
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด 05:02:52