พ่อร้องลูกสาวหาย! ตามหาอาจารย์ม.อุบลฯ เครียดงาน-ไม่กลับบ้าน
จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีใครพบตัว น.ส.จิตรดี ลุประสงค์ อาจารย์ภาควิชาเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยา ลัยอุบลราชธานี ที่หายตัวไปอย่างลึกลับโดยไม่มีใครรู้ว่าไปอยู่ที่ไห น
น.ส.จิตรดี หรือ "อาจารย์จิตรดี" หายออกไปจากบ้านตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากที่เธอขับรถไปส่งมารดาซึ่งทำงานอยู่ที่โรงพยา บาลพระศรีมหาโพธิ์ กลางเมืองอุบลฯ หลังจากนั้นก็ไม่มีใครพบวี่แววเธออีกเลย ทำให้ นายกล้าเย็น ลุประสงค์ ซึ่งเป็นพ่อต้องออกมาประกาศตามหาลูกสาวด้วยความห่วงใ ย
อย่างไรก็ตาม งานนี้คนใกล้ชิดมั่นใจว่าน.ส.จิตรดีคงไม่ได้รับอันตร ายใดๆ บางทีอาจไปหาที่พักจิตใจอยู่ในสถานที่ใดที่หนึ่ง เนื่องจาก "จิตรดี" เป็นคนจริงจังกับชีวิต และซีเรียสเรื่องงาน บางทีอาจอยากหลบหน้าผู้คนเพื่อไปพัก แต่ทั้งนี้ทุกคนก็เป็นห่วงเป็นใย เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายขึ้นกับเธอ ซึ่งเป็นผู้หญิงคนเดียว โดยเฉพาะคนเป็นพ่อแม่ถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับเมื่อ ลูกสาวไม่ยอมติดต่อกลับ
ทุกคนห่วง "จิตรดี" เป็นอย่างมาก
เรื่องราวของน.ส.จิตรดีถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 10 ส.ค. เมื่อนายกล้าเย็น บิดาน.ส.จิตรดี วัย 32 ปี อาจารย์ภาควิชาเภสัช กรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี และเป็น อดีตผู้ช่วยคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา เดินทางเข้าพบผู้สื่อข่าวพร้อมร้องขอให้ช่วยประกาศตา มหาลูกสาวที่หายตัวไป
นายกล้าเย็นให้ข้อมูลว่า ลูกสาวมีรูปพรรณสัณฐาน สูง 171 ซ.ม. ใบหน้ารูปไข่ ผิวดำแดง ผมหยิกยาวประบ่า ขับรถมิตซูบิชิ นิวแลนเซอร์ สีควันบุหรี่ เลขทะเบียน กฉ 3814 อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ตอนสายๆ ขับรถออกจากบ้านไปส่งคุณแม่ซึ่งทำงานอยู่ที่โรงพยาบา ลพระศรีมหาโพธิ์ หลังจากนั้นก็ไม่มีใครพบเห็นเธออีกเลย
จนกระทั่งวันที่ 3 ก.ค. ลูกสาวส่งข้อ ความเข้าโทรศัพท์มือถือของคุณแม่ ข้อ ความว่า "ขอโทษด้วยที่ทำให้เป็นห่วง" และวันที่ 8 ก.ค. ก็ส่งข้อความมาถึงแม่อีกว่า "ช่วยลางานให้ด้วย สบายใจแล้วจะกลับมา" หลังจากนั้นก็ไม่ติดต่อกลับมาอีก
นายกล้าเย็นเล่าอีกว่า กลัวลูกสาวจะได้รับอันตราย เพราะก่อนหน้าจะหายไปลูกมีอาการเก็บกด ไม่ยอมพูดคุยกับใคร และเคยมีอาการคล้ายทำนองนี้เมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งหายออกจากบ้านไป แต่ครั้งนั้นครอบครัวนำตัวเข้ารับการบำบัดอาการป่วย จึงดีขึ้น
สำหรับอาการเครียดที่เกิดขึ้น น่าจะเป็นเรื่องงานที่ทำอยู่ เพราะลูกสาวเป็นคนจริงจังกับงานมาก ที่ผ่านมาได้รับมอบงานให้ช่วยประสานงานกับ ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ เภสัชกรยิปซี ซึ่งได้รับรางวัลแม็กไซไซ ในการช่วยเหลือผู้ป่วยเอดส์ในทวีปแอฟริกา ในการผลิตยาไปช่วยเหลือผู้ป่วย แต่ติดต่อกันไม่ได้ เพราะ อยู่ในช่วงที่ ดร.กฤษณาเดินทางไปแอฟริ กา จึงอาจทำให้ลูกเครียด เพราะเธอเคยมีอาการอย่างนี้มาก่อน แต่ก็เชื่อว่าลูกยังมีชีวิตอยู่ และอาจหลบไปหาที่เงียบๆ เพื่อพักสมอง
"ผมเป็นห่วงลูกสาวมาก กินไม่ได้นอนไม่หลับ โดยเฉพาะแฟนร้องไห้เป็นห่วงลูกทุกวัน ใครพบที่ไหนช่วยแจ้งเบาะแสได้ที่เบอร์ 08-9845-4055 พวก เรากำลังรอการกลับมาของลูกอยู่ และเชื่อว่าลูกยังมีชีวิตอยู่" นาย กล้าเย็นกล่าว
ขณะที่ นายบุญชัย จันทร์น้อย นักวิชาการการศึกษาคณะเภสัชศาสตร์ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานกับ น.ส.จิตรดี เล่าว่า ปกติอาจารย์จิตรดีเป็นคนตั้งใจทำงาน และทำงานหนักเพื่อคณะมาโดยตลอด กระทั่งได้รับรางวัลผู้บริ หารด้านกิจการนักศึกษาดีเด่น ประจำปีการศึกษา 2550 และก่อนจะหายตัวไปอาจารย์มีอาการซึม พูดน้อยลง ไม่อยากพบผู้คน เมื่อโทรศัพท์ไปหาก็ไม่รับสาย และหายตัวไม่เข้ามหาวิทยาลัยมานานกว่า 1 เดือนแล้ว ส่วนปัญหาที่ทำให้อาจารย์จิตรดีหายตัวในครั้งนี้น่าจ ะมาจากเรื่องงานเรื่องเดียว แต่ไม่รู้ว่าเครียดเรื่องอะไร
การหายตัวไปของน.ส.จิตรดีทำให้นายกล้าเย็นต้องเข้าแจ ้งความคนหายไว้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุบล ราชธานี โดยมีพ.ต.ท.ศรัญ นิลวรรณ รอง ผกก.สส. ช่วยออกติดตามหา พร้อม ทำเอกสารเวียนแจ้งรูปพรรณสัณฐานของน.ส.จิตรดี ไปตามสถานีตำรวจทุก แห่ง เพื่อให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตา
ไม่มีใครอยากเสียบุคลากรในแวดวงการศึกษาไปแบบนี้
อย่างไรก็ตาม การหายตัวไปในครั้งนี้คนใกล้ชิดต่างลงความเห็นเหมือน กันว่าไม่ใช่เป็นการลักพาตัวแน่นอน เพราะทุกคนรู้ว่าจุดประสงค์ของน.ส. จิตรดีคือต้องการจะหลบไปอยู่ในที่ที่สงบ ซึ่งอาจเป็นบ้านคนรู้จัก หรือตามวัดใดวัดหนึ่งที่อยู่ในป่าลึก จึงเกรงว่าอาจจะได้รับอันตรายจากเหล่ามิจฉาชีพ หรือคนร้ายที่ประสงค์ต่อทรัพย์ เนื่องจากน.ส.จิตรดีมีของมีค่าติดตัวไปด้วยจำนวนหนึ่ ง
ใครพบเห็นหรือทราบเบาะแสรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ด่วน
ที่มา คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
พงษ์สันต์ เตชะเสน เรื่อง/ภาพ
__________________