แฉ!! เด็กสุรินทร์ แห่เป่าแคน ขอทาน
|
ภาพประกอบจากอินเทอร์เนต |
|
|
แฉ!! อีสานแหล่งค้ามนุษย์ในรอบปี เป็นไปได้พบเด็ก ร.ร.ประถม จ.สุรินทร์ แต่งเครื่องแบบนักเรียน เดินสายเป่าแคน ขอทาน ใน กทม.ทุกเสาร์-อาทิตย์ กว่า 40 คน ย่านจตุจักร อนุสาวรีย์ชัยฯ บางกะปิ ลาดพร้าว เหตุเงินดี ตกต่อเดือนกว่า 30,000 บาท ขณะที่กลางเมืองอุดรฯ พบซ่องเด็กสาวลาวล่อใจนักล่าพรหมจรรย์
วันที่ 21 ก.ค. 52 นี้ นายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา กล่าวถึง “สถานการณ์การค้ามนุษย์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” ขณะนี้ ว่า จากการลงพื้นที่ทำงานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือช่วง 1 ปีที่ผ่านมา สรุปสถานการณ์การค้ามนุษย์ได้ 5 ปัญหาใหญ่ ประกอบด้วย การค้ามนุษย์แรงงานประมง โดยศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการค้ามนุษย์ รับแจ้งเหตุเดือน พ.ค.51-มิ.ย.52 มีแรงงานภาคประมงถูกล่อลวงและบังคับให้ทำงานโดยไม่สมัครใจกว่า 80 กรณี ผู้เสียหายร้อยละ 80 มีภูมิลำเนาอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยขบวนการนายหน้าคอยล่อลวงในพื้นที่เสี่ยงของ กทม.5 จุดใหญ่ๆ คือ บริเวณสถานีรถไฟหัวลำโพง สถานีขนส่งหมอชิต สนามหลวง วงเวียนใหญ่ และสวนรมณีนาถ
นายเอกลักษณ์ กล่าวต่อว่า ส่วนการค้าประเวณีเด็ก เนื่องจากพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นทางผ่านและปลายทางในการค้าประเวณีเด็ก ทั้งเด็กต่างชาติจากประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะ ลาวเข้ามาค้าประเวณีบริเวณชายแดนและจังหวัดใกล้เคียงในรูปแบบของซ่องและร้านคาราโอเกะพื้นที่ใจกลางเมืองอุดรธานีถือเป็นแหล่งขายบริการทางเพศเด็กต่างชาติที่รุนแรงที่สุด มีการจับกุม และถูกนำเสนอข่าวหลายครั้งแต่ก็ยังมีการเปิดให้บริการอย่างโจ่งแจ้งจนถึงทุกวันนี้
“ขณะนี้มีเว็บไซต์ของนักเที่ยวกลางคืนแห่งหนึ่งมีการนำเสนอข้อมูลของซ่องใน จ.อุดรธานีอย่างแพร่หลาย ผู้ใช้บริการเว็บนี้จะรวมตัวเดินทางมาอุดรธานี เพื่อซื้อบริการทางเพศเด็กลาวโดยเฉพาะนอกจากนี้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนที่ติดกับแม่น้ำโขง ตั้งแต่ จ.หนองคาย นครพนม มุกดาหาร จนถึงอุบลราชธานี ก็มีปัญหาค้าบริการทางเพศเด็กหญิงลาวแอบแฝงตามสถานบริการต่างๆ ขณะที่จังหวัดชายแดนลุ่มแม่น้ำโขง ยังเป็นทางผ่านให้ “นักล่าประเวณีเด็ก” จำนวนมาก ข้ามแดนเข้าไปซื้อบริการทางเพศเด็กในประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย โดยเฉพาะด้านจังหวัดหนองคายและมุกดาหาร และมีแนวโน้วเด็กจากประเทศเพื่อนบ้านจะเข้ามาขายบริการบริเวณชายแดนฝั่งไทยมากขึ้น” นายเอกลักษณ์ กล่าว
นายเอกลักษณ์ กล่าวว่า ส่วนเด็กไทยเข้าสู่การขายบริการทางเพศโดยความสมัครใจมากขึ้นโดยมีเอเยนต์เป็นธุระจัดหาแขก เข้าข่ายการค้ามนุษย์ โดยเด็กส่วนใหญ่อยู่ในสถานศึกษาทั้งในสายสามัญและอาชีวะพบมากในจังหวัดขนาดใหญ่และมีสถานศึกษาจำนวนมาก เช่น จ.ขอนแก่น อุดรธานี ร้อยเอ็ด นครราชสีมา บุรีรัมย์ มหาสารคาม เป็นต้น โดยเอเย่นต์จะหาลูกค้าตามสถานบันเทิงต่างๆ หรือให้พนักงานยกกระเป๋า บริกรตามโรงแรมต่างๆ คอยติดต่อหาลูกค้าให้ นอกจากเด็กที่ขายบริการทางเพศจะมีอายุน้อยลง เอเย่นต์ที่เป็นธุระจัดหาก็เป็นเยาวชนด้วย และเกิดพฤติกรรมเลียนแบบทำตามกันมากขึ้น เนื่องจากเห็นเพื่อนมีเงินจับจ่ายใช้สอยไม่ขาดมือ
“นอกจากนั้น พบปัญหาขอทานเด็กมากในแถบอีสานใต้ โดยเฉพาะจ.สุรินทร์ ครอบครัวจะนำเด็กมาขอทานใน กทม.ใช้แคนเป็นเครื่องดนตรีประกอบการขอทาน หรือมีนายหน้าพาเด็กเข้ามาเป่าแคนใน กทม.โดยหักเปอร์เซ็นต์ในการพาเข้ามาขอทาน ทั้งนี้ พบโรงเรียนระดับประถมศึกษาแห่งหนึ่งใน จ.สุรินทร์ มีเด็กมาเป่าแคนเกือบ 40 คน จากนักเรียนทั้งโรงเรียน 140 คน หรือ 1 ใน 4 ของโรงเรียนถูกนำพามาขอทานที่ กทม.โดยจะพากลุ่มเด็กเป่าแคนออกจากสุรินทร์ช่วงเย็นวันศุกร์ของทุกสัปดาห์ เพื่อเข้า กทม.และจะกระจายตัวออกไปเป่าแคนในพื้นที่ต่างๆ รอบกรุงเทพฯ โดยเฉพาะ สวนจตุจักร อนุสาวรีย์ชัยฯ บางกะปิ และ ลาดพร้าว โดยให้เด็กสวมชุดนักเรียนขอทาน เพื่อเรียกความสงสาร” หน.ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการค้ามนุษย์ฯ กล่าว
นายเอกลักษณ์ กล่าวอีกว่า เด็กจะต้องเป่าแคนขอทานตั้งแต่เวลาประมาณ 09.00-23.00 น.ในวันเสาร์-อาทิตย์ และจะเดินทางกลับจังหวัดสุรินทร์ในเย็นวันอาทิตย์ แนวโน้มปัญหาขยายตัวมากขึ้นเพราะเด็กมีรายได้ต่อคนประมาณ 10,000-30,000 บาทต่อเดือน ทำให้หลายครอบครัวนิยมนำลูกหลานของตนเองเข้ามาขอทานที่กรุงเทพฯ ทั้งมาด้วยตนเองและฝากมากับนายหน้า เด็กที่มาเป่าแคนมองว่าเป็นการแสดงดนตรีไม่ใช่การขอทาน ขณะที่งานวิจัยสภาพปัญหาในพื้นที่พบว่า เด็กไม่สมัครใจในการไปเป่าแคนที่ กทม.และเด็กส่วนใหญ่ไม่สามารถเป่าแคนเป็นเพลงได้ การไปขอทานจึงเป็นการเป่าลมเข้าไปในแคนให้มีเสียงออกมาเท่านั้น
นายเอกลักษณ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนั้น ในภาคอีสานยังพบปัญหาการลักพาตัวเด็ก พบ 34 กรณี เป็นการพาเด็กไปบังคับใช้แรงงานหรือกระทำทางเพศส่วนบุคคล และการบังคับค้าประเวณีในต่างแดน พบว่า มีหญิงไทยจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือจำนวนมาก ถูกหลอกเพื่อบังคับให้ค้าประเวณีในต่างแดนทั้งในตะวันออกกลาง ยุโรป และแอฟริกาใต้ โดยถูกกดขี่ให้ทำงานอย่างหนักกว่าที่ได้ตกลงกันไว้ และเป็นหนี้ค่าเดินทางจำนวนมาก
ส่วนที่ใช้บริการบริษัทจัดหาคู่หรือนายหน้าหาคู่กับชายชาวต่างชาติ มีหลายกรณีที่แต่งงานไปแล้วถูกนำไปบังคับให้ขายบริการทางเพศในต่างแดนหรือบังคับใช้แรงงานบ้านอย่างหนัก ปัญหาการค้ามนุษย์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นทั้งพื้นที่ต้นทาง ทางผ่าน และปลายทางของปัญหา ด้วยสภาพภูมิประเทศและปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญในการเข้าสู่กระบวนการค้ามนุษย์ได้โดยง่าย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงจำเป็นต้องทำงานเชิงรุกเพื่อสกัดกั้นมิให้ปัญหาการค้ามนุษย์ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือขยายตัวจนเกินจะเยียวยา
|
|
ที่มา : ASTVผู้จัดการออนไลน์
ขอบคุณ อ. น้อง http://blog.eduzones.com/webter/28079..
...........................................
แคนลายแคนฝากใจ - อาจารย์สมบัติ สิมล้า (เทพแห่งแคน)
__________________
อ่านจบแล้วปวดร้าว ข่าวเขาเล่าเราเสียหาย ร่วมด้วยช่วยสาธยาย บรรยายถ้อยตอบให้ที พี่ครู(อยู่สุรินทร์)
(ครูหนู)