ผอ.สถาบันวิจัยดาราศาสตร์ฯ เผยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงสนพระทัยปรากฏการณ์สุริยุปราคา ขณะเสด็จฯเมืองจินชาน ประเทศจีน ส่วนคนกรุงผิดหวังท้องฟ้าปิด-ฝนโปรย...
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 06.00 น. วันนี้ (22 ก.ค.) ที่สนามฟุตบอลโรงเรียนเทพศิรินทร์ กทม. สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับโรงเรียนเทพศิรินทร์ และสำนักงานเขตป้อมปราบฯ จัดกิจกรรม "สุริยุปราคาเหนือฟ้าเมืองไทย 22 กรกฎาคม 2552" โดยมีการจัดนิทรรศการและกิจกรรมทางดาราศาสตร์และร่วมสังเกตปรากฏการณ์สุริยุปราคา โดยนำกล้องโทรทรรศน์กว่า 10 ตัว โซล่าสโคป ซึ่งเป็นอุปกรณ์ดูดวงอาทิตย์แบบสะท้อน จำนวน 4 ตัว มาตั้งไว้กลางสนามให้ผู้สนใจได้ส่องดูดวงอาทิตย์
นอกจากนี้ สมาคมดาราศาสตร์ไทยนำกล้องดูดาวที่ได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มาเปิดโอกาสให้ผู้สนใจได้ชมความงามของปรากฏการณ์นี้ด้วย รวมทั้งการสาธิตวิธีการดูสุริยุปราคาด้วยฟิล์มเอกซ์เรย์ แผ่นดีวีดี และมีการแจกแว่นตาดูดวงอาทิตย์ให้กับผู้เข้าร่วมงานอีกด้วย โดยมี น.ส.ศิรามาศ โกมลจินดา ผู้เชี่ยวชาญด้านดาราศาสตร์ และอาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์ ม.เชียงใหม่ บรรยายให้ประชาชน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นนักเรียนของโรงเรียนเทพศิรินทร์เข้าร่วมชมปรากฏการณ์ธรรมชาติที่นานๆ ครั้งจะมีให้เห็นฟังอย่างใจจดใจจ่อ
อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลา 07.00 น. ปรากฏว่าบนท้องฟ้ามีเมฆจำนวนมากปกคลุม จนไม่สามารถมองเห็นดวงอาทิตย์แม้แต่น้อย แต่ผู้เข้าร่วมชมยังคงรอคอยต่อไป จนกระทั่งเวลา 08.00 น. ได้เกิดฝนตกโปรยปรายลงมา เจ้าหน้าที่ต่างพากันรีบเก็บอุปกรณ์ดูดวงอาทิตย์ เพราะเกรงว่าจะเสียหาย ทำให้ผู้ที่ตั้งหน้าตั้งตารอคอยต่างพากันผิดหวังอย่างยิ่ง
น.ส.ศิรามาส โกมลจินดา ผู้เชี่ยวชาญด้านดาราศาสตร์ กล่าวว่า ครั้งนี้เป็นสุริยุปราคาเต็มดวงที่มองเห็นได้นานที่สุดในรอบศตวรรษที่ 21 โดยจีนเห็นนานถึง 6 นาที 39 วินาที ส่วนไทยนั้นเห็นเพียงบางส่วนเท่านั้น สามารถมองเห็นในเวลา 07.06 -09.08 น.แต่น่าเสียดายที่ กทม. มองไม่เห็นเพราะท้องฟ้าปิดและมีฝนตกตลอดทั้งช่วงเช้า รู้สึกเสียดายแทนคน กทม.ที่พลาดชมปรากฏการณ์ครั้งนี้ มีเพียงผู้โดยสารบนเครื่องบินที่บินในช่วงเวลาเกิดสุริยุปราคามีโอกาสมองเห็น เพราะอยู่เหนือเมฆฝน โดยเฉพาะเที่ยวบินไปทางทิศตะวันออกจะมองเห็นได้นานขึ้น เพราะอยู่ในแนวคราสพอดี อย่างไรก็ดี ทราบว่าที่ จ.เชียงราย สามารถมองเห็นได้ชัดเจน
ผู้เชี่ยวชาญด้านดาราศาสตร์ กล่าวว่า แม้ครั้งนี้จะไม่สามารถมองเห็นได้ แต่ถือเป็นเรื่องดีที่ช่วยกระตุ้นให้คนมาสนใจดาราศาสตร์มากขึ้น และเข้าใจว่าเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ และชาวไทยยังมีโอกาสชมปรากฏการณ์นี้อีกครั้งในวันที่ 15 ม.ค. 2553 ซึ่งเป็นสุริยปราคาบางส่วนเช่นกัน แต่เชื่อว่าจะเห็นได้ชัดเจนเนื่องจากเกิดในช่วงฤดูหนาวและในเวลา 14.00-16.00 น. โดยเกิดขึ้นในประเทศพม่า และ จ.แม่ฮองสอนจะมองเห็นถึง 80% ส่วน กทม.เห็น 20% ส่วนสุริยุปราคาแบบเต็มดวงที่จะสามารถมองเห็นได้เต็มดวงในเมืองไทยจะเกิด ขึ้นอีกครั้งใน 61 ปีข้างหน้า หรือในวันที่ 11 เม.ย. 2613 ซึ่งเหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อปี 2538
ผู้สื่อข่าวถามว่า ปรากฏการณ์นี้ถือเป็นลางร้ายของประเทศหรือไม่ น.ส.ศิรามาส กล่าวว่า เป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล แต่ในทางดาราศาสตร์ถือเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่พบทุกปี ไม่ใช่เรื่องแปลก และหลังจากการเกิดสุริยุปราคาแล้วจะทำให้เกิดคลื่นสึนามิหรือแผ่นดินไหว อย่างที่มีข่าวลือออกมานั้น ตรงนี้ไม่มีหลักฐานอะไรยืนยัน สุริยุปราคาเกิดจากการเรียงตัวของดวงดาว แต่สึนามิเป็นการเคลื่อนไหวของเปลือกโลก ซึ่งไม่น่าจะเกี่ยวข้องกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ระหว่างรอชมปรากฏการณ์ดังกล่าวที่สนามฟุตบอลโรงเรียนเทพศิรินทร์อยู่นั้น นายบุญรักษา สุทรธรรม ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์ฯ ซึ่งตามเสด็จฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่เสด็จฯ ทอดพระเนตรสุริยุปราคาที่เมืองจินชาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ที่ประเทศจีนมองเห็นปรากฏการณ์ดังกล่าวชัดเจน มีนักดาราศาสตร์จากทั่วโลกมาเฝ้าดูปรากฏการณ์ครั้งนี้จำนวนมาก และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงสนพระทัยปรากฏการณ์ครั้งนี้มาก และได้ทรงฉายภาพสุริยุปราคาเป็นที่ระลึกด้วย