ทุกคนล้วนปรารถนามีสุขภาพดีกันทุกคน แต่มีไม่มากนักที่มีร่างกายแข็งแรงสมปรารถนา แต่บางคนกลับตรงกันข้าม สามวันดีสี่วันไข้ อาจจะเกิดจากเหตุผลหลายประการ ที่สำคัญที่สุดก็อยู่ที่การรักษาดูแลสุขภาพนั่นเอง บางท่านรู้เรื่องการรักษาสุขภาพดีแต่ไม่ทำ ความรู้ที่มีก็ไร้ผล ก็ต้องทนเจ็บไข้กันต่อไป
มีการคาดการณ์ว่าในปี ๒๕๗๐ หรืออีก ๑๘ ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุ(อายุ ๖๐ ปีขึ้นไป) ประมาณ ๑ ใน ๔ ของประชากรทั้งหมด อันจะทำให้ประเทศเข้าสู่สังคมของผู้สูงอายุดังเช่นประเทศตะวันตก ก็จะมีปัญหาด้านสุขภาพตามมา จึงมีการแนะนำวิธีรักษาสุขภาพกันมากขึ้น
จากคอลัมส์ "ซูม" เหหะพาทีของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ได้นำข้อแนะนำของศาสตราจารย์หง จาว กวาง จากประเทศจีน เกี่ยวกับวิธีการรักษาสุขภาพของผู้สูงอายุไว้เพื่อนำไปปฏิบัติดังนี้
๑) ข้อพีงปฏิบัติในตอนเช้า จงใช้ทฤษฎี " ๓ ครึ่งนาที " ได้แก่
..อย่ารีบลุกเร็วในเวลาตื่นนอน ขอให้นอนนิ่ง ๆ ครึ่งนาที
..ลุกขึ้นนั่งเฉย ๆ บนเตียงอีกครึ่งนาที
..จากนั่นนั่งห้อยเท้าให้เท้าแตะพื้นอีกครึ่งนาที แล้วค่อยลุก
๒) ข้อพึงปฏิบัติในหนึ่งวัน จงใช้ทฤษฎี " ๓ ครึ่งชั่วโมง " ได้แก่
...ยามเช้า ออกกำลังกายตามความเหมาะสมครึ่งชั่วโมง.
...ยามบ่าย ควรงีบอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง
...ยามค่ำ ควรเดินช้า ๆ ครึ่งชั่วโมง จะทำให้นอนหลับสบาย ร่างกายแข็งแรง สดชื่นตลอดวัน
๓) ปฏิบัติตามกฎอันเป็น ฐานราก ของมนุษย์ ได้แก่
๑. รับประทานอาหารถูกหลัก
๒. ออกกำลังกายตามความเหมาะสม
๓. เลิกบุหรี่ ลดสุรา และ
๔. ทำจิตใจให้สมดุล
๔) เขื่อมั่นในสิ่งที่ดี ๔ อย่างของมนุษย์ ได้แก่
๑. หมอดี คือตัวเราเอง
๒. ยาดี คือเวลา
๓. จิตใจดี คือจิตใจที่สงบ
๔. ออกกำลังกายดี คือ การเดิน
๕) ปฏิบัติให้เป็นกิจวัตรของชีวิต ได้แก่
๑. ทุกวันยิ้ม ๓ ครั้ง จะทำให้หน้าตาสดใส
๒. อย่ากินอิ่มเกิน ให้อิ่มแค่ ๗ - ๘ ส่วนจะแก่ช้าลง และ
๓ .ขอย้ำว่า ใจที่สงบและสมดุล ดีกว่ายาทุกชนิดในโลก
นับว่าเป็นข้อปฏิบัติที่เป็นธรรมชาติ ง่าย ๆ และไม่ต้องใช้เงิน หากผู้ที่หวังให้สุขภาพของตนแข็งแรง นำไปปฏิบัติก็จะเกิดประโยชน์แก่ตน แก่ครอบครัว ไม่ต้องเสียเงิน เสียเวลา และเสียสุขภาพจิตในการรักษาตน เข้าทำนองที่ว่า..ป้องกัน ดีกว่าแก้ เมื่อแย่ ก็จะแก้ไม่ทัน..