ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ความรักที่แม่ให้ มีค่าเท่าไหร่กัน?....


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,140 ครั้ง
Advertisement

ความรักที่แม่ให้ มีค่าเท่าไหร่กัน?....

Advertisement

 

อยากให้ลูกๆอ่าน...ค่ะ

รูปภาพ ดอกไม้ ดอกมะลิ มอบ ดอกมะลิ ให้เเม่ในวันเเม่ ดอกมะลิ สื่อเเทนหัวใจลูกๆ 



แผ่นดินนี้ปู่ย่าตายายสร้าง   เคยทอดร่างลงถมถิ่นแผ่นดินแม่ 
  ขอลูกไทยรักษามั่นไม่ผันแปร   เป็นไทยแท้มิใช่ไทยแต่ในนาม

(พระราชินี พระราชทาน คำขวัญวันแม่ 2552)



 เรื่องของเรื่องมันมีอยู่ว่า... บ้านหลังหนึ่ง … มีสองแม่ลูกอาศัยอยู่ด้วยกัน ส่วนพ่อนั้น ตายไปนานแล้ว แม่ต้องคอยหาเลี้ยงดูลูกน้อย จนเติบใหญ่ และส่งเสียได้เรียนหนังสือ จนจบการศึกษา 

  แต่… หลังจากลูกชายเรียนจบ มีงานทำดีๆ ก็ยังขอเงินแม่ใช้อยู่ พอแม่ถามว่า
"เงินเดือนแต่ละเดือนไปไหนเหรอลูก เหลือเก็บบ้างไหม?"... 

     คำตอบที่ได้ฟังจากปากลูกชายคือ "เที่ยวหมดแล้วครับแม่ … เงินเดือนผมก็น้อย ค่าเลี้ยงสาวยังไม่พอเลย
แม่จะเอาอะไรกับผมนักหนาเนี่ย! อย่ายุ่งกับผมได้ไหม?"

  พอแม่ได้ฟังดังนั้น ก็เงียบ !!! และก็พูดว่า "ที่แม่พูดไม่ใช่แม่อยากได้ตังค์เจ้า … แต่แม่กลัวว่าเจ้าจะไม่รู้จักใช้เงิน เผื่อยามฉุกเฉิน จะได้ไม่ต้องเดือดร้อน หรือ เผื่อลูกไม่มี ขาดเหลือ อะไรแม่จะได้ช่วยเหลือเจ้าได้ และ แม่ …" ยังไม่ทันที่แม่จะพูดจบลูกชาย ก็เดินจากไป…

  อยู่มาวันหนึ่ง . . . ลูกชายก็เดินเข้าไปหาแม่ในครัว พร้อมยื่นกระดาษที่เขียนข้อความไว้จนเกือบเต็มหน้าให้คุณแม่ของเขาอ่าน ซึ่งมีใจความว่า...

  ค่าตัดหญ้า 5.00 บาท

  ค่าทำความสะอาดห้องผม อาทิตย์นี้ 1.00 บาท

  ค่าซื้อของให้แม่ 2 .50 บาท

  ค่าดูแลน้องชาย 2.50 บาท

  ค่าเอาขยะไปทิ้ง 1.00 บาท

  ค่าได้คะแนนดี 5.00 บาท

  ค่ากวาดสนาม 2.00 บาท

  รวมค้างชำระ 19.00 บาทถ้วน

  ปล.แม่จ่ายให้ผมด้วย  (โห... ทำงานมีเงินเดือนกะเงินแค่นี้ยังขอแม่นะเนี่ย!!!! เฮ้อ...น่าเศร้าใจจริงๆ)

     
เมื่อคุณแม่อ่านเสร็จแล้วก็หยิบปากกาขึ้นมา เธอพลิกกระดาษไปด้านหลังแล้วเขียนว่า... 

  เก้าเดือนที่แม่อุ้มท้อง… ไม่คิดเงิน

  เวลาที่แม่พยาบาลลูก และสวดมนต์ให้ลูก … ไม่คิดเงิน

  ค่าที่ลูกทำให้แม่ต้องเสียน้ำตา... ไม่คิดเงิน

  ของเล่น อาหาร เสื้อผ้า พาเที่ยว... ไม่คิดเงิน

  แม้แต่เช็ดน้ำมูกให้… ไม่คิดเงินหรอกจ้ะลูก

      เมื่อรวมทั้งหมดเป็นราคาเต็มของความรัก…ไม่คิดเงินเหมือนกั

      และเมื่อลูกชายได้อ่านสิ่งที่คุณแม่เขียนไว้ ก็อึ้ง !. . . น้ำตาหยดโตก็ไหลออกมา เขาสบตากับแม่แล้วจึงพูดว่า... " แม่ครับผมรักแม่จริงๆ นะครับ" แล้วเขาก็เอาปากกาเขียนหนังสือตัวโตว่า... …จ่ายหมดแล้ว... แม่จ่ายหมดแล้ว... แต่... แต่ว่า... ลูกยังทอนให้ไม่หมดครับแม่... !!  

    (อ่านทีไรก็ซึ้งค่ะ)




กลอนวันแม่

 

การเดินทางของความรัก
มักเจอกับอุปสรรคคอยกีดขวาง
พบเจอกับความสุข ทุกข์ แสนทรมาน
ต้องพบเจอความร้าวร้าน แสนปวดใจ


อยากบอกเธอให้รู้ มีคนอยู่ข้างหลัง
ลองหันกลับไปดูแลเขาสักครั้งจะได้ไหม
คนที่เราไม่เคยกลับไปห่วงใย
คนที่คอยห่วงเราอยู่ไกลๆ ตลอดมา


อยากให้รู้คนๆ นั้น คือ พ่อ แม่
อยากให้หันกลับไปดูแลท่านบ้าง
อย่าปล่อยความรักแบบหนุ่มสาว คอยเคลือบคลาน
แล้วเราจะได้พบกับความรัก ที่ไม่ร้าวร้านตลอดไป 



         


อยากรู้ว่า แม่ของคุณ...เป็นแม่แบบใด ? แวะดูได้ที่นี่




ขอขอบคุณข้อมูลโดย คุณ อมรรัตน์ เทพกำปนาท
กลุ่มประชาสัมพันธ์  สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม

  โดยทั่วไป เมื่อพูดถึงคำว่า  "แม่" จะหมายถึง ผู้หญิงผู้ให้กำเนิดลูก หรือเลี้ยงดูลูก คำๆ นี้แม้จะเป็นเพียงคำสั้นๆ แต่ก็ให้ความรู้สึก และความหมายที่ลึกซึ้ง  ซึ่งหากจะสังเกต  เราจะพบว่า คำว่า "แม่"  ในแทบทุกชาติทุกภาษา  มักเป็นคำๆ แรกที่เด็กสามารถเปล่งเสียงเรียกออกมาได้ อันแสดงให้เห็นถึงความรัก ความผูกพันระหว่างแม่กับลูก 

  นอกจากความหมายดั่งเดิมข้างต้นแล้ว ในภาษาไทยเรา เมื่อนำคำว่า "แม่" ไปรวมกับคำอื่นๆ  ก็ยังมีความหมายแตกต่างกันออกไปอีก  ซึ่งมีผู้นิยาม และให้ความหมาย ของ "แม่" ประเภทต่างๆ ไว้อย่างน่ารัก น่าขำ ดังนี้
   

  แม่ของลูก เรียกว่า แม่บังเกิดเกล้า  / แม่ของขี้เมา  เรียก แม่โขง  / แม่ของชาวพระโขนง เรียก   แม่นาก  / แม่ของชายที่รัก  เรียก แม่ทูนหัว  / แม่ของทหาร เรียก แม่ทัพ / แม่ชอบทำกับข้าว  เรียก แม่ครัว  / แม่ด่าเจ็บแสบ เรียก แม่ค้า / แม่สอนให้ศึกษา เรียก แม่พิมพ์ / แม่เลี้ยงเราจนอิ่ม เรียก แม่โพสพ  / แม่น็อกศอกเข่าสลบ  เรียก แม่ไม้มวยไทย / แม่ชอบทำเซอร์ไพรส์  เรียก แม่เจ้าโว้ย  / แม่หาคู่ให้คนบ่อย เรียก แม่สื่อแม่ชัก /แม่ช่วยลิเกเป็นหลัก เรียก แม่ยก / แม่ของหญิงสามีตายตก เรียก แม่ม่าย /แม่มีพลังดึงดูดมากมาย เรียก แม่เหล็ก / แม่ของเรือเล็กใหญ่ เรียก แม่ย่านาง / แม่ของหญิงตัวอย่าง เรียก แม่ศรีเรือน / แม่มีมนต์คาถา เรียก แม่มด  / แม่ไหลคดเคี้ยว เรียก แม่น้ำ /  แม่จัดงานแล้วชอบชี้ เรียก แม่งาน  /และแม่ทิ้งให้      ลูกระกำ เรียก แม่ของดาวพระศุกร์  เป็นต้น

   ตัวอย่างข้างต้น แม้อ่านแล้ว จะดูตลก  ขำขัน  ไม่จริงจัง  แต่จริงๆแล้ว ก็ได้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของคำว่า "แม่" ที่ไปรวมกับคำอื่นๆ เมื่อไร  ก็จะบ่งบอกความหมาย  ทำให้เราได้รู้ถึงบทบาท หน้าที่ และสถานภาพบุคคลนั้นๆ ทันที  เช่น  คำว่า แม่ครัว แม่ค้า แม่สื่อแม่ชัก แม่ม่าย  และแม่ทัพ เป็นต้น ยกเว้น แม่โขง แม่น้ำ  และแม่เหล็ก 

   
อย่างไรก็ดี แม่ที่มีพระคุณอันยิ่งใหญ่ ผู้ให้ความรัก ความอบอุ่นและความเมตตาต่อเราอยู่เสมอ นับแต่เกิดจนเติบใหญ่ ก็คงจะเป็น แม่ผู้ให้กำเนิด หรือ "แม่บังเกิดเกล้า" ของเรานั่นเอง  ซึ่งเชื่อว่า "แม่" ของแต่ละคนก็จะมีบุคลิก และการเลี้ยงดูลูกของตนแตกต่างกันออกไป 

    แต่ในที่นี้  กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ  กระทรวงวัฒนธรรม จะขอนำเสนอ “แม่” ในแบบต่างๆมาให้อ่านกันเล่นๆ  และลองเทียบดูซิว่า  ตัวของคุณ หรือแม่ของคุณเป็น คุณแม่ ประเภทไหน หรือแบบใด ดังต่อไปนี้

   แม่มือใหม่ (หัดเลี้ยง) คุณแม่ประเภทนี้ คือ คุณแม่คนใหม่  ที่เพิ่งมีลูกเป็นคนแรก ดังนั้น จึงยังไม่คล่อง ทำอะไรไม่ค่อยถูก  ต้องคอยไปซักไปถามแม่ตัว (ย่า-ยาย) หรือแม่อื่นๆที่มีลูกมาก่อน บ้างก็เปิดตำราเลี้ยงลูก หากลูกมีอะไรผิดแปลกไปนิด ก็จะวิตกกังวล กินไม่ได้ นอนไม่หลับ แม่มือใหม่ที่ลูกยังเล็กอยู่  ส่วนใหญ่จึงน้ำหนักลดได้เร็ว เพราะอดหลับอดนอน หน้าตาอิดโรย  ขอบตาดำคล้ำ 

ขณะเดียวกันหลายคน หากเป็นแม่หัวสมัยใหม่  ก็มักต้องโต้เถียง กับคนเคยเป็นแม่มาก่อนทั้งหลาย ในเรื่องการเลี้ยงเด็ก เช่น  เมื่อเด็กปวดท้อง  คุณแม่มือใหม่ อาจพาไปหาหมอทันที  แต่คุณแม่ คุณย่า-ยาย อาจจะบอกให้ทาแค่มหาหิงค์ (คล้ายยาหม่องน้ำ) บริเวณสะดือเด็ก  ก็หายปวดแล้ว  เป็นต้น

    แม่ยอดกตัญญู  เขาบอกว่าคุณแม่ประเภทนี้ ลูกบังเกิดเกล้าใช้หรือขอให้ทำอะไรให้ คุณแม่ยอมทำให้หมด  บางครั้งลูกยังไม่ทันเอ่ยปาก แม่ก็รีบอาสาทำให้แล้ว ด้วยความรักลูก  กลัวลูกลำบาก หรือเสียใจ โดยเฉพาะกับลูกชาย คุณแม่หลายๆคนจะรักแบบทูนหัวทูนเกล้า จนลูกสาวน้อยอกน้อยใจ แต่ถ้าเป็นลูกคนเดียว 

แม่ก็มักจะตามอกตามใจจนเคยตัว พอไม่ได้ดั่งใจก็จะโกรธ จะงอนแม่ จนแม่ยอดกตัญญูต้องเอาใจ และรีบทำให้ แม่กลุ่มนี้มีไม่น้อย ซึ่งจริงๆแล้ว ควรสอนให้ลูกรู้จักช่วยเหลือตนเองและผู้อื่นบ้าง หากตามใจจนเคย จะกลายเป็นคนเอาแต่ใจตัว เป็นที่รังเกียจของญาติโยม เพื่อนฝูง เพราะคนนอก คงไม่มีใครรักลูก หรือเห็นลูกเราน่ารักเหมือนตัวเราผู้เป็นแม่แน่นอน

 แม่มากบารมี คุณแม่ประเภทนี้ มักมีเงินถุงเงินถัง สามารถบริจาคทรัพย์หรือหาเงินให้สถานศึกษาของลูกได้มาก  ทำให้เกิดความเกรงอกเกรงใจมาถึงลูก หรือไม่บางคน ตนเองหรือสามีก็มีตำแหน่งใหญ่โต มีอิทธิพล บารมีก็แผ่มาถึงลูกให้ได้รับอานิสงส์ไปด้วย ไม่ว่าจะในสถาบันการศึกษา หรือสถานที่ที่ทำงาน คุณแม่กลุ่มนี้หลายคนก็น่ารัก  น่าเคารพ  ทำให้ลูกยืดอกด้วยความภาคภูมิใจ และหลายสถานที่ก็อยากได้ลูกของคุณแม่กลุ่มนี้ไปเรียน หรือทำงานด้วย เพราะทำให้โรงเรียนหรือหน่วยงานมีชื่อ เป็นที่รู้จักไปด้วย 

 แต่คุณแม่มากบารมี ควรจะสอนลูก อย่าอวดเบ่ง อวดดี อาศัย บารมีแม่มากเกินไป เพราะจะทำให้เป็นที่หมั่นไส้ ไม่มีใครอยากคบเป็นเพื่อน หรือได้เพื่อนก็ได้ประเภทไม่จริงใจ เพราะหวังเกาะบารมีของเรา และข้อสำคัญ คุณแม่เอง ก็อย่าใช้บารมีของตนไปในทางที่ไม่ถูกไม่ควรด้วย 

 แม่แล้วแต่พ่อ คุณแม่กลุ่มนี้ มักจะเป็นแม่แบบโบราณ เป็นช้างเท้าหลัง ไมได้ทำงานมีอาชีพ จึงต้องพึ่งพาคุณพ่อแต่ฝ่ายเดียว ด้วยเหตุนี้ คุณพ่อจะว่าอย่างไร แม่ก็จะว่าไปตามนั้น โดยเฉพาะการเลี้ยงดูลูก นอกจากแม่จะกลัวพ่อแล้ว ลูกๆ ก็กลัว และเกรงพ่อไปด้วย ลูกๆ ของแม่ประเภทนี้ บางคนก็รักและสงสารแม่มาก พอโตแล้วมักจะทำอะไรให้แม่ เพื่อชดเชย แต่หลายคนก็กลายเป็นคนไม่เกรงใจแม่ และข่มแม่ตัวตามพ่อไปด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ลูกๆควรสังวรว่าไม่ควรทำเช่นนั้นกับแม่ตัว

 แม่เผด็จการ มักเป็นคุณแม่รู้ดี และคุณแม่คนเก่ง บางคนทำงานเก่ง บางคนมีความรู้ดี ดีกรีนอก ดังนั้น จึงคิดว่าตนรอบรู้ไปหมด ตัดสินใจแทน คิดแทนลูกไปหมด ลูกอยากจะออกความคิดเห็นบ้าง ก็ไม่ค่อยฟัง เพราะคิดว่าตนรู้มากกว่า อาบน้ำร้อนมาก่อน และความที่แม่ตัดสินใจให้ตลอดนี่เอง ลูกๆ ของแม่กลุ่มนี้เมื่อโตขึ้น ส่วนใหญ่จึงไม่ค่อยกล้าออกความคิดเห็น หรือไม่ค่อยกล้าตัดสินใจ เพราะกลัวผิดพลาด กลายเป็นคนไม่เชื่อมั่นในตนเอง  แม่ๆจึงควรระวังเรื่องนี้ด้วย  และก็อย่าข่มพ่อ จนลูกชายขาด "พ่อแบบที่ดี"  

 แม่สังคมสงเคราะห์ คุณแม่กลุ่มนี้ มักมีตำแหน่งทางสังคมต้องออกไปดูแล สงเคราะห์ลูกๆ หรือเด็กๆบ้านอื่นอยู่เสมอ  ส่วนลูกตัวปล่อยให้พี่เลี้ยง(จากนอก) เป็นคนเลี้ยงดู ทำให้ลูกไม่ค่อยเห็นแม่ หรือเห็นก็เห็นตามสื่อทีวี  นิตยสาร ฯลฯ  เป็นคุณแม่ที่สวยสง่า ดูดี  มีเมตตา พูดจาไพเราะ แต่ไม่ค่อยมีเวลามาพูดกับลูกตน  บางคนก็ชดเชยด้วยการให้เงิน ให้ของใช้แก่ลูก ตามใจลูก จนลูกมีเหลือกินเหลือใช้  ขาดก็แต่ "เวลา" และ "ความรัก ความอบอุ่น" จากแม่ตัวเท่านั้น

แม่ดันดี แม่กลุ่มนี้ เป็นแม่ยุคโลกาภิวัตน์นี่เอง กล่าวคือ ที่ไหนมีประกวด มีการแข่งขัน มีกิจกรรมให้ลูกได้แสดงออก  คุณแม่ดันดี  จะดันลูกๆตนสุดฤทธิ์ เพื่อให้ลูกได้อยู่ในระดับหน้า ต่อสู้ ดิ้นรน ไขว่คว้า  ปูทางให้ลูกทุกอย่างเพื่อไปให้ถึงดวงดาว ลูกบางคนก็ได้ดั่งใจ แต่บางคนเมื่อปีกกล้าขาแข็งแล้ว  ก็อาจหันกลับมาถามแม่ให้ช้ำใจอีกว่า “ทำไม แม่ไม่ถามสักคำ ว่าหนูอยากเป็น อยากทำอย่างนี้ไหม”

    แม่หวงลูก ห่วงลูก โดยทั่วไปแล้ว แม่ทุกคนก็จะหวง และเป็นห่วงเป็นใยลูกอยู่แล้ว แต่แม่กลุ่มนี้ จะเป็นมากกว่าคนอื่นเขา ตอนเล็กก็ประกบติดลูกตลอด จะไปไหนมาไหน แม่อยู่เคียงข้างไม่ห่าง แม่บางคนถ้าครูยอมให้นั่งในห้องเรียนได้ คงเรียนพร้อมลูกไปแล้ว พอโตหน่อย  ก็ยังไม่ปล่อย ลูกจะทำอะไรที่ไหน แม่ต้องรู้  ต้องอยู่ด้วยเสมอ เพราะห่วงลูกสารพัด ใครมาจีบลูก ต้องจีบแม่ให้ได้ก่อน 

 ดังนั้น คู่รักของลูกกลุ่มนี้ จึงต้องผ่านการันตีจากยอดคุณแม่ก่อน แต่ที่น่าเป็นห่วง คือ หากคู่ครองไม่รักและเอาใจลูกๆ กลุ่มนี้ เหมือนที่เคยได้รับจากแม่ตัว ในอนาคตก็อาจจะเกิดปัญหาครอบครัวได้ เพราะเรียกร้องมากเกินไป

    แม่เพื่อนซี้  หรือแม่แสนสนิท จะใกล้เคียงกับแม่กลุ่มหวงลูก แต่เป็นน้อยกว่า และมักเป็นแม่ที่มีอายุใกล้เคียงกับลูก มีความคิดอ่านทันสมัย  ค่อนข้างเป็นประชาธิปไตย  แม่ลูกต่างรับฟังความคิดเห็นกันและกัน  และพยายามพูดคุยกันทุกเรื่อง จึงเกิดความไว้วางใจกันและกัน  ไปไหนไปด้วยกัน และเพื่อนๆลูกก็รู้สึกว่า แม่เพื่อน เป็นเหมือนแม่ตัว สนิทสนมไปด้วย

    นอกจากนี้ยังมีคุณแม่นักแฟชั่น ที่ชอบแต่งตัวให้ลูกสารพัด ไม่มีตกยุคตกรุ่น คุณแม่ไฮเปอร์ ที่นอกจากตัวจะอยู่เฉยไม่เป็นแล้ว  ยังจับลูกเรียนโน่น เรียนนี่อยู่ตลอด บางคนให้ลูกเรียนเพราะอยากให้ลูกรู้สารพัด แต่บางคนให้ลูกเรียน เพราะตัวไม่ค่อยมีเวลา เลยพยายามหากิจกรรมให้ลูกทำ หรือบางคนเคยอยากเรียนอะไร แล้วไม่ได้เรียนตามที่ตั้งใจ  ก็เลยให้ลูกเรียนชดเชยความหวังของตน เป็นต้น  

    เหล่านี้ เป็นเพียงตัวอย่าง ที่คุณแม่หลายคน อาจจะเป็นแบบใดแบบหนึ่ง หรือบางคนก็อาจเป็นหลายๆ แบบในคนๆ เดียวกัน แต่ไม่ว่าจะเป็น "คุณแม่" แบบใด ก็เชื่อว่า แม่ทุกคนล้วนมีความรักที่ยิ่งใหญ่ให้กับลูกเสมอ ดังนั้น ในโอกาสวันแม่ปีนี้  ก็ขอให้ลูกๆ ทุกคน อย่าลืมไปกราบเท้าท่าน และ    กอดท่าน เพื่อให้ท่านได้รับรู้ ความรู้สึกของเราว่า  เรา "รักแม่....ที่สุดในโลก"

                                                       Photobucket

ขอบคุณที่มาข้อมูลatcloud.com/stories/56659


              

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 1712 วันที่ 11 ส.ค. 2552


ความรักที่แม่ให้ มีค่าเท่าไหร่กัน?....ความรักที่แม่ให้มีค่าเท่าไหร่กัน?....

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

เตือน 10 ภัย ปีใหม่!!!!

เตือน 10 ภัย ปีใหม่!!!!


เปิดอ่าน 7,142 ครั้ง
เลขเด็ด 1 ธันวาคม 2552

เลขเด็ด 1 ธันวาคม 2552


เปิดอ่าน 7,147 ครั้ง
คุณครูที่ดีที่สุดของผม

คุณครูที่ดีที่สุดของผม


เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง
บ้านน้ำแข็ง เย็นเจี๊ยบ

บ้านน้ำแข็ง เย็นเจี๊ยบ


เปิดอ่าน 7,143 ครั้ง
เก็บมาฝาก...จากธรรมชาติ

เก็บมาฝาก...จากธรรมชาติ


เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง
ขอบคุณนะที่เจอกัน

ขอบคุณนะที่เจอกัน


เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง
อย่าสงสารตัวเองเลย ....

อย่าสงสารตัวเองเลย ....


เปิดอ่าน 7,146 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ!!

ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ!!

เปิดอ่าน 7,137 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
อโรคา ปาร์ตี้ รายการดี หรือ รายการที่กำลังบั่นทอนสุขภาพจิตของสังคม
อโรคา ปาร์ตี้ รายการดี หรือ รายการที่กำลังบั่นทอนสุขภาพจิตของสังคม
เปิดอ่าน 7,141 ☕ คลิกอ่านเลย

48แบบทดสอบความรู้คอมพิวเตอร์ออนไลน์ (Test Online)...ยอดเยี่ยม
48แบบทดสอบความรู้คอมพิวเตอร์ออนไลน์ (Test Online)...ยอดเยี่ยม
เปิดอ่าน 7,144 ☕ คลิกอ่านเลย

อย่าปล่อยตัวเอง..พุงโต..อัมพาตจะมาเยี่ยมได้นะ..
อย่าปล่อยตัวเอง..พุงโต..อัมพาตจะมาเยี่ยมได้นะ..
เปิดอ่าน 7,146 ☕ คลิกอ่านเลย

เคล็ดลับ....ผอมสวยด้วย..ไขมัน (ฟังเพลงกินอะไรถึงสวย )
เคล็ดลับ....ผอมสวยด้วย..ไขมัน (ฟังเพลงกินอะไรถึงสวย )
เปิดอ่าน 7,143 ☕ คลิกอ่านเลย

โครงการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ของโรงเรียนสายปัญญารังสิต (บทที่3)
โครงการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม ของโรงเรียนสายปัญญารังสิต (บทที่3)
เปิดอ่าน 7,137 ☕ คลิกอ่านเลย

คนที่มีความสุขมากที่สุดในโลก
คนที่มีความสุขมากที่สุดในโลก
เปิดอ่าน 7,138 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

ครูอุดรไอเดียแหวกสุดฮา ชวนเต้นยอดวิวเป็นแสน!
ครูอุดรไอเดียแหวกสุดฮา ชวนเต้นยอดวิวเป็นแสน!
เปิดอ่าน 34,223 ครั้ง

"ข่าลิง" คืออะไร?
"ข่าลิง" คืออะไร?
เปิดอ่าน 20,085 ครั้ง

รับชมย้อนหลังการประชุมทางไกล การสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการครูฯ
รับชมย้อนหลังการประชุมทางไกล การสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการเลื่อนเงินเดือนของข้าราชการครูฯ
เปิดอ่าน 80,455 ครั้ง

ขนุนอินโดนีเซีย
ขนุนอินโดนีเซีย
เปิดอ่าน 11,667 ครั้ง

พระเมรุมาศ พระเมรุ และเมรุ สมัยกรุงรัตนโกสินทร์
พระเมรุมาศ พระเมรุ และเมรุ สมัยกรุงรัตนโกสินทร์
เปิดอ่าน 14,517 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ