ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมความรู้ทั่วไป  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

ออกกำลังกาย สู้หวัด 2009


ความรู้ทั่วไป เปิดอ่าน : 10,810 ครั้ง
Advertisement

ออกกำลังกาย สู้หวัด 2009

Advertisement

❝ ออกกำลังกาย สัปดาห์ละ 5 วัน สร้างภูมิคุ้มกันหวัด 2009 โดยไม่ต้องฉีดยา ❞

นายแพทย์สุพรรณ  ศรีธรรมมา โฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช1 เอ็น1 ว่า สามารถป้องกันได้ 2 วิธีคือ การฉีดวัคซีนและการออกกำลังกาย เพื่อเพิ่มความเข้มแข็งระบบภูมิต้านทานโรคที่ประชาชนมีอยู่ทุกคนอยู่แล้ว แต่อาจมากน้อยแตกต่างกันตามระดับความแข็งแรงและอายุ จึงแนะนำให้ประชาชนไทยที่ไม่เจ็บป่วยใดๆ ใช้วิธีการออกกำลังกายแทนการพึ่งวัคซีนป้องกันโรค ซึ่งวิธีนี้ทำได้ง่ายและไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย        


                 นายแพทย์สุพรรณ  กล่าวว่า จากการทบทวนวิชาการ พบการออกแรงหรือออกกำลังกาย จะช่วยสร้างภูมิต้านทานได้ดี ลดโอกาสในการติดเชื้อไวรัสที่ระบบทางเดินหายใจได้  โดยต้องออกกำลังแบบแอโรบิค ด้วยความแรงระดับปานกลาง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของภูมิต้านทานในทางที่ดีขึ้น การออกกำลังแต่ละครั้งก็ช่วยเสริมฤทธิ์ของระบบภูมิต้านทานในการเฝ้าระวังดักจับกินเชื้อโรค ซึ่งในระยะยาวปรากฏว่าช่วยลดโอกาสของการติดเชื้อลงได้   

                 ตรงกันข้ามหากออกกำลังหักโหมหรือรุนแรง หรือออกกำลังเป็นเวลานานกว่า 90 นาที จะทำให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนเครียดและสารซัยโตคายน์ (Cytokines)  ซึ่งมีฤทธิ์กดภูมิต้านทานเพิ่มมากขึ้น  ทำให้ภูมิต้านทานโรคในร่างกายลดลง  โดยจะลดลงภายหลังออกกำลังกายอย่างหักโหมประมาณ 3-72 ชั่วโมง   ทำให้เกิดช่องว่างที่เชื้อไวรัสและแบคทีเรียรุกเข้าโจมตีร่างกายได้ง่าย 
 
                  นายแพทย์สุพรรณกล่าวต่อไปว่า ผู้ที่ป่วยหรือมีไข้ อดนอน กินอาหารไม่ได้ ไม่ควรออกกำลังกาย เนื่องจากกำลังอยู่ในภาวะที่ร่างกายต่อสู้กับโรคภัย  หากออกกำลังกายเสริมไปอีก จะเป็นการเพิ่มความเครียดให้ร่างกาย  ทำให้หัวใจ ปอดทำงานหนักขึ้น ทำให้เกิดอันตรายกับร่างกาย  


                  ประชาชนทุกเพศทุกวัย สามารถออกกำลังกายได้หลายวิธี  ได้แก่ การออกกำลังแบบแอโรบิค  อย่างน้อยวันละ 30 นาที อย่างน้อย 5 วันต่อสัปดาห์ เพื่อสร้างเสริมความเข้มแข็งให้กับระบบภูมิต้านทานของร่างกายในการต้านทานเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ซึ่งสามารถทำได้เองหรือรวมเป็นกลุ่มก็ได้  หรือใช้วิธีการเดินในระยะทาง 4,00 เมตร ให้ได้ 6 - 7 รอบภายในเวลา 30 นาที 

                 ผู้ที่ไม่ค่อยออกกำลัง ควรเริ่มเดินประมาณ 5-10 นาที ประมาณ 3 วันต่อสัปดาห์แล้วค่อย ๆ เพิ่มระยะเวลาต่อวันในแต่ละสัปดาห์ขึ้นเรื่อย ๆ แล้วจึงค่อย ๆเพิ่มความเร็ว จนท้ายที่สุดสามารถสาวเท้าเดินเร็วได้ 30 นาทีต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์     การออกกำลังนอกจากช่วยเสริมระบบภูมิต้านทานแล้ว  ยังช่วยลดโอกาสการเป็นโรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง โรคเบาหวาน โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และเต้านม  น้ำหนักเกินและอ้วน  และยังช่วยให้ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเรื้อรังมีสุขภาพดีขึ้นและควบคุมอาการโรคได้ด้วย 
                

                  นอกจากนี้การรับประทานอาหารที่หลากหลายและได้สัดส่วน การลดความเครียด การหลีกเลี่ยงภาวะร่างกายอ่อนล้าเรื้อรัง และการนอนหลับที่พอเพียง เป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการเสริมระบบภูมิต้านทานด้วย  นอกจากนี้การรับประทานอาหารที่มีพลังงานต่ำเกินไป และการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว อาจจะทำให้ระบบภูมิต้านทานลดลง  จึงควรลดน้ำหนักอย่างค่อยเป็นค่อยไป

ข้อมูลจาก ::  กรุงเทพธุรกิจ


ออกกำลังกาย สู้หวัด 2009ออกกำลังกายสู้หวัด2009

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

น้ำเพื่อสุขภาพ

น้ำเพื่อสุขภาพ


เปิดอ่าน 10,768 ครั้ง
รัดผมตึง...ระวังโรคเครียด

รัดผมตึง...ระวังโรคเครียด


เปิดอ่าน 12,219 ครั้ง
"ข้าวต้มเห็ดฟาง" ลดความดัน

"ข้าวต้มเห็ดฟาง" ลดความดัน


เปิดอ่าน 23,462 ครั้ง
เติมน้ำมันให้คุ้มที่สุด

เติมน้ำมันให้คุ้มที่สุด


เปิดอ่าน 10,307 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

กลิ่นกุหลาบช่วยกระตุ้นหน่วยความจำ

กลิ่นกุหลาบช่วยกระตุ้นหน่วยความจำ

เปิดอ่าน 10,541 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
ภาพมาโคร คืออะไร?
ภาพมาโคร คืออะไร?
เปิดอ่าน 38,788 ☕ คลิกอ่านเลย

เชื่อไหมว่าเรามียาดีประจำบ้าน ก็เกลือที่อยู่ในครัวนี่เอง
เชื่อไหมว่าเรามียาดีประจำบ้าน ก็เกลือที่อยู่ในครัวนี่เอง
เปิดอ่าน 12,479 ☕ คลิกอ่านเลย

จองตั๋วเครื่องบินไปโอซาก้า ที่ไหนราคาดี  พร้อมที่เที่ยวแบบจัดเต็ม
จองตั๋วเครื่องบินไปโอซาก้า ที่ไหนราคาดี พร้อมที่เที่ยวแบบจัดเต็ม
เปิดอ่าน 710 ☕ คลิกอ่านเลย

10 อาชีพในอนาคต ที่มีโอกาสประสบความสำเร็จอย่างสูงในไทย
10 อาชีพในอนาคต ที่มีโอกาสประสบความสำเร็จอย่างสูงในไทย
เปิดอ่าน 208,059 ☕ คลิกอ่านเลย

Chat GPT คืออะไร ใช้งานยังไง AI  สำหรับครูยุคใหม่จำเป็นต้องรู้
Chat GPT คืออะไร ใช้งานยังไง AI สำหรับครูยุคใหม่จำเป็นต้องรู้
เปิดอ่าน 44,579 ☕ คลิกอ่านเลย

ไม่เชื่ออย่าลบหลู่! 3 ข้อห้าม ห้ามทำในวันหวยออก หากอยากถูกหวย!
ไม่เชื่ออย่าลบหลู่! 3 ข้อห้าม ห้ามทำในวันหวยออก หากอยากถูกหวย!
เปิดอ่าน 8,570 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เพลง "อิ่มอุ่น"
เพลง "อิ่มอุ่น"
เปิดอ่าน 41,570 ครั้ง

เด็กไทยเขียนเรซูเม่ไม่เป็นหรือตลาดแรงงานไม่มีตำแหน่งว่าง
เด็กไทยเขียนเรซูเม่ไม่เป็นหรือตลาดแรงงานไม่มีตำแหน่งว่าง
เปิดอ่าน 29,073 ครั้ง

คู่มือประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนฯ ตามหลักสูตรแกนกลางฯ 2551 ชั้นม. 6
คู่มือประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนฯ ตามหลักสูตรแกนกลางฯ 2551 ชั้นม. 6
เปิดอ่าน 27,268 ครั้ง

เอกสารประกอบการอบรมการขับเคลื่อนกระบวนการ PLC
เอกสารประกอบการอบรมการขับเคลื่อนกระบวนการ PLC
เปิดอ่าน 119,739 ครั้ง

หากท่านต้องยกกล่องหนักๆ ลองวิธีนี้ดูสิ จะช่วยให้เบากว่าเดิม
หากท่านต้องยกกล่องหนักๆ ลองวิธีนี้ดูสิ จะช่วยให้เบากว่าเดิม
เปิดอ่าน 15,016 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ