คนดีมีความรู้ความสามารถ
เมื่อนำมาวิเคราะห์หาคนที่มีคุณสมบัติความเป็นคนดีแล้ว ย่อมเห็นจากตารางว่าคนดีมีความสมดุลในชีวิต มากกว่าคนมีความรู้ความสามารถเพราะคนดีไม่มุ่งในสิ่งที่เลวร้ายใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นการคิดร้าย ทำร้าย หรือประสงค์ร้ายก็ตาม เมื่อมีคนดีมากย่อมเกิดการปกครองที่ชอบธรรม หลุดจากภาวการณ์จากความวุ่นวายใด ๆ ทั้งสิ้น ตัวอย่างเช่น หัวหน้าครอบครัวเป็นผู้บริหารกิจการของครอบครัว คือ ต้องเลี้ยงดูบุตรและภรรยา ของตนเอง ต้องสั่งสอนลูก ให้เป็นคนดีและมีความรู้ เพื่อที่จะเติบโตมา มีคุณภาพและหาเลี้ยงตัวเองได้ เช่นเดียวกันถ้าเปรียบเทียบในระดับประเทศ ผู้บริหารบ้านเมืองถ้าเป็นคนดีแล้ว คณะรัฐมนตรีเป็นคนดีแล้ว การฉ้อราชบังหลวง หรือการคอร์รัปชั่น ก็จะไม่มีในแผ่นดิน ประชาชนก็จะอยู่ด้วยความสุขเพราะมีผู้บริหารบ้านเมืองที่เป็นคนดี มีจริยธรรม คุณธรรม และมีศีลธรรม ดังนั้นเมื่อคนดีมาปกครองบ้านเมืองและคนในบ้านเมืองเป็นคนดีทั้งหมด ประเทศชาติก็จะตกอยู่ห้วงแห่งอริยะธรรมที่มีแต่คนดี พุทธทาส ภิกขุ อริยะสงฆ์ ได้ให้ความเห็นไว้ ว่า เมื่อมนุษย์มีสติปัญญาสูงขึ้นมาถึงว่าเราต้องอยู่กันอย่างสังคม ก็เกิดมีหลักการสังคมนิยมขึ้นมา แต่ในส่วนลึกแห่งจิตใจยังมีความหมายเป็นตัวตนอยู่ ก็ต้องยึดประโยชน์ของตนเป็นหลัก จึงมีปัจเจกนิยมเหลืออยู่ในส่วนลึก ซึ่งยังเห็นแก่ตนอยู่นั่นเอง ดังนั้น สังคมนิยมของบุคลที่ยังเห็นแก่ตัว จึงไปไม่รอด.
เมื่อนำมาวิเคราะห์หาคนที่มีคุณสมบัติความเป็นผู้มีความรู้และมีความสามารถแล้ว จะเห็นได้ว่า ผู้ที่มีรู้เป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่งของการดำเนินชีวิตเท่านั้นเอง ถ้านำเอาความรู้นั้นไปใช้อย่างถูกต้องเหมาะสมก็จะเกิดประโยชน์ให้กับตัวเอง แต่ถ้าหากใช้ความรู้และความสามารถที่มีอยู่ไปประกอบกิจการอันมิควรแล้ว ก็ย่อมทำให้เกิดความเสียหาย และความสูญเสียได้ ตัวอย่างเช่น บัณฑิตที่จบมาใช้ความรู้ความสามารถประกอบกิจมิจฉาชีพ ด้วยการนำเอาความรู้ที่ได้รับไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย หรือกฎแห่งศีลธรรม จึงต้องติดคุกตามกฎระเบียบบรรทัดฐานของสังคม แต่ถ้าเปรียบระดับประเทศแล้วมีผู้นำที่มีความรู้มีความสามารถแต่ขาดจริยธรรม หรือคุณธรรม บางประการ ก็สามารถที่จะมองเห็นถึงความหายนะของประเทศนั้นได้โดยไม่ยาก
ดังนั้น ความรู้เป็นเพียงส่วนประกอบของการดำเนินชีวิตที่มีคุณภาพ หากแต่ใช้ความรู้คู่กับคุณธรรม ย่อมทำให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและมวลชนได้อย่างสูงสุด การปลูกฝังคนให้เป็นคนดี จึงมีความสำคัญมากยิ่งกว่า การผลิตปริญญาชนให้มากล้นสังคม เพราะถ้าปริญญาชนเหล่านั้นไม่มีจิตใต้สำนึกของความเป็นมนุษย์ร่วมโลกแล้ว ก็พลันแต่จะมีความแก่งแย่งชิงดี หลงในอำนาจวาสนา หรือยศถาบรรดาศักดิ์ นานับปการ โดยไม่มองถึงความเสียหายอันมหาศาลที่จะเกิดขึ้นตามมา โลกก็จะไม่มีวันที่จะพบกับความสุขที่ถาวรได้
ภายใต้คำสอนของพุทธสาวก สอนไว้ว่า สมาธิ อย่างเดียว แก้ปัญหาหมดทุกอย่าง ไม่ว่าในแง่ของศีล -สมาธิ- และปัญญา. เมื่อคนดีมีปัญญา หรือผู้ที่มีปัญญาเป็นคนดี โลกย่อมสว่างด้วยความสุข