ชนกลุ่มแรกที่ทำไร่ยาสูบและสูบมันด้วยก็คือชาวอินเดียนแดงที่อยู่ในอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้
ตอนที่คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส และพรรคพวกเดินทางไปสำรวจอเมริกานั้น เขาพบว่าชาวอินเตียนแดงสูบยากันอยู่แล้วและการสูบก็มีจุดมุ่งหมายที่แตกต่างกันอีกด้วย เช่น พวกเขาสูบไปป์เพื่อแสดงมิตรภาพต่อกัน นอกจากนั้นชาวอินเดียนแดงยังสูบบุหรี่เพราะเชื่อว่าใบยาสูบมีฤทธิ์เป็นยาและสามารถป้องกันโรคได้
ยาสูบเริ่มแพร่หลายเข้ามาในยุโรปในศตวรรษที่ ๑๖ ด้วยความเชื่อที่ว่ามันเป็นยารักษาโรค ชาวยุโรปเริ่มต้นจากการสูบไปป์ซึ่งถูกนำมาเผยแพร่โดยนาย Ralph Lane ผู้ว่าการรัฐเวอร์จิเนียคนแรก
ปี ค.ศ. ๑๕๘๖ เขานำไปป์ของชาวอินเดียนแดงมาเป็นของกำนัลแด่ท่าน Sir Walter Raleigh พร้อมกับสอนวิธีการสูบให้แก่ท่าน จวบจนกระทั่งปี ค.ศ. ๑๖๑๙ คนอังกฤษเริ่มผลิตไปป์ขึ้นมาใช้เองกันอย่างแพร่หลาย ถึงขั้นมีการก่อตั้งเป็นสมาคมผู้ผลิตไปป์ขึ้น
ปัจจุบันคนนิยมสูบใบยาสูบในรูปของบุหรี่มากกว่าไปป์ แต่การสูบบุหรี่นั้นก็เกิดขึ้นมานานแล้วเช่นกัน นักสำรวจชาวสเปนในยุคแรก ๆ ได้พบเห็นชาวพื้นเมืองในแถบเม็กซิโกและหมู่เกาะอินดีสตะวันตกสูบยาสูบ โดยใช้เปลือกของต้นปาล์มและเปลือกข้าวโพดมวนใบยาสูบ
ชาวสเปนเป็นชาติแรกที่ใช้กระดาษมวนใบยาสูบ การสูบบุหรี่แบบนี้แพร่หลายมากในประเทศแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและทะเลดำ โดยเฉพาะประเทศที่ได้รับอิทธิพลจากชาวตุรกีทหารอังกฤษที่ไปรบในแหลมไครเมีย (Crimea) เมื่อปี ค.ศ. ๑๘๕๔-๑๘๕๖ ติดใจในรสชาติของบุหรี่ของชาวตุรกี จึงนำกลับบ้านที่อังกฤษ หลังจากนั้นสองถึงสามปีโรงงานผลิตบุหรี่แห่งแรกก็เปิดขึ้นในกรุงลอนดอน
“ข้อมูลสนับสนุนจากหนังสือ ๑๐๘ ซองคำถาม / สำนักพิมพ์สารคดี”
ที่มา www.sanook.com