ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

การปฏิรูปการเรียนรู้


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,187 ครั้ง
Advertisement

การปฏิรูปการเรียนรู้

Advertisement

 

บทความเรื่องการปฏิรูปการเรียนรู้

โดย  สมปอง  จันทคง

นักศึกษาปริญญาเอก  รหัส  5251023

----------------

 

สภาพปัจจุบันและปัญหา

 

                                ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาประเทศไทยได้บังคับใช้พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ  พ.ศ.  2542  ตั้งแต่วันที่  20  สิงหาคม  2543  และแก้ไขเพิ่มเติม  พ.ศ.  2545  ผลจากการใช้พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ  พ.ศ.  2542  ได้เกิดปัญหาในการพัฒนาการศึกษาของชาติจนในปัจจุบันต้องเร่งหาทางปฏิรูปการศึกษาในหลายด้าน  เช่น  การปฏิรูประบบบริหารการศึกษา                     การปฏิรูปโครงสร้างการบริหารการศึกษา  การปฏิรูปครูและบุคลากรทางการศึกษา  การปฏิรูปสถานศึกษา  และการปฏิรูปการเรียนรู้  

                                พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ  พ.ศ.  2542  เป็นกฎหมายรับรองผู้มีความเกี่ยวข้องต้องถือปฏิบัติให้บรรลุผลสำเร็จตามเจตนารมณ์ของกฎหมายภายใน  3  ปี  แต่ปรากฏว่าระยะเวลาล่วงเลยมาเป็นปีที่  10  แห่งการใช้พระราชบัญญัตินี้กลับล้มเหลวเกือบจะสิ้นเชิง  ทั้ง ๆ ที่นโยบายในระดับสูงมุ่งมั่นที่จะให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น  โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับ             ผู้ปฏิบัติ  เช่น  สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน  ครูและบุคลากรทางการศึกษา  และผู้เรียน       

                                ครูถือว่าเป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการปฏิรูปการเรียนรู้  ครูต้องปรับวิธีเรียนเปลี่ยนวิธีสอนจากเดิมที่สอนหนังสือ  ต้องเปลี่ยนเป็นการสอนคน  เพราะปัจจุบันนี้นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองจากสื่อต่าง ๆ ทั้งทางวิทยุ  โทรทัศน์  หนังสือพิมพ์  หนังสือตำราเรียน  และรวมทั้งความรู้ทางอินเตอร์เน็ต  นักเรียนเขาพัฒนาตนเองแต่ครูบางส่วนยังไม่ได้ปรับเปลี่ยนวิธีการจัดการเรียนรู้  อย่างปฏิเสธไม่ได้  ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ทุกฝ่ายจะต้องปฏิรูปการศึกษาไทย  โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิรูปการเรียนรู้

                                ปัญหาการปฏิรูปการเรียนรู้  สิ่งที่บ่งชี้ว่าต้องปฏิรูปการเรียนรู้  คือ

1.       ห้องเรียน  (Class Room)  เพราะห้องเรียนเป็นกรอบในการปกครอง

ควบคุมดูแลนักเรียน  ให้อยู่ในระเบียบวินัย  เพื่อจะได้เรียนวิชาความรู้  ทั้ง ๆ ที่ไม่เอื้ออำนวยให้เขาเกิดการเรียนรู้  เพราะบรรยากาศการเรียนรู้ที่อึดอัด  ห้องเรียนที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงอะไรเลย  กี่ปีผ่านไปห้องเรียนก็ยังอยู่ในสภาพเก่า ๆ เดิม ๆ ไม่ได้เอื้อให้เกิดการใฝ่เรียนใฝ่รู้  หรือส่งเสริมให้คิดกว้าง  คิดไกล  ใฝ่รู้  อยู่อย่างเป็นสุข  ได้อย่างเหมาะสม

 

 

2

 

2.       สื่อนวัตกรรม  (Innovation)  ที่ผ่านมาการผลิตสื่อนวัตกรรมทางการศึกษา

ได้รับความเอาใจใส่  แต่บางครั้งยังใช้สื่อไม่หลากหลาย  ไม่ทันสมัย  ไม่น่าสนใจ  ไม่ส่งผลให้เกิดการเรียนรู้  เช่น  หนังสือหรือตำราเก่า ๆ สื่อเทคโนโลยีที่ล้าสมัย  ใช้ยาก   

3.       วิธีสอน  (Method)  ปัญหาอยู่ที่กระบวนการที่จัดให้แก่ผู้เรียนที่ไม่ได้เน้นให้

เกิดการเรียนรู้  การคิดวิเคราะห์  แสดงความคิดเห็นและการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ทำให้ขาดคุณลักษณะที่พึงประสงค์  เช่น  เป็นคนช่างสังเกต  ช่างสงสัย  ใฝ่หาคำตอบ  เพราะวิธีการสอนที่ใช้ยังเป็นการสอนหนังสือมากกว่าการสอนคน  และขาดความเชื่อมโยงจากภูมิปัญญาท้องถิ่นกับเทคโนโลยีทางการศึกษา 

4.       ครู  (Teacher)  การปฏิรูปการเรียนรู้จะเกิดขึ้นหรือไม่   ครูถือเป็นผู้มีบทบาท

สำคัญมากที่สุด  เพราะครูยังยึดมั่นตนเองว่าเป็นผู้มีความรู้มากที่สุด  ถูกที่สุด  ไม่ยอมปรับวิธีเรียนเปลี่ยนวิธีสอน ยังใช้วิธีถ่ายทอดความรู้แบบเดิม ๆ  ล้าสมัย  ใช้เทคโนโลยีไม่เป็น  และไม่สนใจที่จะพัฒนาตนเอง  ครูแบบนี้ยังมีอยู่จำนวนมากในระบบโรงเรียน

5.       กระบวนการเรียนรู้  (Process  Learning)  ไม่น่าสนใจ  น่าเบื่อหน่าย 

เพราะครูยังยึดเกณฑ์เนื้อหา  ความรู้  การสอบ  คะแนน  เป็นตัวกำหนดหรือตัดสินความสำเร็จของผู้เรียน  จึงทำให้เกิดความเครียด  ไม่มีความสุขในการเรียน  ไม่เป็นที่พอใจของผู้ปกครอง  กระบวนการเรียนการสอนยังเป็นพฤติกรรมถ่ายทอดมากกว่าการปฏิบัติ  การฝึกหัด  การอบรมบ่มนิสัย  ผู้เรียนเคยชินกับการนั่งนิ่ง  เงียบ  ไม่กล้าแสดงความคิดเห็น  ไม่กล้าแสดงออก  ขาดความคล่องตัวในการที่จะฝึกคิดวิเคราะห์  คิดแบบวิทยาศาสตร์  ไม่รับรู้การปลูกฝังความภาคภูมิใจในศิลปวัฒนธรรมของชาติ  แต่ไวต่อการรับวัฒนธรรมของต่างชาติ      

6.       โรงเรียน  (School)  เป็นแหล่งเรียนรู้ที่อยู่ในระบบ  ข้อบังคับ  มีระเบียบ

แบบแผน  มีผู้มีส่วนเกี่ยวข้องหลายฝ่าย  มีการบังคับบัญชาหลายระดับ  บางครั้งงานพิเศษมีมากมาย  ที่ครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องทำ  จนทำให้เสียหายต่อกิจกรรมการเรียนรู้  โรงเรียนจะติดต่อประสานงานกับหน่วยงานอื่น ๆ สักฉบับ  ต้องเสียครูหรือครูต้องทิ้งห้องเรียนไปเกือบตลอดวัน  แล้วอย่างนี้เด็กนักเรียนจะเรียนเก่งได้อย่างไร

7.       ผู้บริหารสถานศึกษา  (Head of school)  ในสถานศึกษาบางแห่งผู้บริหารจะ

เป็นตัวปัญหาที่ทำให้การปฏิรูปการเรียนรู้ไม่ประสบผลสำเร็จ  เพราะผู้บริหารขาดภาวะผู้นำ  ขาดความสามารถในการบริหารจัดการ  ขาดประสบการณ์  หรืออาจเป็นเพราะมีความเชื่อมั่นในตนเองสูง  ไม่ฟังความคิดเห็นของผู้ใต้บังคับบัญชา  ไม่สามารถครองตน  ครองคน  ครองงานได้  จึงทำให้เกิดความล้มเหลวในการบริหารและปฏิรูปการเรียนรู้   

 

3

 

                                ปัญหาเหล่านี้มีแนวทางในการแก้ไข  แต่ต้องอาศัยผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนที่จะร่วมมือร่วมใจกันหาแนวทางในการช่วยปรับวิธีเรียนเปลี่ยนวิธีสอน  ช่วยลูกหลานเยาวชนซึ่งเป็นผู้เรียนได้เป็นคนโดยสมบูรณ์ทั้งทางความคิด  สติปัญญา  สังคม  อารมณ์และจิตใจ  หาทาง

ช่วยเหลือปลดปล่อยความทุกข์ของผู้เรียนจากการเรียนรู้  ให้เขาเป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้  ภายใต้ความคิดความเชื่อที่ว่า  นักเรียนสำคัญที่สุด  หรือ  ยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ  เพราะเขาเหล่านี้คือผู้ที่จะพัฒนาชาติให้เจริญก้าวหน้าในอนาคต  ในโลกยุคโลกาภิวัตน์และไร้พรมแดน

 

แนวคิดในการปฏิรูปการเรียนรู้

 

                                การปฏิรูปการเรียนรู้  ได้มีผู้เสนอแนวคิดทฤษฎีเกี่ยวกับการปฏิรูปการเรียนรู้ไว้  ดังนี้

                                รุ่ง  แก้วแดง  นักการศึกษาที่มีความสำคัญของกระทรวงศึกษาธิการเมื่อทศวรรษที่ผ่านมา  ได้นำเสนอแนวคิดในการปฏิรูปการเรียนรู้ไว้  5  ประการ  กล่าวคือ

1.       ให้สถานศึกษาและชุมชนเป็นผู้มีส่วนร่วมในการวางแผน  กำหนดนโยบาย 

กำหนดเป้าหมาย  จัดทำหลักสูตร  โดยเฉพาะหลักสูตรท้องถิ่น  กำกับดูแล  ควบคุมตรวจสอบคุณภาพ  และสนับสนุนทรัพยากรในด้านภูมิปัญญา  องค์ความรู้  การเงิน  เพื่อให้การศึกษาของเด็กและเยาวชนเป็นการศึกษาที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตและช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น

2.       การระดมความร่วมมือภาคเอกชนเพื่อจัดการศึกษาด้านอาชีพโดยอาศัยความ

ร่วมมือจากสถานประกอบการ

3.       การปรับรื้อระบบอุดมศึกษาให้เน้นหนักการสอน  การวิจัย  และการบริการ

แบบอิสระเบ็ดเสร็จมากขึ้น

4.       ตรวจสอบและประกันคุณภาพการศึกษา

5.       การระดมทรัพยากรและสรรพกำลัง

 

สิปนนท์  เกตุทัต  (2545  :  18-19)  กล่าวถึงหัวใจของการปฏิรูปการศึกษา  คือ

1.       ด้านบุคคล  ซึ่งทุกคนมีสิทธิและโอกาสที่มีคุณภาพเสมอกันตลอดชีวิต

2.       ด้านรูปแบบกระบวนการเรียนรู้ต้องยึดผู้เรียนเป็นสำคัญ  ให้รู้วิธีการเรียนรู้ที่ถูกต้องเหมาะสม

3.       ด้านทรัพยากร  การจัดการศึกษาต้องกว้างขวางทั่วถึงและเป็นธรรม

 

4

 

เกษม  วัฒนชัย  (2545  :  18-20)  กล่าวว่าการเรียนรู้คือหัวใจของการปฏิรูป 

มุ่งเน้นกระบวนการปลูกฝัง  ถ่ายทอด  ฝึกอบรม  ให้เกิดความรู้  เจตคติ  ความเข้าใจ  ความเชื่อศรัทธา  ระบบคุณค่า  ระบบคุณธรรม  การควบคุมและการดูแลตนเอง  ทักษะและการทำงานให้แก่ผู้เรียน  เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในความรู้สึกนึกคิดและพฤติกรรมของผผู้เรียน  ตามวัตถุประสงค์การเรียนรู้  ต้องยึดหลักว่าผู้เรียนสำคัญที่สุด  สามารถเรียนรู้ด้วยตนเอง  มุ่งเสริมสร้างแหล่งเรียนรู้  เพื่อให้เกิดสังคมแห่งการเรียนรู้ที่ผู้เรียนมีโอกาสเรียนรู้ได้อย่างเท่าเทียมและทั่วถึง  (ศูนย์ปฏิบัติการปฏิรูปการศึกษา.  2544  :  80)

 

เสกสรร  แย้มพินิจ  (ออนไลน์)  ได้เสนอแนวคิดในการปฏิรูปการเรียนรู้  ไว้  3 

ประการ  ดังนี้

1.       ทุกภาคส่วนต้องมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบในการจัดการศึกษาอย่างเต็ม

ศักยภาพ  ทั้งภาครัฐและเอกชน  ชุมชน  พ่อแม่  ผู้ปกครอง  ครู  และโรงเรียน

2.       รัฐและส่วนกลางต้องกระจายอำนาจลงสู่ระดับภูมิภาคและท้องถิ่นให้เป็นผู้

ตัดสินใจตามภารกิจและความรับผิดชอบ

3.       ต้องมีการตรวจสอบคุณภาพเพื่อให้มั่นใจแน่ใจเชื่อใจได้ว่ามีคุณภาพในการ

จัดการเรียนรู้

 

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน  ได้เสนอแนวคิดในการปฏิรูป

การเรียนรู้  ดังนี้

1.       ในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน  ผู้เรียนส่วนใหญ่มีจุดอ่อนในด้านทักษะการคิด 

ทักษะการค้นคว้า  รวมทั้งความรู้พื้นฐาน  5  สาระหลัก  สถานศึกษาต้องประเมินผู้เรียนอย่างหลากหลายไม่ใช่เฉพาะการทดสอบเพียงอย่างเดียว  และพบว่าครูต้องได้รับการพัฒนาเพิ่มเติมในด้านความรู้และแนวทางปฏิบัติในการวัดผลประเมินผลผู้เรียนมากขึ้น

2.       ระดับอุดมศึกษา  การดำเนินการปฏิรูปการศึกษา  มีการส่งเสริมและพัฒนา

หลักสูตรให้หลากหลาย  เรียนรู้ด้วยประสบการณ์จริง  คัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาให้สอดคล้องกับการจัดการเรียนรู้ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานที่เปลี่ยนไป 

 

 

 

 

5

 

จากการนำเสนอแนวคิดในการปฏิรูปการเรียนรู้ทุกท่านที่กล่าวมาข้างต้น 

สรุปได้ว่า  หน่วยงาน  หรือบุคคลที่จะต้องมีส่วนร่วมในการปฏิรูปการเรียนรู้  สรุปได้ดังนี้

1.       รัฐบาล  ต้องให้การสนับสนุนทั้งงบประมาณและอัตรากำลังให้กับ

สถานศึกษาอย่างเพียงพอ  ต้องกระจายอำนาจลงสู่ส่วนภูมิภาคและท้องถิ่น  เพื่อให้การบริหารจัดการเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพเกิดประสิทธิผล

2.       ภาคเอกชน  ต้องมีส่วนร่วมในการระดมทรัพยากรเพื่อให้การพัฒนาคุณภาพ

และช่วยเหลือผู้เรียนในด้านต่าง ๆ อย่างทันท่วงที

3.       สถานศึกษา  ต้องมุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนให้เป็นไปตามนโยบาย 

เป้าหมาย  เป็นบุคคลแห่งการเรียนรู้  อยู่ร่วมกับสังคมได้อย่างมีความสุข

4.       ชุมชน  ต้องสนับสนุนส่งเสริมด้านทรัพยากร  เพื่อให้การพัฒนาคุณภาพผู้เรียนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ  เกิดสังคมแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต

คุณภาพการศึกษาต้องสามารถตรวจสอบได้  มีการประกันคุณภาพการศึกษา

ทั้งจากองค์กรภายในและองค์กรภายนอกที่น่าเชื่อถือ

 

กรอบการปฏิรูปการเรียนรู้ของผู้เรียน

 

 

                                                                                      Plan

 

 

 

                   Action                                          กรอบการปกิรูปการเรียนรู้                         Do

       
 
   
 
 

 


                                                                                       Check

 

 

 

6

 

                มีขั้นตอน  ดังนี้

                1.  ขั้นวางแผน

                      P   (Plan)  คือ  การร่วมมือศึกษาหลักสูตรและมาตรฐานการเรียนรู้  ร่วมกำหนดแผนการสอนและร่วมวางแผนจัดกิจกรรมการเรียนรู้

                2.  ขั้นเรียนรู้

                     D  (Do)  คือ  สร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง  มีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้  และเรียนรู้กระบวนการเรียนรู้ควบคู่กับผลงานและข้อความรู้  และทำการวิจัยเพื่อการเรียนรู้

                3.  ขั้นตรวจสอบ                   C  (Check)  ประเมินผลการเรียนรู้  บันทึกผลการเรียนรู้  และสรุปผลการเรียนรู้

                4.  ขั้นปรับปรุงพัฒนา                      A  (Act)  นำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน

 

การดำเนินการปฏิรูปการเรียนรู้

                จากการปฏิรูปการศึกษาที่ผ่านมา  เมื่อปี  2548  พบว่า  กระบวนการจัดการเรียนรู้มีหลากหลาย  ครูยังไม่มั่นใจในหลักสูตร  สาระหลักสูตรมากเกินไป  ครูให้การบ้านเด็กมากเกินไป  มีการใช้กระบวนการเรียนรู้ไม่เหมาะสม  มีการนำสื่อเทคโนโลยีไปใช้บ้าง  ในการจัดการเรียนเรียนรู้  ครูยังไม่สามารถนำการวิจัยมาพัฒนาการเรียนการสอนได้

                ในปี  2549  กระทรวงศึกษาธิการจัดให้เป็นปีแห่งการปฏิรูปเรียนการสอน  โดยมุ่งให้ผู้สอนและผู้เรียน  ปรับวิธีเรียนเปลี่ยนกระบวนทัศน์การเรียน  สอนให้รู้จักคิดวิเคราะห์  สังเคราะห์องค์ความรู้ด้วยตนเอง  จึงเกิดการเปลี่ยนแปลงหลักสูตรในปี  2551

                หลังจากมีการปฏิรูปการเรียนรู้ปี  2549  ผ่านไป  ได้มีการจัดการศึกษาตามแนวการจัดจัดการเรียนรู้เพื่อสร้างสรรค์ด้วยปัญญา  (Constructionism)   มุ่งให้ผู้เรียนเรียนรู้วิธีการเรียนรู้            การแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง  สามารถใช้เทคโนโลยีแสวงหาความรู้ได้อย่างคล่องแคล่ว  จัดการศึกษาสำหรับเด็กและเยาวชนที่มีความสามารถพิเศษเกิดโรงเรียนในฝันหลายรุ่น  เกิดโรงเรียนวิถีพุทธ  รวมทั้งปรับปรุงกระบวนการเรียนการสอนภาษาไทย  ภาษาอังกฤษ  ภาษาจีน โดยเน้นให้นักเรียนคิดวิเคราะห์  อ่าน  เขียนเพื่อสื่อสารและศึกษาต่อในระดับสูงขึ้น

                ในช่วงปี  2551  ที่ผ่านมา  การปฏิรูปการศึกษาแทบจะไม่เห็นเป็นรูปธรรมอาจเนื่องมาจากมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลหลายรัฐบาล  และรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการหลายคน  จนกระทั่งได้รัฐบาลใหม่  โดยรัฐมนตรีจุรินทร์  ลัษณะวิศิษฐ์    ประกาศนโยบายเดินหน้าการปฏิรูปการศึกษารอบที่  2  ในปี  2552  โดยเน้นการปฏิรูปเรื่องด่วน  7  เรื่อง  คือ

7

 

1.       การมีส่วนร่วมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

2.       จัดการศึกษาให้สอดคล้อง  ตอบสนองความต้องการของผู้เรียนที่มีความแตกต่างหลากหลายอย่างเหมาะสม

3.       พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาทั้งด้านปริมาณและคุณภาพ

4. 

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 3792 วันที่ 17 ส.ค. 2552


การปฏิรูปการเรียนรู้

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

สวยด้วยดินสอพอง

สวยด้วยดินสอพอง


เปิดอ่าน 7,154 ครั้ง
สื่อการสอนภาษาอังกฤษ(17)

สื่อการสอนภาษาอังกฤษ(17)


เปิดอ่าน 7,136 ครั้ง
ความหมายของ...ดีกรี ??

ความหมายของ...ดีกรี ??


เปิดอ่าน 7,150 ครั้ง
ศาสนาอิสลาม

ศาสนาอิสลาม


เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

มุมมองจากฝรั่งพูดไทย...คนอีสานมีน้ำใจ

มุมมองจากฝรั่งพูดไทย...คนอีสานมีน้ำใจ

เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
รักนี้ชั่วนิรันดร์_30 (แด่ความรักที่เป็นไปไม่ได้)
รักนี้ชั่วนิรันดร์_30 (แด่ความรักที่เป็นไปไม่ได้)
เปิดอ่าน 7,139 ☕ คลิกอ่านเลย

ชูปฏิทิน"เบียร์ลาว" 6นางแบบไม่โป๊ "ลูกเกด"ครวญอีก
ชูปฏิทิน"เบียร์ลาว" 6นางแบบไม่โป๊ "ลูกเกด"ครวญอีก
เปิดอ่าน 7,182 ☕ คลิกอ่านเลย

 จิตวิญญาณครู กับ จิตวิทยาอาจารย์ ( ฟังเพลง..ครู...>>)
จิตวิญญาณครู กับ จิตวิทยาอาจารย์ ( ฟังเพลง..ครู...>>)
เปิดอ่าน 7,151 ☕ คลิกอ่านเลย

Website เพื่อการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษที่น่าสนใจมากมาก
Website เพื่อการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษที่น่าสนใจมากมาก
เปิดอ่าน 7,146 ☕ คลิกอ่านเลย

ลืมหรือยังนั่น...ขวัญ-เรียม
ลืมหรือยังนั่น...ขวัญ-เรียม
เปิดอ่าน 7,173 ☕ คลิกอ่านเลย

   เข้าพรรษา มา"กินมังสวิรัติ" กันเถอะครับ  ลดโอกาสเป็นมะเร็ง
เข้าพรรษา มา"กินมังสวิรัติ" กันเถอะครับ ลดโอกาสเป็นมะเร็ง
เปิดอ่าน 7,141 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

พายุไต้ฝุ่น
พายุไต้ฝุ่น
เปิดอ่าน 31,689 ครั้ง

เอกสาร ก้าวแรกการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน Project Based Learnning PBL
เอกสาร ก้าวแรกการจัดการเรียนรู้โดยใช้โครงงานเป็นฐาน Project Based Learnning PBL
เปิดอ่าน 6,729 ครั้ง

อาการ ไอ แก้ได้ไม่ง้อยา
อาการ ไอ แก้ได้ไม่ง้อยา
เปิดอ่าน 19,528 ครั้ง

ใบมอบฉันทะผู้รับหนังสือรับรองสิทธิในบำเหน็จตกทอดเพือใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันการกู้เงิน
ใบมอบฉันทะผู้รับหนังสือรับรองสิทธิในบำเหน็จตกทอดเพือใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันการกู้เงิน
เปิดอ่าน 15,591 ครั้ง

มินาโมโตะ ชิซุกะ : ตัวละครจากการ์ตูนโดราเอมอน
มินาโมโตะ ชิซุกะ : ตัวละครจากการ์ตูนโดราเอมอน
เปิดอ่าน 37,340 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ