เมื่อวันที่ ๘ กรกฎาคม ๒๕๕๒ ไม่ได้เดินทางไปต่างจังหวัด จึงถือโอกาสไปชมขบวนแห่เทียนเข้าพรรษาประจำปี ๒๕๕๒ ซึ่งสำนักงานเทศบาลนครราชสีมา ได้จัดมาทุกปี แต่ปีที่ผ่านมาไม่มีโอกาสได้ชม เพราะต้องเดินทางไปต่างจังหวัด
การจัดงานปีนี้นับว่ายิ่งใหญ่ ขบวนแห่แต่ละขบวนก็ไม่แพ้งานแห่เทียนเข้าพรรษาที่จังหวัดอุบลราชธานี ทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้นเทียน การออกแบบ การตกแต่ง ได้สวยงามวิจิตรพิสดารไม่เบา นอกจากนี้ การแกะสลัก ลวดลายก็สวยงามเช่นกัน ในขบวนจะนำประเพณีของท้องถิ่นเข้ามาผสมผสาน เพื่อประชาชนได้รู้ และเห็น อันเป็นสืบสานประเพณีให้สืบไป
และปีนี้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาชมขบวนแห่เป็นจำนวนมาก และเต็มสองข้างถนนทุกสาย ส่วนกลางคืนมีการแสดงแสง สี แสง เรื่องมหาเวสสันดรชาดก มีการออกร้านเทศกาลอาหาร การบวชเนกขัมมะ การรักษาศีล ปฏิบัติธรรม เนื่องในเทศกาลเข้าพรรษาอีกด้วย
ส่วนประเพณีแห่เทีนเข้าพรรษา มีประวัติความเป็นมา ดังนี้
...มี เรื่องเล่าว่า ในครั้งพุทธกาล พระพุทธเจ้า ได้เสด็จจำ พรรษา อยู่ที่วัดป่าเลไลย์ เพื่อหาความสงบในป่าแห่งหนึ่ง ได้มี พญาช้างสาร และพญาวานรแสนรู้ สืบทราบว่า พระพุทธเจ้า ได้เสด็จมาประทับแรม จึงชวนกันไปเป็นผู้อุปัฏฐาก โดยพญาช้าง เป็นผู้หาน้ำดื่ม น้ำใช้ ส่วนพญาวานร เป็นผู้หารังผึ้งมาถวาย ต่อมา พญาวานรเกิด พลาดพลั้งพลัด ตกต้นไม้ตาย แต่ด้วย อานิสงส์ ที่ได้ทำไว้กับ พระพุทธเจ้า จึงได้เกิดเป็นพระพรหม อยู่บนสวรรค์
อีก ตำนานหนึ่งกล่าวว่า พระอนุรุทธสาวกของ พระพุทธเจ้า ที่มีสติปัญญา เฉลียวฉลาดหลักแหลม รู้พระธรรม วินัยอย่างแตกฉาน ก็เพราะในชาติปางก่อน เคยถวายแสงประทีป เป็นทาน ดังนั้น พุทธศาสนิกชน ผู้ใฝ่บุญกุศล จึงได้ยึดถือ เป็น ประเพณีนำเทียน ไปถวายแด่พระภิกษุในเทศกาลเข้าพรรษา เพื่อปรารถนาให้ตนเอง เป็นผู้เฉลียวฉลาด มีไหวพริบ ประดุจ ขี้ผึ้ง ที่ใช้ทำเทียนซึ่งได้จากรังผึ้ง (อีสานเรียกว่า เรียงผึ้ง) โดย นำมาต้มเป็นงบคล้ายน้ำอ้อย บางที ดัดแปลงเป็นเลา (เหมือน ต้นอ้อย หรือลำไม้ไผ่) หรือรูปเหลี่ยม ส่วนการตกแต่ง ใช้วัสดุ จำพวกเชือกย้อมสี กระดาษที่ตัดเจาะ เป็นรูปตามถนัด พันรอบ ต้นเป็นเปลาะๆ(ข้อมูลจาก : บ้านมหา ดอทคอม เว็บไซต์ )
ขบวนแห่เทียนเข้าพรรษาโคราช