ใครว่า เด็กเก่งต้อง "เนิร์ด"
ก็ไม่แน่เสมอไปซะทีเดียวหรอก
ไม่นานมานี้ ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชม "โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์" โรงเรียนวิทยาศาสตร์ ของรัฐแห่งเดียวในประเทศ ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม
ขอบอกคำเดียวว่า ไม่ธรรมดา
นักเรียนมหิดลวิทย์ฯ หลายต่อหลายรุ่น สร้างชื่อเสียงบนเวทีวิชาการระดับโลกด้วยการกวาดรางวัลมามากมาย ไม่ว่าจะเป็น การแข่งขันโอลิมปิกทางวิชาการทางด้านวิทยาศาสตร์ ด้านคณิตศาสตร์ การแข่งขันดาราศาสตร์ การแข่งขันคอมพิวเตอร์ ฯลฯ ล้วนกวาดรางวัล เหรียญทอง เหรียญเงิน เหรียญทองแดงมาให้คนไทยได้ร่วมชื่นชมความสามารถของเด็กไทยที่เจ๋งไม่แพ้ประเทศใดๆ ก็ว่าได้
ปุ้ยฝ้าย-ณัฐสุดา บัวมะธิติ, ติ๊ด-ทัชพร องค์พิเชษ์ฐเมธา และ ป๋วย-ถิรดา เตชาชัยนิรันด์ 3 สาว คณะกรรมการนักเรียน ระดับชั้น ม. 6 รับหน้าที่เป็นไกค์อาสา (จำเป็น) พาทัวร์โรงเรียนเสียจนทั่วทุกซอก ทุกมุม ทำให้เราทราบการใช้ชีวิตของพวกน้องๆ ทั้งหญิง-ชาย ระดับชั้น ม.4-6 ที่อยู่ร่วมกันจำนวน 720 คน ภายใต้รั้ว "น้ำเงิน-เหลือง"
แม้ข้อมูลต่างๆ อาจจะไม่ลึก ด้วยระยะเวลาอันจำกัดในการตะลุยรอบ แต่ก็สัมผัสถึง"ความอบอุ่น ความสุข และความเอื้ออาทร ระหว่างอาจารย์ นักเรียน ผองเพื่อน รุ่นพี่ รุ่นน้อง ได้อย่างน่าประทับใจ
ทั้ง 3 สาว พูดตรงกันว่า พวกเธอใฝ่ฝันที่จะเข้ามาเป็นศิษย์ของโรงเรียนแห่งนี้ตั้งแต่ สมัยเรียนประถม และมัธยมต้นแล้ว หลังทุกๆ วันหยุด และปิดเทอมพวกเธอจะได้ฟังเรื่องเล่าจากบรรดาพี่ๆ ที่เป็นนักเรียนของมหิดลวิทย์ฯ ถึงการใช้ชีวิตในโรงเรียนที่แม้จะเน้นหนักไปทางด้านวิชาการ แต่คราวเดียวกันก็คละคลุ้งไปกับความสนุกต่างๆ ทั้งการทดลอง วิจัย การฝึกฝนภาษา การใช้เทคโนโลยี สันทนาการบันเทิง กีฬา เรียนรู้วิชาชีพ ศาสนา การเข้าค่ายต่างๆ ฯลฯ เรียกได้ว่า ครบทุกอรรถรส
สิ่งเหล่านี้คือ "แรงบันดาลใจ" ให้พวกเธอและเด็กนักเรียนที่กำลังจะศึกษาต่อ ชั้นมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 4 เลือกที่มุ่งมั่น ขยันหมั่นเพียรท่องตำรา และเก็บคะแนนให้ได้สูงๆ ระหว่างเรียนหนังสือ เพื่อสมัครสอบเข้าคัดเลือกเป็นนักเรียนของที่นี่ แม้จะต้องฝ่าด่านคู่แข่งขันทั่วประเทศนับหมื่นๆ คนในแต่ละปี แต่ก็ไม่ได้ทำให้พวกเขาท้อถอย ก่อนที่จะคัดเลือกเด็กเก่งที่สามารถทะลุด่าน(หิน) เข้ามาในรั้วแห่งนี้ได้แต่เพียง 240 คน เท่านั้น... และทุกคนคือ นักเรียนทุน ที่จะผลิตออกไปเป็นบุคคลากรสำคัญของชาติในอนาคต
![](http://www.matichon.co.th/online/2009/08/12507573401250760625l.jpg)
ปุยฝ้าย สาวน้อยชาวพัทลุง กล่าวด้วยแววตามุ่งมั่นว่า เธอชอบเรียนวิชาชีววิทยา และถ้ามีโอกาส เธออยากไปเรียนต่อที่ต่างประเทศด้านไบโอฟิสิกส์ เพื่อวิจัยผลงานที่เกิดประโยชน์กับคนเยอะๆ ตามปณิธานของโรงเรียนที่ปลูกฝังให้ทุกคน มีจิตวิญญาณของความเป็นนักวิจัย นักคิดค้น และนักพัฒนาที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อตอบแทนชาติบ้านเมืองตามความสามารถที่มีอยู่
ส่วน ติ๊ด สารภาพว่า ตอนนี้เธอหลงใหล และรักความเป็นมหิดลวิทยานุสรณ์เข้าอย่างเต็มเปา จากตอนแรกที่เป็นแค่ความทะยานอยากให้สามารถเข้ามาเรียนที่นี่ให้ได้ แล้วเธอก็ทำความฝันสำเร็จ แม้ตอน ม.4 จะเครียดกับการปรับตัว และปัญหาทางด้านการเรียนที่ยังไม่ลงตัว แต่ระยะเวลาที่จะใช้ชีวิตการเป็นนักเรียนม.6 ชั้นเรียนสุดท้ายของเธอ ยิ่งกลับทำให้เธอรู้สึกอาลัยที่อยากจะใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ต่อไป แต่ด้วยความที่ต้องเติบโตก้าวสู่การใช้ชีวิตนักศึกษา ทำให้ติ๊ด สัญญาว่า เธอจะเป็นบุคคลากรที่นำความก้าวหน้ามาสู่ประเทศให้ได้
ด้าน ป๋วย สาวน้อยผมสั้น ผู้คลั่งไคล้วิชาคณิตศาสตร์ บอกว่า เธอชอบเรียนอะไรที่มันเป็นความจริง พิสูจน์ได้ ซึ่งจะสร้างความตื่นเต้นทุกครั้งที่ทำให้ค้นพบคำตอบ ป๋วยยอมรับว่า ที่มหิดลวิทย์ฯนั้น มีเนื้อหาการสอนที่ทั้งกว้างและลึก และบางเนื้อหาก็บรรจุไว้ในการสอนระดับมหาวิทยาลัยด้วย ทำให้เธอมีความมั่นใจยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ป๋วยยังรู้สึกว่า กิจกรรมออกค่ายต่างๆ ที่ทางโรงเรียนจัดขึ้นช่วยเพิ่มความสนิทให้กับนักเรียนและอาจารย์ได้อย่างมากที่สุดอีกด้วย
เมื่อคุยกันหอมปากหอมคอก็ได้เวลาที่ทั้ง 3 สาว พาชมบรรยากาศรอบๆ มหิดลวิทยานุสรณ์ ภายใต้พื้นที่ทั้งหมด 25 ไร่ (น้อยเสียเมื่อไหร่) ซึ่งมีอาคารเรียนใหญ่ 3 หลังด้วยกัน แต่ละหลังจะมีทั้งหมด 7 ชั้น ใช้เป็นห้องเรียนวิชาหลักๆ นอกนั้นก็จะเป็นอาคารย่อยๆ ไว้ให้นักเรียนร่วมกันสัมนาเชิงปฏิบัติการ (Work Shop) หรือบันเทิงสันทนาการ
![](http://www.matichon.co.th/online/2009/08/12507573401250757685l.jpg)
เริ่มที่ห้องเรียน มีการแบ่งหมดวิชาต่างๆ ดั่งเช่นโรงเรียนทั่วไป แต่สิ่งพิเศษของที่นี่ คือ เขาจะเน้นการให้ความรู้ด้านคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ ในด้านที่ให้นักเรียนได้ค้นคว้าทดลองจริง ใช้จริง ก็จะมีการแยกประเภทห้องไว้พร้อมกับอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ประกอบการเรียน เช่น ห้องทดลอง วิจัย ทั้งด้านฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา ห้องมืด ห้องเพาะเชื้อ ห้องดาราศาสตร์ ห้องคณิตศาสตร์ ฯลฯ
ที่สำคัญ เขามีห้องฉ่ายภาพยนตร์ดาราศาสตร์ 3 มิติ ด้วยนะ
ส่วนที่แนวสุดๆ เห็นจะเป็น หมวดศิลปะ ที่นอกจากจะมีการสอน Drawing โดยจัดมุม เรียงกระดานวาดภาพ วางหุ่นปั้น ให้นักเรียนได้ออกแบบด้วยดินสอ ละเลงสีตามจินตนาการแล้ว ยังมีการสอนออกแบบเสื้อผ้า (แฟชั่น ดีไซน์เนอร์) อีกด้วย เราจะเห็นผลงานของน้องๆ วางเรียงรายเต็มไปหมด ทั้งศิษย์ปัจจุบัน และศิษย์ที่จบไปแล้ว ที่สำคัญ อาจารย์ผู้สอนก็ยังหนุ่ม-สาว และฮิปสุดๆ ไม่แพ้กัน
ถัดมา คือ โรงฝึกงาน ขอบอกว่า ฟูลออฟชั่น สุดๆ เมื่อมีทั้งโรงกลึง เครื่องพิมพ์ อุปกรณ์การบัดกรี ฆ้อน ตะปู ไขควง ฯลฯ ซึ่งนี่คือหลักสูตรหนึ่งในการเรียนงานพื้นฐานอาชีพที่นักเรียนทุกคนต้องเข้ามาเรียนรู้ โดยจะมีชุดช็อปให้นักเรียนที่เข้ามาใช้โรงฝึกใส่ต่างหากเมื่อลงมือปฏิบัติงานจริง (ขอบอกว่าล้ำมาก)
อีกด้านหนึ่ง คือ ห้องปั้นเซรามิก ที่เราจะเห็นสัตว์แปลกๆ วัตถุเก๋ๆ ที่ผ่านการออกแบบและเติมสีสันโดยไอเดียของน้องๆ เขา ละลานตาเต็มไปหมด
เมื่อเดินไปสูดอากาศข้างนอก เราก็จะผ่านโรงเพาะชำต้นไม้ ซึ่งเขาจัดไปสวนเพื่อให้นักเรียนนำต้นไม้ที่ต้องการนำทดลอง วิจัยมาปลูก ผลงานใคร ผลงานมัน งานนี้ก็รู้ได้เลยว่า ใครขยัน-ไม่ขยัน รดน้ำต้นไม้ ดูกันตรงนี้แหละ
ส่วนที่ทันสมัย ไฮโซสุดๆ ต้องยกให้ สำนักวิทยบริการ หรือที่รู้จักกันดี คือ ห้องสมุด ที่นี่เค้าจัดให้ได้อย่างทันสมัย เหมาะแก่การเข้าไปค้นคว้าหาความรู้ หรือนั่งทำการบ้าน รายงานของนักเรียนมากๆ ด้วยการจัดวางหมวดหมู่ของชั้นวางหนังสือ โต๊ะ เก้าอี้ มุมพักที่ค่อนข้างเป็นสัดส่วน ไม่ยุ่งยาก โซนด้านหน้าเป็นมุมนิตยสาร และมีโต๊ะคอมพิวเตอร์ให้เสริชหาเลขหมวดหนังสือที่ต้องการค้นคว้าเบื้องต้น ส่วนชั้นที่สอง ของสำนักวิทยบริการจะเป็นโซนหนังสือต่างประเทศ
![](http://www.matichon.co.th/online/2009/08/12507573401250760134l.jpg)
สำนักวิทยบริการ
|
![](http://www.matichon.co.th/online/2009/08/12507573401250761417l.jpg)
หอพักนักเรียนชาย-หญิง
|
หอพักของที่นี่ มีอยู่ทั้งหมด 2 ตึก คือ หอพักของนักเรียนชายและหอพักของนักเรียนหญิง โดยหอพักนักเรียนชายบริเวณโถงโล่งๆ ด้านล่างที่ติดกับสนามฟุตบอลนั้น จะเป็นลานทำกิจกรรมต่างๆ ของนักเรียนทั้งชายและหญิง เช่นการจัดทำอุปกรณ์กีฬาสี ช่วงเวลาพักผ่อนของน้องๆ เขาจะมารวมตัวกันเพื่อทำอุปกรณ์ประเภทต่างๆ ที่ใช้ประกอบการเชียร์ ไม่ว่าจะเป็นการวาดภาพขึ้นคัตเอาท์ อุปกรณ์การเชียร์ พาเหรด ฯลฯ เมื่อขึ้นไปบนชั้นที่ 2 ของอาคารหลังดังกล่าว จะเป็นห้องกิจกรรมต่างๆ ทั้งห้องนาฏศิลป์ ห้องซ้อมดนตรี ทั้งไทยและต่างประเทศ
ขณะที่หอพักของนักเรียนหญิง จะอยู่เข้าไปด้านในตรงข้ามหอพักนักเรียนชาย ข้อสังเกตคือ หอพักนักเรียนหญิงจะร่มรื่นไปด้วยต้นไม้รกครึ้ม เขียวขจี และมีรั้วเหล็กกั้นไว้อีกชั้นเพื่อความปลอดภัย และค่อนข้างเป็นส่วนตัวมากกว่าหอพักนักเรียนชาย ส่วนห้องนอนด้านในของทั้งหอพักนักเรียนชายและ นักเรียนหญิงจะจัดให้อยู่ร่วมกันประมาณ 4-6 คน เป็นเตียง 2 ชั้น 3-4 เตียงวางติดกัน แบ่งตามลำดับชั้นการเรียน ส่วนใครจะนอนกับใครก็ได้แล้วแต่
พระพุทธรูปประจำโรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์นั้น คือ หลวงพ่อวัดไร่ขิง ซึ่งประดิษฐานอยู่ที่หอพระ บริเวณด้านหน้าทางเข้าโรงเรียน
ติดๆ กันคือ ศูนย์กีฬามาตรฐาน 4 ชั้น เรียกว่า อลังการสุดๆ เพราะมีทั้งคอร์ดแบตมินตัน สนามบาส วอลเลย์บอล อัฒจันทร์สำหรับกิจกรรมเชียร์ (ทุกๆ เดือนกันยายน ที่นี่เขาจะมีกีฬาสีเกิดขึ้น) นอกจากนี้ ยังมีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องซ้อมตีเทนนิส ฯลฯ มาใช้บริการที่เดียว เรียกเหงื่อเสริมสุขภาพ เพิ่มความแมน ไม่ต้องมัวพึ่งแอ๊บแบ๊วความสวยได้เพียบ
ที่หนึ่งซึ่งสำคัญสำหรับปากท้อง ปฏิเสธไม่ได้ว่า นั่นคือ โรงอาหาร ที่ทั้งกว้าง น่านั่ง และอาหารน่ากินสุดๆ เสียดายไม่ได้เข้าไปลองชิมสักร้าน เลยอดรู้ว่าจะอร่อยเอร็ดถูกปาก ตรึงใจแค่ไหน ป๋วย-ติ๊ด-ปุยฝ้าย บอกว่า ทุกๆ พักเที่ยง นักเรียนทั้งหมดจะต้องลงมารับประทานอาหารที่นี่พร้อมกัน ส่วนเวลาอื่นๆ ก็จะมีนักเรียนมานั่งรับประทานบ้าง และเขาจะปิดเปิดเป็นเวลา ส่วนถ้าใครเบื่อข้าว อยากทานขนม นม น้ำอัดลม น้ำผลไม้ หรือซื้อของใช้จำเป็นส่วนตัว เขาก็มีร้านค้าสวัสดิการของโรงเรียนไว้จำหน่ายเสียจนเลือกไม่ถูกเลยล่ะ
ครั้นตระเวนทั่วมหิดลวิทยานุสรณ์ จนได้เวลาเย็นแล้ว ก็มีรถบัสหลายคันขับเข้ามาในโรงเรียน จากนั้นก็เห็นนักเรียนชายในชุดเครื่องแบบ นักศึกษาวิชาทหาร สีเขียวขี้มา หรือชุด รด. ลงมากันเต็มไปหมด ทำให้นึกขึ้นได้ว่า ก่อนหน้านี้ 3 สาว ออกตัวไว้ว่า ทุกวันพุธ นักเรียนผู้ชายส่วนใหญ่เขาจะไปเรียน รด.กัน
มิน่าเล่า ก็ว่า ทำไมโรงเรียนโล่งๆ เงียบๆ และคนน้อยๆ ผิดปกติ
![](http://www.matichon.co.th/online/2009/08/12507573401250764142l.jpg) |
ติ๊ดและป๋วย (ปุยฝ้ายขอตัวแยกไปเรียนนาฏศิลป์) ก็แนะนำให้รู้จัก หนุ่มหน้าตาตี๋ๆ มาดนิ่งคนหนึ่ง ชื่อ ไมค์ -กษิดิ์เดช พูลสุขสมบัติ ซึ่งเป็นประธานนักเรียน (มิน่าเล่าราศีจับเชียว)
จากนั้นก็จะมีอีกหลายหนุ่มเดินมาทักทาย สวัสดี หนึ่งในนั้น เป็นถึงนักเรียนดีกรีเหรียญเงินโอลิมปิกเคมี ปี 2552 คือ อลิฟ น้อยคำ ซึ่งเมื่อเจอตัวเป็นๆ แล้วไม่น่าเชื่อว่า น้องเขาจะเฟรนลี่ ดูร่าเริง สนุกสนาน ผิดกับเด็กเก่งๆ ทางด้านวิชาการที่เจอทั่วไป
อลิฟ ปล่อยมุกเรียกเสียงฮาไปได้หลายดอก เมื่อเข้าขากับ กอล์ฟ -เนติวิทย์ เก่าเงิน หนุ่มตี๋หน้าทะเล้น สัดส่วนกระทัดรัด ที่ประกาศตัวว่า "อนาคตผมจะเป็นดารา" กอล์ฟขอให้ถ่ายรูปพวกเขาไปเยอะๆ เผื่อจะได้แจ้งเกิดในวงการบันเทิงในสักวัน สมแล้วกับการเป็นคณะกรรมการนักเรียนฝ่ายกิจกรรม
|
แสงอาทิตย์เริ่มทออ่อน ค่อยๆ เหลือบลับต่ำไปด้านหลังสนามฟุตบอลแล้ว ถึงเวลาที่ต้องลาพวกน้องๆ และบรรดาคณาจารย์เสียที หลังได้รับการอำนวยความสะดวกและการให้ความร่วมมือเต็มที่ในการทำความรู้จักความเป็นมหิดลวิทยานุสรณ์ นักเรียน และอาจารย์ เกือบครบถ้วน ทำให้ไม่แปลกใจเลยว่า เหตุใด พ่อแม่ผู้ปกครอง และนักเรียนตั้งแต่ชั้น ม. 3 ลงไป ถึงใฝ่ฝัน มุ่งมั่น ขยันท่องตำรา ที่จะเข้ามาเรียนในโรงเรียนแห่งนี้ให้ได้
คำตอบไม่ได้อยู่แค่ว่า เพราะเป็นโรงเรียนวิทยาศาสตร์อันดับหนึ่งแห่งเดียวของประเทศ แต่ด้วยจิตวิญญาณของการนำความรู้ที่ได้จากการศึกษาไปพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้าและทัดเทียมนานประเทศในอนาคตต่างหาก ที่ทำให้พวกเขาต้องการเป็นคนเก่งโดยไม่เห็นแก่ตัว หลายๆ คำถามได้ถูกไขเป็นคำตอบไปบ้างแล้ว ขาดแต่เพียงโอกาสและเงินทุนสนับสนุน อยู่ที่ว่า ผู้ใหญ่ที่มีส่วนสำคัญในการบริหารบ้านเมือง จะส่งเสริมคนที่สามารถสร้างประโยชน์ให้กับประเทศไทยของเราได้มากน้อยแค่ไหน ไม่ใช่แต่มัวเถียงกันไปมาว่า ใครโกงกินเท่าไหร่ เข้าข้างฝ่ายใด ควรเทิดทูนคนไหนเพราะถ้ามัวแต่เป็นเช่นนั้นอยู่ ประเทศของเราก็ไม่มีวันที่จะพัฒนาเหมือนชาติอื่นๆได้ขึ้นมาเสียที...
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1250757340&grpid=no&catid=02
โดย...ภูเขาดินสอ