วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ (12 สิงหาคม)
วันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ
12 สิงหาคมของทุกปี
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถทรงเป็นพระธิดาองค์ใหญ่ในพระวรวงศ์เธอกรมหมื่นจันทบุรีสุรนาถ และหม่อมหลวงบัวกิติยากร
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชสมภพ ณบ้านพักของท่านพระยาวงษานุประพันธ์ ถนนพระราม 4 กรุงเทพมหานครในวันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ.2475 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานนามว่า"สิริกิติ์"
พระองค์ทรงศึกษาในชั้นอนุบาลที่โรงเรียนราชินีล่างแล้วย้ายไปศึกษาต่อที่โรงเรียนเซ็นต์ฟรังต์ ซีสซาเวียร์ตำบลสามเสนเมื่อมีพระชนมายุได้ 16 พรรษาได้เสด็จตามพระราชบิดาซึ่งไปดำรงตำแหน่งแห่งเอกอัครราชทูตประจำกรุงปารีสและโคเปนเฮเกน เดนมาร์กและทรงศึกษาด้านภาษาอังกฤษและฝรั่งเศสเป็นอย่างดี
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชครั้งแรก ณ ฟองเทนโบล ประเทศฝรั่งเศสเมื่อปี พ.ศ.2492 จนกระทั่งถึงวันที่ 19 กรกฏาคม พ.ศ.2492 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ทรงประกอบพิธีหมั้นกับสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถขึ้น ณ กรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ
วันที่ 28 เมษายน พ.ศ.2493 ได้จัดพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสขึ้นในวังสระปทุมพร้อมทั้งได้มีพระราชโองการดำรัสให้สถาปนาหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์เป็นสมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ครั้นถึงวันที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ.2493 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงประกอบพระราชพิธีบรมราชาภิเษกทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาสมเด็จพระราชินีให้ทรงฐานันดรเพิ่มขึ้นเป็นสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ
วันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ.2499 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชศรัทธาปสาทะในพระพุทธศาสนาได้ทรงผนวชสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีได้ทรงเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเป็นผลดีทุกประการ ต่อมาได้ทรงรับการสถาปนาขึ้นเป็น"สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ"นับเป็นสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถองค์ที่สองแห่งพระบรมราชวงศ์จักรี
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถได้ทรงประกอบพระราชกรณียกิจด้วยการตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปทุกหนทุกแห่งทรงรับทราบทุกข์สุขของราษฎร ได้ทรงหาทางแก้ไข เพื่อให้ราษฎรได้กินดีอยู่ดีด้วยการพระราชทานพระราชดำริเป็นโครงการอาชีพเสริมโดยต้นเป้นครั้งแรกที่กลุ่มแม่บ้านหุบกะพง อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
โครงการอาชีพเสริมได้แพร่หลายไปในภาคต่าง ๆทั่วประเทศจึงเป็นที่รับทราบกันอย่างกว้างขวางจึงได้มีผู้มีจิตศรัทธาทูลเกล้าฯถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศลเพื่อใช้จ่ายในกิจการเหล่านี้ และได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ก่อตั้งมูลนิธิขึ้นในพ.ศ. 2519 พระราชทานชื่อว่า"มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพพิเศษในพระบรมราชินูปถัมภ์"เพื่อสนับสนุนการประดิษฐ์ศิลปะพื้นบ้านให้เป็นอาชีพเสริมแก่ชาวไร่ชาวนาในยามว่างจากฤดูทำไร่ทำนา
ได้ทรงริเริ่มโครงการตามพระราชดำริที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอีกด้วยเช่น
1. โครงการป่ารักน้ำ ณ ตำบลส่องดาว อำเภอส่องดาวจังหวัดสกลนคร
2. โครงการอนุรักษ์เต่าทะเล ที่เกาะมัน อำเภอแกลงจังหวัดระยอง
3. โครงการสวนสัตว์ธรรมชาติภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ
4. โครงการศูนย์เพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์สัตว์ป่าที่ช่องกล่ำบน จังหวัดสระแก้วและที่โคกไม้เรือ จังหวัดนราธิวาส
5. โครงการสวนสัตว์เปิด ศูนย์ป่าตองจังหวัดแม่ฮ่องสอน
นอกจากนี้ยังทรงปฏิบัติพระราชกิจเกี่ยวข้องกับต่างประเทศ อาทิการต้อนรับประมุขของนานาประเทศที่มาเยือนประเทศไทย และเสด็จไปเยี่ยมเยียนประเทศต่างๆ อันเป็นการผูกสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศอันก่อให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศไทยในอนาคต
เมื่อทรงว่างเว้นจากพระกรณียกิจดังกล่าวจึงจะมีเวลาว่างสำหรับถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และทูลกระหม่อมทุกพระองค์ทรงเป็นพระมารดาที่น่าเคารพของทูลกระหม่อมพระองค์ทรงอบรมทูลกระหม่อมด้วยพระองค์เองตามแบบไทย ให้รู้จักเคารพเชื่อฟังผู้ใหญ่และหัดทรงงานด้วยพระองค์เอง
ด้วยพระกรณียกิจของพระองค์ท่านได้ก่อให้เกิดประโยชน์แก่พสกนิกรชาวไทยและประเทศชาติอย่างใหญ่หลวงจึงถือเอาวันที่ 12 สิงหาคมอันเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระบรมราชินีนาถเป็นวันสำคัญของไทย