เรื่องฝนฝน
ฝนหยาดสุดท้าย/บุษยา รังสี
ฝนหยาดสุดท้าย...หัวใจหวั่นไหวให้ตรม
ซ่อนรอยน้ำตาขื่นขม ร้าวระบมสุดที่จะฝืน
ถึงคราวจำพราก โศกช้ำ...กล้ำกลืน
ฉันนอนซบหมอนสะอื้น ค่ำคืนผวาโศกศัลย์
ฝนหลั่งสั่งฟ้า...นิจจาจำร้างห่างกัน...
อย่าลืมรักเคยผูกพัน ทุกคืนวันอย่าลืมเสน่หา
ถึงกายจะห่าง แต่รัก...อย่าลา
เธอเคยสัญญาไว้ว่า จะมาเมื่อฝนเยี่ยมเยือน
จง...หมั่นจำความหลังอย่าลืม
สองเรา เคยรักเคยปลื้ม ด่ำดื่มจำไว้อย่าเลือน
คอย ฉันคอยจนฝนใหม่เยือน
หวั่นเกรงรักลวงลอยเลื่อน เพื่อนใจอยู่ไหนไม่มา
ฝนหยาดสุดท้าย...เขาใยปล่อยฉันให้คอย
ส่งกระแสใจเลื่อนลอย หลงรอคอย คอยร่ำเรียกหา
ฝนเอยอย่าด่วน สิ้นร้าง...สร่างซา
เพราะชื่นหัวใจของข้า ไม่มาฝนจ๋า ข้าตรม
:: เรื่องฝนฝน ::
ขึ้นต้นก็โน่นแน่ะ Rhythm of the rain เพลงนี้เป็นเพลงแรกเกี่ยวกับฝนที่รู้จัก แต่เด็กๆ รุ่นนี้ก็รู้จักกันดีใช่ไหมคะ ถือว่าเป็นเพลงอมตะเลยแหละ the rain เป็น noun ค่ะ ชี้เฉพาะเสียด้วยว่าเป็นฝนที่ตกอยู่ในตอนนั้นๆ เรารู้ได้ว่าเจาะจง ก็เพราะ มีคำว่า the ค่ะ
ถ้าอย่างนี้ซิคะ Fire and Rain ของ James Taylor พ่อเล่นรำพันไว้ว่า
I've seen fire and I've seen rain
I've seen sunny days that I thought would never end
I've seen lonely times when I could not find a friend
But I always thought that I'd see you again
ผมพบพานทั้งไฟและฝนมาก็มาก
ผมได้เห็นวันอันสว่างไสวที่ดูเหมือนจะไม่สิ้นสุดลง
ผมผ่านเวลาอันเงียบเหงาซึ่งหาเพื่อนไม่ได้แม้สักคน
แต่ผมก็ยังคิดเสมอว่าผมจะได้พบคุณอีกครั้ง
rain ของคุณ James เป็น rain ที่ไม่เจาะจง ว่าครั้งไหนๆ เอาเป็นว่าเป็นฝนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตแกก็แล้วกัน ก็เลยไม่ต้องเติม the ค่ะ
It never rains in Southern California คราวนี้ rain มาทำหน้าที่เป็น verb บ้างแล้ว สังเกตบ้างไหมคะว่าถ้า rain มาทำหน้าที่เป็น verb เรามักจะใช้ It นำหน้าเสมอ ถึงแม้เวลาเราแปลเป็นไทย เราจะพูดว่า ฝนไม่เคยตกก็ตาม คำว่า rain เติม s เพราะเป็น verb ที่เป็น present tense ของประธาน It ที่ใช้ present tense ก็น่าจะเป็นเพราะคนแต่งตั้งใจจะสื่อว่า ประโยคของเขาเป็นความจริง หรือเป็นธรรมชาติวิสัยในเมืองนั้นค่ะ (ใครมีเกร็ดเกี่ยวกับความหมายของเพลงนี้ก็เอามาบอกกันบ้างนะคะ)
Raindrops keep falling on my head ฟังเพลงนี้ตอนเด็กๆ ของ B.J. Thomas แล้วชอบนึกถึงภาพผู้ชายท่าทางตลกๆ ใส่ชุดดำ กระโดดโลดเต้นไปมาในสายฝน ศีรษะก็ส่ายหลบเม็ดฝนที่โปรยปรายลงมาทุกที
raindrops แปลว่าหยดน้ำฝน หรือแปลอย่างไพเราะก็น่าจะเป็นหยาดฝน เป็น noun ที่เป็นพหูพจน์ (plural) เสมอค่ะ เพราะ หยาดฝนคงไม่มีเม็ดเดียวแน่นอน เขียนติดกันนะคะ
มีอะไรอีกน้า น่าจะเป็น Never bend with the rainfall ของ Simon & Garfunkel นะคะ ฟังแล้วเข้มแข็งดี
My life will never end,
And flowers never bend
With the rainfall.
ชีวิตของฉันจะไม่มีวันสิ้นสุด ดุจดังดอกไม้ที่ไม่ยอมโน้มตัวลงให้กับกระแสฝน
rainfall ตัวนี้ ถ้าแปลในเชิงวิชาการ หมายถึง ปริมาณน้ำฝน เป็น noun ค่ะ อย่าลืมเขียนติดกันนะคะ rainfall ค่ะ
Rainy days and Mondays ของ Carpenters เพลงนี้ทุกๆ คนคงคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะมากๆ เลยนะคะ ง่ายๆ ค่ะ rainy เป็น adjective หรือคำคุณศัพท์ขยาย days ที่เป็น noun แปลง่ายๆว่า วันฝนตก หรือวันที่มีแต่ฝนค่ะ (ขอให้ทุกคนไม่เจอฝนในวันจันทร์นะคะ เซ็งสุดๆ)
ขอปิดท้ายด้วยเพลงสุด love ของ ค่อนข้างเศร้านะคะ แต่ฟังทีไร in ไปตามนักร้องทุกที Raining in my heart ของ Tommy Roe แต่ตอนหลัง Leo Sayor นำมาร้องใหม่ เพราะไม่แพ้กันเลย ท่อนแรกมีดังนี้ค่ะ
The sun is out, the sky is blue
There’s not a cloud to spoil the view
But it’s raining…
Raining in my heart.
raining เป็น present participle ของ verb to rain บ่งบอกให้รู้ว่าฝนกำลังตกอยู่ในใจของฉันจริงๆ ซึ้งไหมคะ
ขอบคุณที่มาของบทความ tew2497@hotmail.com
........................คิดว่าคงได้ประโยชน์จากการอ่านบทความนี้ ...ความงาม ความรัก ..ทุกความร้สึก ถ่ายทอดผ่าน ภาษาใจ...