กรีฑา (Athletics)
กรีฑาประเภทลู่ มีดังต่อไปนี้
1. การวิ่งระยะสั้น หมายถึง การวิ่งในทางวิ่งหรือลู่วิ่งที่เรียบ ซึ่งมีระยะทางไม่เกิน 400 เมตร
นับจากจุดเริ่มต้น นักกีฬาแต่ละคนจะต้องวิ่ง 100 เมตร 200 เมตร 400 เมตร ซึ่งมีท่ามาตรา-
ฐาน ที่นิยมกันอยู่ 3 แบบ ดังต่อไปนี้
-ท่าอีลองเกตเหมาะกับนักกรีฑาที่มีรูปร่างสูงโปร่งเมื่อนักกีฬาเข้านั่งคุกเข่าประจำที่เรียบร้อยแล้วเข่าของเท้าหลังที่จรดพื้นจะอยู่ในระดับเดียวกับส้นเท้าหน้า
ปลายเท้าหน้าอยู่ห่างจากเส้นเริ่มประมาณ 13 นิ้ว ปลายเท้าหลังอยู่ห่างจากเส้นประมาณ41นิ้ว
-ท่ามีเดียมเหมาะกับนักกรีฑาที่มีรูปร่างสันทัดปานกลางเมื่อนักกีฬานั่งคุกเข่าประจำที่เข่าของเท้าหลังที่วางจรดพื้นจะอยู่ในระดับเดียวกับปลายเท้าหน้าปลายเท้าหน้าห่างจากเส้นเริ่มประมาณ
15 นิ้ว ปลายเท้าหลังห่างจากเส้นเริ่มประมาณ 34นิ้ว
-ท่าบันซ์เหมาะกับนักกรีฑารูปร่างเตี้ยเมื่อนักกีฬาเข้านั่งประจำที่ปลายเท้าหลังจรดพื้นห่างจากเส้นเท้าหน้าประมาณ8นิ้วและปลายเท้าหน้าห่างจากเส้นเริ่มประมาณ19นิ้วปลายเท้าหลังห่างเส้น
เริ่มประมาณ29นิ้ว
2.การวิ่งระยะกลาง หมายถึง การแข่งขันวิ่งในระยะทาง 800 เมตร และ1,500 เมตร ซึ่งกำ-
ลังได้รับความนิยมกันแพร่หลายอย่างมาก ทั้งระดับนานาชาติและในระดับโลก เป็นการแข่ง-
ขันที่รวมความพร้อมของร่างกายทั้งหมด คือ กำลัง ความเร็ว ความอดทนอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ยังรวมถึงทักษะการฝึกด้านจังหวะการก้าวการแกว่งแขน ที่มีความสัมพันธ์กันโดย
ต่อเนื่อง โดยให้เกิดความกลมกลืนและมีประสิทธิภาพในการแข่งขันอย่างสูงสุด
3.การวิ่งระยะไกล หมายถึง การแข่งขันวิ่งระยะทางตั้งแต่ 1,500 เมตรขึ้นไป คุณสมบัติของ
นักกีฬาวิ่งระยะไกล คือ มีรูปร่างค่อนข้างสูง มีน้ำหนักปานกลาง กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรงและ
มีจังหวะในการวิ่งที่ดีดังนั้นการฝึกหัดโดยทั่วไปก็เพื่อจะปรับปรุงในเรื่องจังหวะการก้าวขา
และการแกว่งแขนที่จะใช้กำลังให้น้อยที่
4.การวิ่งผลัด หมายถึง การแข่งขันกรีฑาประเภททีม ซึ่งต้องประกอบด้วยนักกีฬาตั้งแต่ 2 คน
ขึ้นไป ลงทำหน้าที่วิ่งในแต่ละช่วงของระยะทางตามที่ตนได้รับมอบหมาย หรือทำการตกลงไว้
ภายในทีม ตามปกติการแข่งขันกรีฑาประเภทวิ่งผลัดในระดับนานาชาติที่เป็นทางการ จะประ-
กอบด้วยการวิ่งผลัดประเภท 4x100 เมตร ชาย-หญิง และ 4X400 เมตร ชาย-หญิง ส่วนระยะ
ทางในการแข่งขันและจำนวนผู้ร่วมแข่งขัน อาจมีการเปลี่ยนแปลงและเพิ่มเติมตามสภาพ
เพื่อเพิ่มความสนุกสนาน อีกทั้งยังอาจเป็นการฝึกทักษะเพื่อเชื่อมโยงไปถึงการวิ่งผลัดระดับ
มาตราฐานต่อไปได้ด้วย
5.การวิ่งข้ามเครื่องกีดขวางหรือวิ่งวิบาก
-ระยะทางมาตราฐาน คือ 2,000 เมตรและ 3,000 เมตร
-ในการแข่งขันประเภท 3,000 เมตร จะมีรั้ว 28 รั้ว ให้กระโดดข้าม และมีแอ่งน้ำให้กระโดด
ข้าม 7 ครั้ง ส่วนการแข่งขันประเภท 2,000 เมตร จะมีรั้วกระโดดข้าม 18 รั้วและกระโดดข้าม
แอ่งน้ำ 5 ครั้ง
-ในการวิ่งข้ามเครื่องกีดขวาง 3,000 เมตร จะมีรั้วกระโดดอยู่ 5 รั้ว /รอบ และแอ่งน้ำจะอยู่ใน
ตำแหน่งที่จะกระโดดครั้งที่ 4 ในแต่ละรอบในระยะ 2,000 เมตรนั้น หลุมน้ำจะอยู่ในตำแหน่ง
ที่จะกระโดดครั้งที่ 2 ในรอบแรกและรอบอื่นๆจะอยู่ตำแหน่งที่จะกระโดดครั้งที่ 4
ฯลฯ
กรีฑาประเภทลาน มีดังต่อไปนี้
1.กระโดดไกล คือ การสปริงเท้าจากพื้นไปในอากาศ ผู้ที่สามารถเล่นกีฬาชนิดนี้ได้ดี ควรมี
สมบัติ ดังนี้
-มีพื้นฐานการวิ่งที่เร็ว
-ต้องมีการสปริงที่ข้อเท้าดีสมบูรณ์และแข็งแรง
-น้ำหนักของร่างกายน้อย
-มีการประสานกันของกล้ามเนื้อและระบบประสาทดี
2.กระโดดสูง เป็นกีฬาที่มีลัษณะรูปแบบการเคลื่อนไหวในการกระโดดมากที่สุดจุดมุ่งหมาย
ของการวิ่งกระโดดสูงหรือการกระโดดสูงก็คือ การที่ผู้กระโดดวิ่งมาแล้วสามารถกระโดดขึ้น
และลอยตัวข้ามไม้ที่พาดไว้โดยไม่ทำให้หล่น โดยจะต้องมีคุณสมบัติโดยทั่วไป ดังนี้
-ควรมีรูปร่างสูง ร้ำหนักตัวน้อย มีสปริงข้อเท้าดี
-กล้ามเนื้อขามีความแข็งแรง วิ่งเร็ว
-มีร่างกายอ่อนตัวดี และมีความเข้าใจในเทคนิคและทักษะการฝึกได้ดี
3.ทุ่มน้ำหนัก เป็นกีฬาที่ต้องอาศัยโครงสร้างของร่างกายที่สูงใหญ่ แข็งแรง มีกำลัง ความเร็ว
ความคล่องตัวตลอดจนความสัมพันธ์ในการประสานงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
ผู้เล่นแต่ละคนจะต้องทุ่มลูกน้ำหนักที่มีน้ำหนักเท่าๆกันภายในพื้นที่วงกลมที่ราบเรียบตามที่กติกากำหนดไว้
โดยทุ่มออกไปข้างหน้า ผู้ที่ทุ่มได้ไกลที่สุดเป็นผู้ชนะกีฬาประเภทนี้ควรมีคุณสมบัติดังนี้
-ต้องมีรูปร่างสูงใหญ่ น้ำหนักตัวมาก(ไม่ใช่อ้วน)
-แขนขามีกำลังสามารถวิ่งและกระโดดได้คล่องแคล่วว่องไว
4.ขว้างจักร ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนจะต้องขว้างจักรออกจากพื้นที่ภายในวงกลมให้จักรไปตาม
ทิศทางและกติกาที่กำหนดไว้ ผู้ที่ขวางได้ไกลที่สุดเป็นผู้ชนะกีฬาประเภทนี้เหมาะกับผู้มีช่วง
แขนยาวซึ่งช่วยให้เกิดการได้เปรียบขณะหมุนตัวเหวี่ยงจักร นักขว้างจักรควรมีคุณสมบัติดังนี้
-มีร่างกายแข็งแรง
-รูปร่างใหญ่ ล่ำสัน นิ้วมือ แขน และไหล่กว้าง มีช่วงแขนยาว
-มีความรวดเร็ว ว่องไว ประสางและทักษะการเคลื่อนไหวดี
5.พุ่งแหลน ผู้เข้าแข็งขันแต่ละคนจะต้องพุ่งแหลนที่มีน้ำหนักเท่าๆกันขณะที่พุ่งแหลนต้อง
เคลื่อนที่ไปบนทางวิ่งและพุ่งแหลนออกไปตามกติกาที่กำหนดไว้ โดยพุ่งไปข้างหน้า ผู้พุ่งได้
ไกลที่สุดเป็นผู้ชนะนักกรีฑาประเภทนี้จึงต้องอาศัยกำลังและความเร็ว เพื่อพุ่งแหลนออกไป
ให้ได้ระยะทางไกลที่สุด คุณสมบัติโดยทั่วไปของนักพุ่งแหลน มีดังนี้
- มีรูปร่างสูงใหญ่
- วิ่งและกระโดดได้ดี
- แขนยาว นิ้วมือยาว มีกำลังดึงและฟาดแขนได้รวดเร็วและแรง
- ความสัมพันธ์ของกล้ามเนื้อและระบบประสาทดี
ฯลฯ
ประโยชน์ที่ได้รับจากการเล่นกรีฑา
1. กล้ามเนื้อแข็งแรง
2. การทรงตัวดีขึ้น
3. รูปร่างดีขึ้น
4. ชะลอความเสื่อมของอวัยวะ
5. นอนหลับได้ดีขึ้น
6. ระบบขับถ่ายดีขึ้น
7. ช่วยให้อาการโรคหลายโรคดีขึ้น
8. ช่วยให้หัวใจ ปอด และหลอดเลือดทำงานดีขึ้น