ผมเรียนจบนิติศาสตร์ตั้งแต่ปี 2535 และก็ไม่เจริญก้าวหน้าในการทำงานเท่าไหร่นัก จนกระทั่งตัดสินใจเรียน ศึกษาศาสตร์ จนจบในปี 2549 พอเรียนจบก็เรียนในสาขาศิลปศาสตร์ภาษาอังกฤษต่อเลยจนจบในปี 2550 ประมาณเดือน มิ.ย.2550 นั้น ผมได้โทรศัพท์ไปสอบถามที่ สำนักงานพื้นที่เชียงราย เขต 3 ซึ่งทางเชียงรายก็แจ้งว่า ตำแหน่งเหลือแต่ครูดอย กับครู กศน. จะเอาไหม ผมก็บอกว่าผมขอเป็นครูดอย สอนประถม ถึงแม้ว่าจะจะจบเอกมัธยมศึกษา ก็เถอะ หลังจากนั้นทางคณะกรรมการก็สอบถามถึงทำไมถึงอยากเป็นครู และอธิบายถึงความยากลำบากต่าง ๆ ก็จะสู้ไหม ผมก็บอกว่าสู้ ทางสำนักงานเขต ก็ให้ทำหนังสือผ่านผู้บังคับบัญชาไปถึง สำนักงานพื้นที่เขต ประมาณ ก.ค.2550 และได้รับตอบรับว่าตำแหน่งยังไม่ว่าง ประมาณเดือน ส.ค.2550 ตอนนั้นเหรอ ถูกว่ากระทบแยะ ทั้งที่เราไม่ได้ไปประกาศบอกใครว่าจะไป ทั้งเพื่อนร่วมงาน รุ่นน้อง และผู้ใหญ่บางคน ประเภททั้งสมน้ำหน้า สมเพช อะไรทำนองนั้น ก็ทำใจว่าคงไม่มีวาสนาแล้ว ก็ก้มหน้ารับกรรม ทำงานต่อไป แต่เมื่อเดือน มี.ค.2551 ก็ได้รับแจ้งจากสำนักงานพื้นที่เขตว่า ที่ประชุม อ.ก.ค.ศ. อนุมัติให้โอนมาเป็นครูดอยได้ ก็ดีใจมาก ๆ รีบเดินทางไปรับหนังสือที่เชียงรายด้วยตนเอง จากนั้นเดือน มี.ค.-เม.ย.52 เป็นเดือนที่ทำเรื่องของหน่วยงานตนเอง ไม่ว่าจะเป็นขออนุมัติโอนย้าย ตรวจสอบหนี้สิน จากนั้นก็รีบส่งเรื่องให้ จว.เชียงราย ในเดือน ก.ค.2551 ทราบว่า
เรื่องไปถึง ก.ค.ศ. ก็โทร.ไปตาม ก็ทราบว่ากำลังวิเคราะห์ อยู่ ก็รอไป จนเดือน ก.ย.2551 ก็ไปตามเรื่องบอกว่ายังไม่ถึงวาระประชุม ก็รอไปอีก จนปลายเดือน ก.ย.2551 ทาง สำนักงานพื้นที่เขตแจ้งว่าขอให้ส่งสำเนาคำสั่งเงินเดือนไปให้ ก็ใจชื้นว่าได้ไปแน่ ก็ยังเงียบหาย คราวนี้โทร.ประสานงานทุกเดือน เนื่องจากหน่วยงานเดิมจะมอบหมายงานใด ก็เกรงว่าคำสั่งจะออก เลยไม่ได้มอบหมายอะไรให้เต็มที่ เดือน ม.ค.2552 ได้รับแจ้งว่าหลักฐานที่ส่งไป 11 รายการนั้นขาดไป 6 รายการ ผมก็ต้องวิ่งประสานกับสำนักงานพื้นที่เขต เพื่อจัดส่งให้ครบ จากนั้นก็โทร.ไปติดตามเรื่องก็แจ้งว่า น่าจะทราบผลประมาณ มี.ค.52 ซึ่งในช่วงนั้นก็เตรียมพร้อมอยู่ ผ่านเดือน มี.ค.52 – เม.ย.52 ก็เงียบสนิท จนปลาย เม.ย.52 ได้รับการประสานจาก ก.ค.ศ. ว่า จะปรับตำแหน่งผมจากครูผู้ช่วย เป็น ครู ค.ศ.1 โดยเรื่องอาจจะช้าไปประมาณ 1 เดือน และให้ส่งคำสั่งเลื่อนเงินเดือนใหม่ประกอบอีก และผมต้องไปตามขอหนังสือรับรองจากสถาบันการศึกษาที่ผมเคยสอนใหม่อีกครั้ง ก็เร่งติดตามเรื่องจนเสร็จและส่งไปกลางเดือน พ.ค.52 และก็ยังไม่ทันประชุม เพราะต้องวิเคราะห์ผลงานผมในเดือน มิ.ย.52 ซึ่งก็มีการประชุมอีกใน 13 ก.ค.52 หลังจากนั้นผมก็ติดตามผลปรากฏว่า ผมยังนำเข้าประชุมไม่ทัน คงต้องรอไปอีกประมาณปลายเดือน ก.ค.52 ซึ่งผมก็ต้องนับวันอดทนไป ซึ่งก็ไม่รู้ว่าคำสั่งจะออกเมื่อไหร่ ระหว่างนี้ผมก็ไปสอนหนังสือเพื่อหาประสบการณ์ไปพลางกับโรงเรียนในพระพุทธศาสนา นี่ก็คือสรุปเรื่องของผมว่า การเป็นครูสอนคนให้ดีนั้นว่ายากแล้ว การโอนย้ายมารับราชการต่างกระทรวงก็คงยิ่งยากกว่า ดังนั้นเมื่อผมได้ไปแล้วก็จะตั้งใจสอนอย่างเต็มที่ สมกับที่รอคอย