การอาราธนาพระเครื่อง-วัตถุมงคล
พระเครื่องหมายถึงวัตถุที่เป็นรูปพระ ซึ่งอาจเป็นรูปพระพุทธเจ้าก็ได้ รูปพระสงฆ์ก็ได้ เรียกว่า พระเครื่อง ส่วนวัตถุมงคลเป็นคำรวมอาจใช้เรียกพระเครื่องด้วยหรือของมงคลอย่างอื่นด้วย เช่น ตะกรุด ผ้ายันต์ แหวนพระ สายสิญจน์ เป็นต้น
การอาราธนาพระเครื่องเป็นสิ่งจำเป็น เพราะจะเป็นการปลุกจิตของเราให้ตื่นตัวขึ้นรองรับสัมผัสกับคุณพระที่บรรจุอยู่ภายใน เชื่อมโยงจิตของเรากับจิตของผู้เสกให้ถึงกัน และเป็นการรับรู้ว่าวันนี้เราจะแขวนหรือพกพาพระอะไร เมื่อต้องการความช่วยเหลือย่อมระลึกถึงได้ถูกองค์ มีขั้นตอนอันควรปฏิบัติ ดังนี้
นมัสการคุณพระพุทธเจ้าก่อนว่า
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ ฯ (3 จบ)
กำหนดจิตให้เข้าถึงพระรัตนตรัยโดยสวดว่า
พุทธัง อายุวัฑฒะนัง ชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง อายุวัฑฒะนัง ชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง อายุวัฑฒะนัง ชีวิตัง ยาวะนิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ
สวดอาราธนาคุณพระรัตนตรัยเป็นกลาง ๆ ว่า
พุทธังอาราธะนานัง ธัมมังอาราธะนานัง สังฆังอาราธะนานัง อุกาสะอาราธะนานังกะโรมิ ฯ
สวดพระคาถากำกับเฉพาะของวัตถุมงคลแต่ละสำนัก ยกตัวอย่าง เช่น
หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด สวดว่า นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา 3 จบ
หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ สวดว่า นะโม พรหมปัญโญ 3 จบ
หลวงปู่เกษม เขมโก สวดว่า เขมะกะภิกขุง อาราธะนัง วันทามิหัง 3 จบ
หลวงพ่อกัสสปะมุนี สวดว่า นะโม อะโห โอม กัสสโปมุนิ อาราธะนัง 3 จบ
ดังนี้เป็นต้น ฉะนั้น เมื่อจะเช่าหรือรับวัตถุมงคลมาควรทราบคาถาที่ใช้บูชาด้วยจะเป็นการดี
คำอธิษฐาน
ด้วยอานุภาพแห่งพระรัตนตรัยขอให้บังเกิดผลคือ
พระเมตตา พระมหาเสน่ห์ พระมหานิยม พระอุดมลาภ พระมหาลาภ พระมหาอุด อยู่ยงคงกระพันชาตรี แคล้วคลาดอุปัทวันตราย หายตัวได้ ฯ
อัญเชิญคุณพระรัตนตรัยและความศักดิ์สิทธิ์เข้าตัว สวดว่า
สัพเพ พุทธา สัพเพ ธัมมา สัพเพ สังฆา พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพะลัง อะระหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิสัพพะโส
พุทธังอธิษฐามิ ธัมมังอธิษฐามิ สังฆังอธิษฐามิ ฯ
และเมื่อกลับบ้านจะพักผ่อนนอนหลับ ครั้นถอดสร้อยหรือวัตถุมงคลออกจากตัวนั้นให้กล่าวคำขมาโทษเสียก่อน
ด้วยในแต่ละวันเราอาจบ้วนน้ำลายข้ามศีรษะท่าน กล่าวคำหยาบข้ามศีรษะท่าน บางคนก็ดื่มเหล้าดื่มเบียร์ข้ามท่าน จึงควรเอาพระออกจากตัวหรือกลับสร้อยพระไปไว้ข้างหลังก่อนดื่มสุรา เป็นการถวายความเคารพทางหนึ่งด้วย
ลองตรึกตรองว่า ถ้าพระพุทธเจ้าก็ดี พระสงฆ์องค์ที่เรานับถือนักก็ดี มานั่งอยู่ตรงหน้า เราจะกล้าถ่มน้ำลายข้ามศีรษะท่านหรือไม่ จะกล้ายกแก้วเหล้าข้ามท่านหรือไม่ หากเราให้ความยำเกรงในรูปเคารพของท่านนั้น ๆ เสมอด้วยองค์จริงแล้ว รับรองได้ว่าพระเครื่องหรือวัตถุมงคลที่บูชาอยู่จะแสดงอิทธิคุณออกมาให้ท่านได้ประจักษ์ชัดแก่ตัวท่านเอง
อาศัยเหตุที่เราอาจประมาทล่วงเกินท่านอย่างนี้จึงต้องขอขมาเมื่อถอดเก็บ มิใช่ถอดแล้วถอดเลยทำอย่างท่านไม่มีความสำคัญ เมื่อทำจิตกระด้างต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์บ่อย ๆ ก็เป็นธรรมดาอยู่เองที่เมื่อแขวนแล้วหลายคนไม่เคยพบอภินิหารหรืออานุภาพใด ๆ จากพระเครื่องเลย
คำขอขมาพระรัตนตรัย
อุกาสะ ทวาระตะเยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราทัง ขะมะถะ เม ภันเต ฯ
ลูก...(ชื่อตนเอง)...ขอขมาโทษที่เคยล่วงเกินพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ในตลอดทั้งวันนี้
ขอพระรัตนตรัยโปรดงดเว้นซึ่งโทษที่ล่วงเกินอันนั้น ขอกราบขอบพระคุณที่เมตตาคุ้มครองลูก...(ชื่อ)...มาตลอดวันและขอพระเมตตาคุ้มครองลูกตลอดคืน อย่าได้มีภยันตรายใด ๆ มากล้ำกรายได้เลย ขอความสุขสวัสดีจงมีแก่ลูกตลอดกาลเทอญ ฯ.
ที่มา navaraht.com
http://board.palungjit.com/f17/การอาราธนาพระเครื่อง-และ-วัตถุมงคล-198621.html