Advertisement
เลี้ยงลูกชายไม่ให้โตเป็นสาว เลี้ยงลูกสาวไม่ให้โตเป็นหนุ่ม!! |
|
หากลูกสาวจะไม่ชอบใส่กระโปรงก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร การที่ลูกจะเล่นโลดโผนบ้างนั้นไม่สามารถชี้ชัดได้ว่า ลูกจะเป็นทอม หรือลูกชายที่เรียบร้อย เงียบๆ ก็ไม่ได้หมายความว่าลูกจะเป็นตุ๊ดหรือเกย์ และการที่ครอบครัวบางครอบครัวส่งลูกไปเรียนโรงเรียนหญิงล้วนและโรงเรียนชายล้วนนั้น แม้ว่าสังคมในโรงเรียนอาจมีผลทำให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ แต่นั่นก็เป็นเพียงสังคมเล็กๆสังคมหนึ่ง ไม่ใช่สาเหตุหลักที่ทำให้ลูกเบี่ยงเบนเพราะเมื่อเขาอยู่ในสังคมที่กว้างขึ้น ปัจจัยหลายๆอย่างอาจทำให้ความคิดของเขาเปลี่ยนไป แต่สิ่งเหล่านี้พ่อแม่ไม่ควรปล่อยไว้จนสายเกินแก้
แม้ยังไม่มีตัวเลขบ่งบอกถึงจำนวนคนรักเพศเดียวกัน แต่ด้วยสังคมที่เปิดกว้าง ทำให้คนกลุ่มนี้กล้าที่จะเปิดเผยให้คนในสังคมได้รับรู้มากขึ้น และเมื่อมีการแสดงตนในสังคมได้อย่างเสรี เด็กๆที่เห็นจึงกล้าที่จะเอาเยี่ยงอย่างเพราะเชื่อว่าไม่ได้เสียหายอะไร อย่างไรก็ดีเรามาดูกันว่า มีวิธีไหนบ้างที่จะทำให้ลูกไม่เบี่ยงเบนทางเพศ
1.ครอบครัวอบอุ่น แม้ว่าส่วนหนึ่งของการเบี่ยงเบนทางเพศอาจมากจากความผิดปกติของฮอร์โมน แต่การที่เด็กอยู่ในครอบครัวที่อบอุ่น มีทั้งพ่อและแม่คอยดูแลเอาใจใส่ ก็มีส่วนในเรื่องนี้เช่นกัน เพราะสาเหตุที่ทำให้เด็กเบี่ยงเบนทางเพศนั้นมาจากความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ผิดปกติ พ่อแม่มีบทบาทไม่เหมาะสมตามเพศของตน มีการเลี้ยงดูผิดวิธี ทัศนคติของครอบครัวที่ชื่นชมเพศใดเพศหนึ่งมากกว่าอีกเพศหนึ่ง รวมไปถึงความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกชาย แม่กับลูกสาวที่ไม่ค่อยได้ใกล้ชิดกันก็ยิ่งเป็นแรงหนุนทำให้ลูกเบี่ยงเบนได้
2.ส่งเสริมความเป็นชาย ตอกย้ำความเป็นหญิง พ่อแม่ควรหาของเล่นที่ส่งเสริมบทบาทของลูกเช่น ลูกชายเล่นหุ่นยนต์ ลูกสาวเล่นตุ๊กตา หรือของเล่นชิ้นอื่นที่เหมาะสมกับลูก
3.สังเกตลูกตั้งแต่ยังเล็ก พ่อแม่ควรสังเกตพฤติกรรมของลูกตั้งแต่ 3-4 ขวบโดยประมาณ หากพบความผิดปกติต้องรีบหาสาเหตุและปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ อย่าปล่อยทิ้งไว้เด็ดขาด
4.อย่าบังคับ หากพบว่าลูกมีแนวโน้มที่จะเบี่ยงเบนทางเพศ พ่อแม่ไม่ควรบังคับหรือสร้างความกดดัน รวมไปถึงดุด่าว่ากล่าวลูก เพราะการบังคับ การใช้อารมณ์ในการแก้ปัญหา ยิ่งทำให้ปฏิกิริยาของลูกเกิดการต่อต้านมากกว่าเดิม ดังนั้นควรเปิดอกคุยกันพ่อ-แม่-ลูก และค่อยๆชักนำให้ลูกกลับมาสมเพศ สมวัยเหมือนเดิม แม้อาจจะต้องใช้เวลานานสักหน่อยก็ตาม
5.พูดคุยทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นพ่อหรือแม่ควรมีโอกาสพูดคุยกับลูกทุกเรื่อง ให้ลูกรู้สึกว่าเขาสามารถปรึกษาในเรื่องที่เขาไม่สบายใจได้อย่างไม่ต้องลังเลใจ ในทางกลับกัน พ่อและแม่ควรรู้ว่าลูกคบเพื่อนคนไหน เพื่อนคนนั้นมีนิสัยอย่างไร เพราะเด็กส่วนใหญ่มักมีพฤติกรรมเลียนแบบมาจากเพื่อนที่ใกล้ชิดที่สุด
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะทอม-ดีหรือตุ๊ด-เกย์ ยังไม่มีงานวิจัยชิ้นไหนออกมาว่า ประเภทใดจะแก้ไขง่ายกว่ากัน แต่หากพ่อแม่ได้ทำสุดความสามารถแล้ว ลูกยังมีพฤติกรรมแบบเดิม สิ่งเดียวที่พ่อแม่และทุกคนในครอบครัวจะทำได้คือ "ทำใจ เข้าใจและยอมรับ" ในการตัดสินใจของเขา เพราะในที่สุดแล้วเขาก็คงมีความสุขในสิ่งที่เขาเป็น
ที่มา http://www.manager.co.th/ |
วันที่ 17 ส.ค. 2552
Advertisement
เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,168 ครั้ง เปิดอ่าน 7,147 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,276 ครั้ง เปิดอ่าน 7,150 ครั้ง เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง เปิดอ่าน 7,137 ครั้ง เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง เปิดอ่าน 7,148 ครั้ง
|
เปิดอ่าน 7,141 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,137 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,141 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,166 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,141 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,270 ☕ คลิกอ่านเลย |
เปิดอ่าน 7,154 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡
เปิดอ่าน 15,580 ครั้ง |
เปิดอ่าน 31,064 ครั้ง |
เปิดอ่าน 12,559 ครั้ง |
เปิดอ่าน 12,448 ครั้ง |
เปิดอ่าน 58,613 ครั้ง |
|
|