|
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ |
"เสธ.หนั่น” เสนอปิด ร.ร.ทั่วประเทศ 1 เดือน สกัดหวัด 2009 ระบาด เตรียมของบพีอาร์จาก ครม.อีก 70 ล้าน ออกทุกสื่อ รณรงค์ให้ปิดหน้ากากทุกคน ส่งรถโมบายออกตรวจทุกจุดทั่วประเทศ "อุทุมพร" เผยเด็กป่วยขาดสอบ GAT-PAT 60 คน
พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการเตรียมความพร้อมป้องกันและควบคุมแก้ไขสถานการณ์ระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ให้สัมภาษณ์ว่า
วันนี้ (14 ก.ค.) คณะกรรมการฯ จะมีการประชุมกัน สำหรับมาตรการป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ขณะนี้ คือ ต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รู้วิธีการป้องกันตนเอง และต้องพยายามดูว่าผู้ที่ป่วยมีโรคประจำตัวอะไรบ้าง ถ้ามีก็ต้องรีบรักษา แต่ที่น่าจะเอาอย่างประเทศญี่ปุ่นที่เขาประสบความสำเร็จในการหยุดยั้งการแพร่ระบาดก็คือ การแจกหน้ากากให้ประชาชนใส่ทุกคน เดือนหนึ่งเขาสามารถหยุดได้หมด ของไทยล่าสุด ทางกระทรวงสาธารณสุขได้สั่งให้ผลิตเพิ่มมาอีก 10 ล้านชิ้น เนื่องจากขณะนี้เริ่มขาดแคลนแล้ว เพราะก่อนหน้านี้เราไม่ได้ใช้ ทางญี่ปุ่นเลยซื้อไปหมด ทำให้ขณะนี้เราขาดแคลน ซึ่งกระทรวงจะมีงบประมาณอยู่แล้ว หากสามารถแจกให้ประชาชนใส่กันทุกคนเหมือนญี่ปุ่นก็จะเป็นการดี แต่คงไม่มีการออกมาตรการอะไร แต่น่าจะเป็นการขอความร่วมมือมากกว่า ซึ่งในการประชุม ครม.วันนี้ทางรัฐมนตรีคงใส่เป็นตัวอย่าง
ผู้สื่อข่าวถามว่า เคยมีข่าวคนใส่หน้ากากแล้วถูกไล่ลงจากรถโดยสาร รองนายกฯ กล่าวว่า อย่างนี้ต้องประชาสัมพันธ์ให้มากขึ้น โดยจะมีการของบประมาณกลางปี 52 สำหรับการประชาสัมพันธ์โดยเฉพาะเพิ่มอีก 70 ล้านบาท ในที่ประชุม ครม. โดยจะออกสื่อทั้งวิทยุ โทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์
เมื่อถามว่า สำหรับในส่วนของผับ หรือเธคจะมีการสั่งปิดหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า คงไปปิดไม่ได้ แต่ได้แจ้งไปที่ผู้ว่าฯ กทม. ผู้ว่าฯ ชลบุรี นายกเมืองพัทยา ว่าให้เร่งทำความสะอาดสถานบันเทิงต่างๆ เพราะมีนักท่องเที่ยวเข้าไปมากจะได้เบาบางลง
พล.ต.สนั่น กล่าวด้วยว่า ในการประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่วันนี้จะมีการหารือกันทุกเรื่อง โดยเฉพาะการนำรถโมบายออกตรวจและรักษาตามจุดต่างๆ ทั่วประเทศด้วย ซึ่งจะมีจำนวนกี่คัน และจะเริ่มออกตรวจได้เมื่อไรนั้น พรุ่งนี้จะมีการหารือกัน แต่คิดว่าน่าจะเริ่มได้เลย เพราะรถก็มีอยู่แล้ว โดยในรถจะมีหมอ พยาบาลที่จะดูแลรักษาได้ตามปกติ
ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมีการพิจารณาเรื่องค่ารักษาพยาบาลใหม่หรือไม่ เพราะที่กำหนดไว้ครั้งละ 3,500 บาท ค่อนข้างสูง และประชาชนที่ยากจนอาจเดือดร้อน พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ในการประชุมพรุ่งนี้จะมีการหารือเรื่องนี้ด้วย แต่ทั้งนี้ค่ารักษาในส่วนของโรงพยาบาลเอกชน คงไปบังคับเขาไม่ได้ คงได้แต่ขอร้องเท่านั้น แต่ถ้าเป็นโรงพยาบาลของรัฐแล้วราคาค่าตรวจ 3,500 บาท ถือว่าสูงเกินไป ประชาชนโดยเฉพาะในต่างจังหวัดคงไม่มีเงินรักษา “ความจริงโรงพยาบาลของรัฐน่าจะฟรีด้วยซ้ำ แต่พรุ่งนี้ในที่ประชุมคงมีการพูดคุยกัน”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ไม่ปิดประเทศก็เหมือนปิด เพราะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาน้อยลงมาก จะหารือเพื่อปิดประเทศบางช่วง เพื่อกำหนดเป็นคลีนนิ่ง เดย์ หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า การปิดประเทศคงทำไม่ได้ ไม่มีที่ไหนปิด ขณะนี้หลายประเทศไม่ประกาศเลยด้วยซ้ำว่ามีป่วยหรือติดเชื้อเท่าไร เมื่อถามว่ามีคนนำไปเปรียบเทียบกับรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่หยุดยั้งการแพร่ระบาดของไข้หวัดนก หรือโรคซาร์ส ได้รวดเร็ว รองนายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลที่ก่อนกับรัฐบาลนี้ก็ใช้มาตรการเดียวกัน เพียงแต่โรคซาร์ส หรือไข้หวัดนก ไม่ได้ระบาดรวดเร็วอย่างนี้
“ส่วนตัวผมคิดว่าการจะหยุดยั้งให้ได้ดีที่สุด คือ ควรปิดโรงเรียน เหมือนปิดเทอมเลย ถ้าปิดได้ประมาณสัก 2-4 สัปดาห์ เพื่อทำความสะอาดใหญ่ โดยให้เลื่อนวันปิดภาคเรียนในภาคเรียนที่ 1 ขึ้นมาก่อน พอถึงวันปิดภาคเรียน ก็ค่อยไปเรียนชดเชยเอา หากทำได้เช่นนี้เชื่อว่าจะช่วยลดการแพร่กระจายของเชื้อได้แน่นอน” พล.ต.สนั่นกล่าว
ส่วนที่นักวิชาการออกมาบอกว่า การระบาดอาจจะมีผู้ติดเชื้อถึง 2 ล้านคน และอาจมีผู้เสียชีวิตถึง 1,200 คนนั้น พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ผู้ติดเชื้ออาจถึง แต่ผู้เสียชีวิตไม่น่าขนาดนั้น แต่นักวิชาการก็พูดไปตามหลักการเขา ถ้าเราป้องกันไม่น่าถึง ที่สำคัญคือคนที่มีโรคประจำตัว
นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย กล่าวถึงปัญหาเรื่องไข้หวัด 2009 ที่กำลังมีการระบาดอย่างหนักอยู่ในขณะนี้ว่า น่าเป็นห่วง แต่ทราบว่ากระทรวงสาธารณสุขได้วางมาตรการป้องกันเต็มที่อยู่แล้ว ขณะที่ทางกระทรวงมหาดไทยก็มีการกำชับให้ดูแลเรื่องนี้ไปแล้ว เชื่อว่าสถานการณ์คงไม่บานปลายจนถึงขั้นต้องปิดประเทศ เพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นทั่วโลก แต่บางประเทศมีการปิดข่าว แต่ของไทยประชาธิปไตยเต็มใบ มีการลงข่าวเต็มที่ ส่วนมาตรการที่เข้มข้นมากกว่านี้นั้น ตนเองจะนัดคุยกับปลัดกระทรวงสาธารณสุข อีกครั้งเพื่อจะได้มีการทำงานร่วมกัน
ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น.ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย พร้อม นพ.ประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร ร่วมแถลงข่าว โดยนายพร้อมพงศ์กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีผู้เสียชีวิตด้วยโรคหวัด 2009 ในประเทศไทยเป็นรายที่ 21 มีผู้ติดเชื้อ 3,883 คน แต่หากคูณด้วยหลักของกระทรวงสาธารณสุขจะมีผู้ติดเชื้อประมาณ 2 แสนราย ถือว่ารัฐบาลโดยเฉพาะกระทรวงสาธารณสุข มีการใช้มาตรการ รณรงค์ที่ผิดพลาด ไม่รู้ทิศทางที่รณรงค์ประชาชนให้ “กินร้อน ใช้ช้อนกลาง ล้างมือ” นั้นคงไม่เพียงพอ เพราะโรคหวัดไม่ใช่โรคระบาดทางเดินอาหาร แต่โรคหวัดเป็นการติดต่อทางเดินลมหายใจ คือ จมูก ปากและสารคัดหลั่ง ซึ่งทางคณะกรรมการติดตามประเมินสถานการณ์หวัด 2009 มีความเป็นห่วงมีการระบาดเพิ่มเป็นทวีคูณมีผู้เสียชีวิตเป็นรายที่ 21 แล้วซึ่งรัฐบาลจะต้องรับผิดชอบ
โฆษกพรรคเพื่อไทยกล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้พรรคฝ่ายค้านเคยแถลงข่าวเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ทำเรื่องนี้ให้เป็นวาระแห่งชาติและให้นายกฯลงมาเป็นประธาน ศูนย์ปฏิบัติการแห่งชาติด้วยตัวเอง แต่รัฐบาลมองปัญหาเพียงเรื่องเล็กน้อย ดังนั้น พรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องให้ประชาชนไม่ควรหวังพึ่งรัฐบาลอย่างเดียว จึงขอเสนอ 3 มาตรการในการระมัดระวังสุขภาพ คือ 1.ล้างมือ 2.หลีกเลี่ยงในการอยู่ที่ชุมชน 3.หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องใส่”หน้ากากอนามัย”ระหว่างเดินทางและอยู่ในที่ชุมชน เพื่อประโยชน์ต่อชีวิตและสุขภาพของตนเอง ซึ่งการใส่หน้ากากอนามัยจะสามารถป้องกันการติดต่อจากระบบทางเดินหายใจได้ ร้อยละ 80-90 โดยจะต้องใส่ปิดทั้งปากและจมูก ซึ่งการรณรงค์ให้กินร้อน ใช้ช้อนกลาง ล้างมือ แค่นั้นไม่พอ ขอให้ประชาชนไม่ต้องอาย พร้อมได้มีการเปิดคลิปการสาธิตใส่หน้ากากอนามัยด้วย
นายพร้อมพงศ์กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยขอเรียกร้องให้รัฐบาลจัดตั้งงบประมาณแจกหน้ากากอนามัยอย่างดีให้ประชาชนทั้งประเทศ ตกราคาชิ้นละ 5 บาท รวมทั้งรัฐบาลควรออกค่าใช้จ่ายในการตรวจหาเชื้อไวรัส และการให้ยารักษาแก่ผู้ป่วย ทั้งนี้ หากมีการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร พรรคฝ่ายค้านจะใช้ช่องทางคณะกรรมาธิการและการตั้งกระทู้ถามสดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงและพรรคเพื่อไทย จะมีมาตรการเกี่ยวกับเรื่องโรคระบาดในนโยบายของพรรคด้วยโดยใช้เหตุการณ์ที่เกิดทั้งโรคซาร์ส ไข้หวัดนก รวมถึงไข้หวัด 2009 มาเป็นกรณีศึกษา
ด้านนายแพทย์ประสิทธิ์ ชัยวิรัตนะ ประธานคณะกรรมาธิการการสาธารณสุขฯ กล่าวเสริมว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีคนตายจากโรคหวัดดังกล่าว 21 คน ถือตัวเลขมากที่สุดในภูมิภาคเอเชีย โดยนายกฯควรต้องตัดสินใจใช้ ยาไซโคทรามีเรีย ซึ่งเป็นยาระงับเชื้อการแบ่งตัวของเชื้อไวรัส ในพื้นที่เสี่ยงว่ามีผู้ติดเชื้อ รัฐบาลควรให้ยาทันทีไม่ต้องรอการตรวจ ถ้าพบว่ามีคนไข้ขึ้นสูงถึง 39.5 ก็ควรให้ยากับเขาทันที เพราะวันนี้รัฐบาลอย่าคิดว่า โรคนี้ไม่อันตราย เพราะร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต ถ้าเชื้อลงปอดภายใน 3 ถึง 5 วัน ไม่ได้รับยาอาจทำให้เสียชีวิตได้ ในจำนวน 21 ราย พบว่าคนแข็งแรงเป็นปกติ ก็เสียชีวิตจากโรคนี้ได้
นางอุทุมพร จามรมาน ผอ.สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับรายงานจากศูนย์สอบการจัดสอบความถนัดทั่วไป หรือ GAT และการทดสอบความถนัดทางวิชาชีพหรือวิชาการ หรือ PAT จากทั้ง 18 ศูนย์ทั่วประเทศแล้ว โดยพบว่า มีนักเรียนที่แจ้งมาว่าไม่สามารถเข้าสอบ GAT และ PAT เมื่อวันที่ 11-12 ก.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากป่วยเป็นไข้หวัดจำนวนทั้งสิ้น 60 ราย แบ่งเป็น ศูนย์สอบมหาวิทยาลัยนเรศวร 20 ราย ม.ขอนแก่น 10 ราย ม.ศิลปากร วิทยาเขตสนามจันทร์ 7 ราย สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ 5 ราย ม.นครพนม 3 ราย ม.เทคโนโลยีสุรนารี 2 ราย ม.บูรพา 2 ราย ม.วลัยลักษณ์ 2 ราย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 1 ราย โรงเรียนดอนเมืองทหารอากาศบำรุง 1 ราย และเดินทางมาแจ้งที่ สทศ.ด้วยตนเอง 7 ราย
“เด็กที่แจ้งมาว่าป่วยนั้น ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ระบุแต่เพียงว่าเป็นไข้ ปวดหัว และตัวร้อนเท่านั้น โดยบางคนยังอยู่ระหว่างการรอวินิจฉัยอยู่ว่าเป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯหรือไม่ ดังนั้น เด็กที่ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฯ จะต้องแจ้งและส่งเอกสารหลักฐาน ใบรับรองแพทย์มายังศูนย์สอบ หรือ สทศ. อีกครั้ง เพื่อยืนยันว่าป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพัน์ใหม่ฯ จริง ทั้งนี้คาดว่า สทศ.จะจัดสอบ GAT และ PAT รอบพิเศษให้กับเด็กกลุ่มนี้ได้ในวันที่ 8-9 สิงหาคม 52 และจะประกาศผลสอบพร้อมกับเด็กปกติในวันที่ 15 สิงหาคมนี้” นางอุทุมพร กล่าว
ที่มา : ASTVผู้จัดการออนไลน์
..........................................
ในส่วนเพื่อนครูผู้ใกล้ชิดสนิทกับศิษย์รัก
โปรดทายทักสักวลีปีดดีหรือไม่ปิด ให้ข้อคิดกับข่าวนี้ด้วยครับครู (ครูหนู)
ขอบคุณ อ. น้องhttp://blog.eduzones.com/ezine/27641