|
อยากจัดสวนน้ำที่เข้ากันได้ดีกับสวนแบบโมเดิร์น ควรจัดอย่างไร
|
|
รูปแบบสวนโมเดิร์นโดดเด่นที่ความเรียบง่าย ออกแบบโดยใช้เส้นสาย รูปร่างและรูปทรงเรขาคณิตเป็นหลัก ทำให้ภาพรวมของสวนออกมาคล้ายงานกราฟิกมากกว่าการจำลองบรรยากาศธรรมชาติมาไว้ในบ้าน ประยุกต์ใช้วัสดุสมัยใหม่มาเป็นองค์ประกอบของสิ่งก่อสร้างในสวน เป็นสวนที่เน้นงานฮาร์ดสเคปมากกว่าซอฟต์สเคป ทำให้ตัดปัญหาเรื่องการดูแลรักษาต้นไม้ออกไปได้ จึงเป็นสวนที่น่าจะเหมาะกับชีวิตคนเมืองในยุคนี้ นอกจากนี้การใช้งานพื้นแข็งเข้ามาเป็นองค์ประกอบหลักของสวนยังมีส่วนช่วยให้สวนมีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น แม้ว่าพื้นที่จัดสวนจะมีขนาดเล็กแต่ก็สามารถออกแบบจัดการให้เกิดการใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่า มีการนำแนวคิดเรื่องการเชื่อมต่อพื้นที่ภายในและภายนอกบ้านให้มีความต่อเนื่องถึงกันเข้ามาใช้ เพื่อให้ผู้ใช้งานไม่เกิดความรู้สึกอึดอัด จึงเป็นรูปแบบสวนที่เหมาะกับบ้านร่วมสมัยหรือกึ่งโมเดิร์น ไปจึงถึงบ้านแบบโมเดิร์นนั่นเอง
เมื่อพอจะเห็นภาพแล้วว่าสวนโมเดิร์นมีภาพรวมเป็นอย่างไร หากต้องการจัดสวนน้ำก็น่าจะพอนึกภาพออกได้ว่ารูปแบบของสวนน้ำที่เหมาะกับสวนโมเดิร์นควรมีหน้าตาอย่างไร สวนน้ำที่เหมาะกับสวนโมเดิร์นควรเน้นบ่อน้ำที่มีรูปร่างเรขาคณิต มีการวางรูปแบบผังสวนเป็นรูปร่างแบบกราฟฟิกมากกว่าที่จะเป็นแบบฟรีฟอร์ม ดูเป็นธรรมชาติ หากต้องการมีน้ำตกประกอบก็ควรเป็นน้ำตกประดิษฐ์ที่ดูเรียบๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นน้ำตกกำแพงติดผนัง อาจก่อผนังกำแพงขึ้นมาอย่างง่ายๆ กรุผนังด้วยวัสดุสมัยใหม่ เช่น แผ่นเหล็กสแตนเลส กระจก อะคริลิคใส หรือแม้แต่การก่อซีเมนต์เปลือยขัดมันก็สามารถเข้ากันได้ดี ช่องน้ำล้นออกมาก็สามารถออกแบบให้มีรูปแบบแตกต่างกันไป ซึ่งทั้งหมดนี้เจ้าของบ้านควรเลือกใช้วัสดุและองค์ประกอบสวนให้เหมาะกับรูปแบบและบรรยากาศโดยรวมของตัวบ้านด้วย
อยากได้น้ำตกในสวน แต่ไม่แน่ใจว่าน้ำตกแบบไหนจะเหมะกับสวนที่บ้านมากกว่ากันระหว่างน้ำตกธรรมชาติ กับน้ำตกสมัยใหม่ติดผนัง
ปัจจุบันน้ำตกในสวนมีรูปแบบที่นิยมกันอยู่ทั่วไป 2 แบบ คือ น้ำตกธรรมชาติกับน้ำตกผนัง
น้ำตกธรรมชาติ
เป็นน้ำตกที่จำลองหรือเลียนแบบน้ำตกธรรมชาติออกมาให้ใกล้เคียงมากที่สุด โดยวางตกแต่งหินก้อนธรรมชาติให้เรียงสลับเป็นชั้นๆไปตรงบริเวณฐานน้ำตก เพื่อให้น้ำไหลตกลดหลั่นลงมาคล้ายกับน้ำตกที่พบเห็นในสภาพธรรมชาติ โดยซ่อนท่อจ่ายน้ำไว้ที่บริเวณหัวน้ำตก มีบ่อน้ำรูปร่างฟรีฟอร์มเป็นองค์ประกอบ และหากต้องการเลี้ยงปลาก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเตรียมระบบบ่อกรองไว้ในบริเวณเดียวกัน น้ำตกธรรมชาติจึงต้องใช้พื้นที่พอสมควร นอกจากนี้การจัดสวนประกอบน้ำตกแบบธรรมชาติก็ต้องเป็นสวนที่มีรูปแบบเหมาะต่อกัน เช่นสวนแบบทรอปิคัล เน้นพรรณไม้ใบซึ่งสามารถทนร่มได้ และชอบสภาพชุ่มชื้น
น้ำตกผนัง
น้ำตกผนังเป็นน้ำตกที่ประยุกต์ขึ้นมาสำหรับสวนสมัยใหม่ และสวนที่มีพื้นที่จำกัด เนื่องจากไม่ต้องอาศัยพื้นที่มากนักสำหรับการทำฐานน้ำตก เพียงแค่ก่อผนังแนวตั้งขึ้นมา แล้วเดินท่อน้ำซ่อนอยู่ด้านหลัง เตรียมช่องน้ำล้น และบ่อน้ำเล็กๆที่สามารถรับน้ำที่ตกลงมาได้อย่างเหมาะสมกัน เราก็จะได้ยินเสียงและได้สัมผัสไอเย็นจากน้ำแล้ว ส่วนการจัดสวนและต้นไม้ประกอบสามารถจัดได้หลายรูปแบบ ไม่จำเป็นว่าน้ำตกผนังแบบโมเดิร์นจะต้องเข้ากับการจัดสวนสมัยใหม่เท่านั้น เพราะบางครั้งสวนธรรมชาติก็เข้ากันได้ดีกับรูปแบบน้ำตกที่เรียบง่าย
หากต้องตัดสินใจเลือกว่าจะทำน้ำตกแบบไหนดี อยากแนะนำให้คิดถึงความพอใจของทุกคนในบ้านก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นคงต้องมาดูว่ารูปแบบที่ชอบนั้นเหมาะกับสถาปัตยกรรมของตัวบ้านหรือไม่ งบประมาณและพื้นที่ที่มีอยู่ เพื่อให้ทุกคนในบ้านได้ออกมาใช้งาน พักผ่อนกับมุมน้ำตกนั้นได้อย่างเต็มที่
การเลือกขนาดของปั๊มน้ำให้เหมาะกับงานระบบน้ำตก-น้ำล้นในสวน
ปั๊มน้ำทั่วไปที่ใช้กับงานน้ำตก-น้ำล้นในสวน ส่วนใหญ่เป็นปั๊มน้ำที่แช่อยู่ในน้ำ ซึ่งมีขนาดแรงดันเหมาะสมและเพียงพอกับการใช้งานน้ำตกและน้ำล้นในสวนบ้านพักอาศัย ปั๊มน้ำที่นิยมเลือกใช้มี 2 แบบ ได้แก่ ปั๊มน้ำสำหรับตู้ปลา และปั๊มไดรโว่
ปั๊มน้ำสำหรับตู้ปลา มีขนาดเล็ก เคลื่อนย้ายและติดตั้งสะดวก มีกำลังและแรงดันต่ำกว่า จึงเหมาะกับการทำน้ำตก-น้ำล้นขนาดเล็ก มีระยะความสูงจากพื้นไม่เกินกว่า 50-60 เซนติเมตร
ปั๊มน้ำไดรโว่ มีขนาดกำลังแตกต่างกันไป ซึ่งสามารถพิจารณาได้จากแรงม้าของตัวปั๊ม ที่วางขายกันอยู่ทั่วไปมีขนาดตั้งแต่ ½ , 1, 1½ , 2 หรือ 3 แรงม้า แรงม้าแต่ละขนาดเหมาะกับน้ำตกที่มีระยะความสูงแตกต่างกันไป รวมทั้งขนาดความลึกและระยะความยาวของท่อประปาที่ใช้ หากปั๊มน้ำใช้กับหัวน้ำตกเพียงอย่างเดียว ปั๊มขนาด 1 แรงม้าก็อาจจะพอเพียงแล้ว แต่ถ้าปั๊มน้ำนั้นต้องรองรับการใช้งานสำหรับหัวพ่นฟองอากาศ และหัวน้ำพุก็อาจจะต้องเพิ่มกำลังแรงม้าของปั๊มน้ำขึ้นมาเป็น 2 หรือ 3 แรงม้าก็ได้ นอกจากจะดูว่ากำลังแรงม้าเหมาะกับการใช้งานอย่างไรแล้ว อาจจะต้องพิจารณาด้วยว่าในการใช้งานระยะยาวนั้นสิ้นเปลืองค่าไฟฟ้าแตกต่างกันอย่างไรการใช้ปั๊มน้ำขนาด 2 แรงม้า 1 ตัว ย่อมสิ้นเปลืองค่าไฟฟ้าน้อยกว่าการใช้ปั๊มน้ำขนาด 1 แรงม้า 2 ตัว บางครั้งจึงเลือกใช้ปั๊มน้ำขนาดแรงม้าที่สูงไว้ก่อน แล้วติดตั้งวาล์วปรับแรงดันของน้ำให้ไหลออกมาได้จังหวะสวยงามเหมาะสมกับภาพรวมของน้ำตก-น้ำล้นนั้นอีกที
พรรณไม้ที่เหมาะกับสวนน้ำรูปแบบต่างๆ
ในการเลือกใช้พรรณไม้สำหรับการจัดสวนน้ำนั้น คงต้องพิจารณาลักษณะนิสัยของพรรณไม้ก่อนเป็นอันดับแรก พรรณไม้เหล่านั้นต้องสามารถเจริญเติบโตได้ในสภาพชื้นแฉะ มีน้ำท่วมขัง ไม่ว่าจะเป็นไม้ยืนต้น ไม้พุ่ม ไม้คลุมดิน รวมไปถึงไม้น้ำ และในสภาพธรรมชาติพรรณไม้ที่อยู่รอบสระน้ำหรือน้ำตกส่วนใหญ่เป็นไม้ใบมากกว่าไม้ดอก
รูปร่างและผิวสัมผัสของพรรณไม้ที่เหมาะกับสวนน้ำ ส่วนใหญ่ควรเป็นพรรณไม้ที่มีผิวสัมผัสละเอียด ไม่ว่าจะเป็นไม้ต้น ไม้พุ่ม ไม้คลุมดิน ควรเลือกที่มีขนาดใบละเอียดเล็ก เช่น หลิว ไทรชนิดต่างๆ โมก แก้ว แต่บางครั้งก็พบว่าไม้ต้นที่มีรูปร่างกิ่งก้าน และรูปทรงของใบสวยงาม โดดเด่น ก็เหมะสมเช่นกัน เช่น ปาล์มขนาดเล็ก จั๋ง ตีนเป็ดน้ำ น้ำเต้าต้น หรือแม้แต่ลั่นทมก็สามารถนำมาใช้ประกอบการจัดสวนน้ำได้
นอกจากนี้พวกที่มีเส้นใบเรียวยาวก็ยังให้ความรู้สึกที่เข้ากันได้กับบรรยากาศของสวนน้ำด้วย เช่น เฮลิโคเนีย ขิงแดง ดาหลา เอื้องหมายนา พลับพลึง เตยหอม ว่านน้ำ หลิวใบ เฟินชนิดต่างๆ ว่านสี่ทิศด่าง กำแพงเงิน เศรษฐีไซ่ง่อน ซุ้มกระต่าย หนวดปลาดุกแคระ
ส่วนไม้น้ำมีให้เลือกใช้มากมายหลายชนิด กลุ่มไม้น้ำที่ให้ดอกสวยงามอย่างเช่น บัว อเมซอน คล้าน้ำ อาจจะเหมาะกับสวนป่า สวนธรรมชาติ สวนทรอปิคัล หรือสวนบาหลี แต่หากเป็นไม้น้ำที่ทรงพุ่มโดดเด่น มีเส้นใบเรียวยาว คล้ายหญ้า เมื่อนำมาปลูกเป็นไม้น้ำกระถางก็จะเหมาะกับสวนน้ำที่มีน้ำตกผนังสมัยใหม่มากกว่า ปัจจุบันนี้มีผู้นำไม้น้ำจากป่าชายเลนมาขายเป็นไม้น้ำกระถางอีกด้วย ไม้น้ำจากป่ายชายเลนนี้ เมื่อปลูกเลี้ยงไปได้ระยะหนึ่งจะมีรากบริเวณโคนต้นสวยงาม เป็นไม้ประดับสวนน้ำที่น่าสนใจอีกกลุ่ม