Advertisement
จุดตาย 'ดัดฟันแฟชั่น'
กระพือไปในวงกว้างระดับหนึ่งแล้ว สำหรับอันตรายจากการ “ดัดฟันแฟชั่น” ที่ไม่ใช่การดัดฟันเพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดรูปฟันจริง ๆ โดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า “อาจมีอันตรายถึงชีวิต” ซึ่งหลังจากเกิดเหตุวัยรุ่นหญิงรายหนึ่งเสียชีวิตภายหลังการดัดฟันแฟชั่น ก็มีการออกมาชี้ให้เห็นถึงโทษภัยในเรื่องนี้อย่างชัด ๆ
อาทิ... ลวดดัดฟันแฟชั่นในท้องตลาด มีสารปนเปื้อนที่เป็นโลหะหนัก จำพวกตะกั่ว พลวง ซีลีเนียม โครเมียม สารหนู สารเหล่านี้ถ้าสะสมในร่างกายมาก ๆ จะก่อให้เกิดผลต่อไต ทำให้ไตวาย อาจถึงขั้นเสียชีวิตได้
ลวดดัดฟันแฟชั่นอาจมีส่วนผสมของสารตะกั่ว สารหนู แคดเมียม และส่วนที่เป็นยางนั้นอาจมีการผสมสีที่เป็นอันตราย สารต่าง ๆ เหล่านี้หากเข้าไปสะสมที่ตับ ไต หลาย ๆ ปีก็อาจทำให้เป็นมะเร็งได้
การดัดฟันแฟชั่นโดยคลินิกเถื่อน หากผู้ให้บริการไม่สวมถุงมือ หากเครื่องมือที่ใช้ไม่สะอาด ไม่มีการฆ่าเชื้อโรค จะทำให้เสี่ยงต่อการติดโรคต่าง ๆ ได้หลายโรค เช่น หวัด หวัดใหญ่ คอตีบ โปลิโอ ไวรัสตับอักเสบบี วัณโรค
เหล่านี้เป็นอันตรายที่อาจเกิดจากการ “ดัดฟันแฟชั่น”
ขณะเดียวกัน “สาเหตุสำคัญที่ทำให้ถึงตาย” ก็น่าคิด...
ทั้งนี้ กรณีของวัยรุ่นหญิงที่เสียชีวิตภายหลังการดัดฟันแฟชั่น จนเกิดกระแสรณรงค์เกี่ยวกับภัยจากการดัดฟันแฟชั่นในช่วงหลายวันที่ผ่านมานั้น จากรายงานข่าว...วัยรุ่นหญิงรายนี้มีโรคประจำตัวคือโรคหัวใจ และมีอาการหอบหืด อีกทั้งช่วงก่อนเสียชีวิตก็เกิดอาการไทรอยด์เป็นพิษ อย่างไรก็ตาม จุดที่ทำให้ต้องเสียชีวิตก็คือ.....
เพราะ “ติดเชื้อในกระแสโลหิต”
ติดเชื้อในกระแสโลหิต เป็นสิ่งที่ “อันตรายมาก !!” ซึ่งจากข้อมูลของ กระทรวงสาธารณสุข นี่ “เป็นสาเหตุการเสียชีวิตของคนไทยที่สูงเป็นอันดับ 3 รองจากมะเร็งและอุบัติเหตุ” โดย นพ.กิตติศักดิ์ เชื้อสกุลวนิช เจ้าของรางวัลผลงานวิชาการยอดเยี่ยมจากการประชุมวิชาการกระทรวงสาธารณสุข ปี 2550 จากการศึกษา “การเสียชีวิตจากภาวะติดเชื้อในกระแสโลหิตในโรงพยาบาลสุรินทร์” เคยให้สัมภาษณ์วารสารวงการแพทย์ เกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ สรุปได้ว่า... “เรื่องนี้ก็ถือเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญมาก !!”
ผู้ป่วยภาวะติดเชื้อในกระแสโลหิต การเสียชีวิตจากภาวะติดเชื้อในกระแสโลหิต เกิดจากการที่ร่างกายผู้ป่วยติดเชื้อโรคขึ้นมาชนิดหนึ่ง แล้วเชื้อโรคนี้เป็นตัวที่ทำให้เกิดการอักเสบทั่วร่างกาย จนร่างกายไม่สามารถต่อต้านได้ และมีปัญหาอื่น ๆ ตามมาคือ ความดันโลหิตตก ในที่สุดผู้ป่วยก็จะเสียชีวิตลง
สำหรับอุบัติการณ์ภาวะติดเชื้อในกระแสโลหิตนี้ที่ผ่าน ๆ มาในประเทศ ไทยยังไม่มีตัวเลขที่ชัดเจน แต่หากจะอ้างอิงกับต่างประเทศ ในสหรัฐอเมริกาได้มีการศึกษาอุบัติการณ์นี้ตั้งแต่ปี ค.ศ.1979-2000 พบว่า...มีจำนวนสูงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งเพศหญิงและเพศชาย มีผู้ป่วยที่ติดเชื้อในกระแสโลหิตปีละประมาณ 751,000 ราย และมีการคาดการณ์ว่าปี ค.ศ. 2010 จะมีผู้ป่วยถึง 1,000,000 ราย หากไม่เร่งป้องกัน ยอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
“หากเป็นการติดเชื้อในกระแสโลหิตธรรมดา อัตราการเสียชีวิตจะอยู่ที่ประมาณ 30-50% แต่หากมีภาวะช็อกร่วมด้วย อัตราการเสียชีวิตจะสูงขึ้นเป็นประมาณ 88 เปอร์เซ็นต์” ...นพ.กิตติศักดิ์ ระบุไว้
เพิ่มเติมเรื่องนี้ด้วยข้อมูลจากเว็บไซต์สุขสาระ www.suksara.org ... การติดเชื้อในกระแสโลหิต หรือ “โลหิตเป็นพิษ” นั้นจริง ๆ แล้วก็ไม่ใช่โรค แต่เป็นอาการรวม ๆ ของการที่มีเชื้อโรคอยู่มากมายในกระแสเลือด ซึ่งก็มีเชื้อโรคมากมายที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสโลหิตได้ อาจจะเป็นเชื้อโรคในปอด ในทางเดินปัสสาวะ ในช่องท้องหลังผ่าตัด ในสมอง ในหัวใจ ฯลฯ โดยมักเกิดกับผู้ที่ร่างกายอ่อนแอ เช่น... ผู้สูงอายุ คนที่มีโรคเรื้อรัง คนที่เพิ่งผ่าตัด
ประเด็นสำคัญและอันตรายก็คือ... เมื่อเชื้อโรคกระจายเข้ากระแสเลือด ก็จะก่อให้เกิดการติดเชื้อในอวัยวะต่าง ๆ ทั่วร่างกาย ระบบร่างกายจะทำงานผิดปกติ และค่อย ๆ หยุดทำงานลง จนเสียชีวิตในที่สุด
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาคนไทยเราเสียชีวิตเพราะสาเหตุการ “ติดเชื้อในกระแสโลหิต” มากมาย แม้ว่าจริง ๆ แล้วจะป่วยเป็นโรคอื่น ๆ หรือประสบอุบัติเหตุ แต่สาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตก็เพราะติดเชื้อในกระแสโลหิต ถ้าจะยกตัวอย่างคนดัง ก็เช่น... บิ๊ก ดีทูบี ซึ่งที่จริงบิ๊กประสบอุบัติเหตุรถพลิกตกคลองแล้วเกิด โรคเชื้อรากินสมอง แต่ตอนที่เสียชีวิตก็เพราะอาการติดเชื้ออย่างรุนแรงในปอด แล้วเชื้อลามเข้าสู่กระแสโลหิต หรือติดเชื้อในกระแสโลหิต
ลุงปุ๊ย-สมชาย สามิภักดิ์ ดารานักแสดงรุ่นอาวุโส เสียชีวิตลงด้วยวัย 82 ปี ก็จากอาการติดเชื้อในกระแสโลหิต, สวัสดิ์ ตันติสุข ศิลปินแห่งชาติสาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) และ ศ.เกียรติคุณ ดร.มณี พยอมยงค์ ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ ศิลปินแห่งชาติทั้ง 2 ท่าน ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว สาเหตุก็เพราะ “ติดเชื้อในกระแสโลหิต”
อย่างไรก็ตาม มาถึงบรรทัดนี้ก็มิใช่จะชี้ว่าวงการสาธารณสุขของไทยไม่ทันสมัย มิใช่จะชี้ว่าแพทย์ไทยเราไม่เก่ง มิใช่อย่างนั้น เพราะจริง ๆ แล้ววงการสาธารณสุข-วงการแพทย์ของไทยก็ให้ความสำคัญในการดูแลผู้ป่วยเพื่อให้ปลอดภัยจากอันตรายตรงนี้อยู่อย่างเข้มแข็ง แต่กระนั้นก็ยังมีรายที่สุดวิสัยที่แพทย์จะช่วยได้จริง ๆ อยู่เรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง เพราะนี่มันเป็นเรื่องอันตรายจริง ๆ และอาจจะเกิดขึ้นได้อย่างปัจจุบันทันด่วน โดยไม่คาดคิด
ประเด็นคือ “ติดเชื้อในกระแสโลหิต” ถึง “ตาย” ได้ง่าย ๆ
“ดัดฟันแฟชั่น” ก็อาจเป็นเหตุให้ติดเชื้อในกระแสโลหิตได้
แล้วจะเสียเงิน “เอาเชื้อโรคเข้าปาก-เข้าเลือด” ทำไม ??.
ขอบคุณข่าวเดลินิวส์
วันที่ 1 ก.ย. 2552
Advertisement
เปิดอ่าน 7,149 ครั้ง เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,418 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง เปิดอ่าน 7,147 ครั้ง เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง เปิดอ่าน 7,145 ครั้ง เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,410 ครั้ง เปิดอ่าน 7,154 ครั้ง เปิดอ่าน 7,166 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,144 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,140 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,151 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,143 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,137 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,138 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 80,189 ครั้ง |
เปิดอ่าน 22,786 ครั้ง |
เปิดอ่าน 125,556 ครั้ง |
เปิดอ่าน 23,949 ครั้ง |
เปิดอ่าน 18,811 ครั้ง |
|
|