ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ข่าวการศึกษา     ความรู้ทั่วไป     งานราชการ/รัฐวิสาหกิจ/บริการสังคมเรื่องราวจากสมาชิก  ▶ ข่าว/บทความ ▶ หน้าแรก

พ.ร.บ.เด็ก คุณครูรู้จักหรือเปล่า


เรื่องราวจากสมาชิก เปิดอ่าน : 7,136 ครั้ง
Advertisement

พ.ร.บ.เด็ก คุณครูรู้จักหรือเปล่า

Advertisement

❝ http://www.vgcd.org/child_protect_act.htm ❞

พรบ คุ้มครองเด็กกำหนดให้มีกลไกระดับชาติในการสงเคราะห์ คุ้มครองสวัสดิภาพและส่งเสริมความประพฤติเด็กให้มีความเป็นเอกภาพทั้งระบบโดย
เชื่อมโยงกับฝ่ายการเมืองและฝ่ายบริหาร

พรบ เด็ก
พรบ คุ้มครองเด็กกำหนดให้มีการเชื่อมโยงกลไกภาครัฐในส่วนภูมิภาคและท้องถิ่น กับภาคเอกชนเพื่อความเป็นเอกภาพและเป็นระบบในการปกป้อง
คุ้มครองเด็กทุกกลุ่ม

 หลั่นล้าพรบ คุ้มครองเด็กกำหนดให้ศาลยุติธรรม มีอำนาจตรวจสอบและถ่วงดุลการใช้อำนาจของฝ่ายบริหารที่อาจมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของเด็ก
ทั้งนี้ เพื่อให้เด็กได้รับการปกป้องคุ้มครอง

 พร บ คุ้มครองเด็กกล่าวเฉพาะเด็กที่จำต้องได้รับการสงเคราะห์และปกป้องคุ้มครอง สวัสดิภาพกล่าวคือ เด็กที่มีอายุต่ำกว่า18ปีบริบูรณ์(เว้นแต่บรรลุ
นิติภาวะ ด้วยการสมรส)ที่มีปัญหาด้านร่างกายและจิตใจ เช่น พิการ สติปัญญาต่ำ เด็กที่ถูกกระทำทารุณกรรมทั้งด้านร่างกาย จิตใจหรือเพศ เด็กที่มีปัญหาด้าน

ปัจจัย แวดล้อมทางเศรษฐกิจและสังคม เช่น กำพร้า ยากจน เร่ร่อน และเสี่ยงต่อการกระทำผิด รวมถึงเด็กที่เป็นนร นศ ที่มีความประพฤติไม่สมควร เด็กเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการสงเคราะห์และปกป้องคุ้มครองเป็นพิเศษ

 สะใจจังพรบ คุ้มครองเด็กกำหนดให้ศาลเยาวชนและครอบครัวมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี คุ้มครองสิทธิเสรีภาพและสวัสดิภาพของเด็กตามกฏหมายนี้
เว้น แต่ในท้องที่ใดยังไม่ได้เปิดทำการศาลเยาวชนและครอบครัว หรือแผนกคดีเยาวชนและครอบครัว ก็ให้ศาลจังหวัดในท้องที่นั้นๆมีอำนาจพิจารณาพิพากษา

 

พรบ เด็ก

พรบ เด็ก

“เด็ก” หมายความว่า บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่าสิบแปดปี บริบูรณ์ แต่ไม่รวมถึงผู้ที่บรรลุนิติภาวะด้วยการสมรส


พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 มีหลักการสำคัญคือ การระดมทรัพยากรทุกภาคส่วนเข้ามาร่วมดูแล ปกป้อง คุ้มครองเด็กโดยอาศัยการดำเนินงานแบบสหวิชาชีพ เพื่อประโยชน์สูงสุดของเด็ก กฎหมายฉบับนี้ได้วางระบบการ สงเคราะห์คุ้มครอง สวัสดิภาพและการส่งเสริมความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษาและส่งเสริมความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา และส่งเสริมหน้าที่ความรับผิดชอบของครอบครัว ชุมชน ภาครัฐ ภาคเอกชน ในการร่วมมือกันคุ้มครองเด็ก โดยไม่พึ่งทรัพยากรจากภาครัฐแต่เพียงฝ่ายเดียว

หัวใจของกฎหมายนี้อยู่ที่มาตรา 23 กล่าวคือ “ผู้ปกครองต้องให้การอุปการะเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนและพัฒนาเด็กที่อยู่ในความปกครองดูแลของตนตามสม
ควรแก่ขนบธรรมเนียมประเพณีและ วัฒนธรรมแห่งท้องถิ่น แต่ทั้งนี้ต้องไม่ต่ำกว่ามาตรฐานขั้นต่ำ ตามที่กำหนดในกฎกระทรวงและต้องคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กที่อยู่ในความปกครองดูแลของตนมิให้ตก อยู่ในภาวะอันน่าจะเกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ

พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546ไม่ใช่กฎหมายเพื่อลงโทษผู้ปกครอง แต่มีเจตนาสนับสนุนให้ผู้ปกครองเลี้ยงดูบุตร ได้โดยไม่ขัดต่อประเพณีปฏิบัติอันดีงามโดยรัฐพร้อมจะให้ความช่วยเหลือ แก่ครอบครัวเมื่อจำเป็น กฎหมายนี้จึง
เป็นเสมือนคู่มือสะท้อนให้ผู้ปกครองตระหนักถึงบทบาทหน้าที่และสิ่งอันควรปฏิบัติเพื่อสามารถเลี้ยงดูเด็กให้เติบโตอย่างเต็ม ศักยภาพและปลอดภัย

เลี้ยงลูกผูกพัน ปฏิบัติถูกต้อง ได้อย่างไร


การเลี้ยงดูเด็กตามกฎหมายคุ้มครองเด็กไม่ใช่เรื่องยุ่งยากแต่อย่างใด ผู้ปกครองที่เลี้ยงดูเด็กได้ดี อยู่แล้วจึงไม่ควรกังวลว่าวิธีปฏิบัติของตนจะไม่สอดคล้องกับกฎหมาย โดยพื้นฐานที่สุด
วิธีการเลี้ยงดูเด็กซึ่งไม่ขัดต่อธรรมเนียมปฏิบัติ ศีลธรรมอันดีงามและเป็นที่ยอมรับในสังคม ย่อมไม่ขัดต่อกฎหมาย อย่างไรก็ตาม กฎหมายนี้จะมีมาตรฐานการเลี้ยงดูเด็กขั้นต่ำออกมา โดยมีหลักการดังนี้

ด้านกฎหมาย


เด็กต้องได้รับการจดทะเบียนเกิด มีผู้ปกครองตามกฎหมาย ต้องได้เรียนหนังสือภาคบังคับ

ด้านสภาพแวดล้อมทางสังคม


เด็กต้องอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย และมีส่วนร่วมในกิจกรรมของชุมชนและสังคมนั้น

ด้านสภาวะของเด็ก


เด็กต้องได้รับการเลี้ยงดูให้มีสุขภาพที่ดีทั้งทางร่างกายและจิตใจ รวมถึงได้เรียนรู้ด้านจริยธรรม

ด้านผู้ดูแลเด็ก


ต้องเป็นผู้มีศักยภาพในการดูแลสุขภาพของเด็ก ป้องกันโรค กระตุ้นให้เด็กเกิดการเรียนรู้ ฝึกวินัย ฝึกให้เด็กรู้จักควบคุมตัวเอง รู้จักขอบเขตระหว่างตนเองและผู้อื่น

ข้อห้ามปฏิบัติของผู้ปกครอง


1. ทอดทิ้งเด็กไว้ในสถานรับเลี้ยงเด็กหรือสถานพยาบาลหรือไว้กับบุคคลที่รับจ้างเลี้ยงเด็กหรือที่สาธารณะ หรือสถานที่ใดโดยเจตนาที่จะไม่รับเด็กกลับคืน
2. ละทิ้งเด็กไว้ ณ สถานที่ใด ๆ โดยไม่จัดให้มีการป้องกัน ดูแลสวัสดิภาพหรือให้การเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสม
3. จงใจหรือละเลยไม่ให้สิ่งที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตหรือสุขภาพอนามัยจนน่าจะเกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจของเด็ก
4. ปฏิบัติต่อเด็กในลักษณะที่เป็นการขัดขวางการเจริญเติบโตหรือพัฒนาการของเด็ก
5. ปฏิบัติต่อเด็กในลักษณะที่เป็นการเลี้ยงดูโดยมิชอบ
6. กระทำหรือละเว้นการกระทำอันเป็นการทารุณกรรมต่อร่างกายหรือจิตใจของเด็ก
7. จงใจหรือละเลยไม่ให้สิ่งจำเป็นแก่การดำรงชีวิตหรือการรักษาพยาบาลแก่เด็ก
8. บังคับ ขู่เข็ญ ชักจูงส่งเสริมหรือยินยอมให้เดกประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิดหรือใช้เด็กเป็น เครื่องมือในการขอทานหรือแสวงหาประโยชน์จากเด็กโดยมิชอบ หรือยินยอมให้เด็กเล่นการพนัน แสดงหรือกระทำอันมีลักษณะลามกอนาจารหรือจำหน่าย แลกเปลี่ยน หรือให้สุราหรือบุหรี่แก่เด็ก
เว้นแต่การปฏิบัติทางการแพทย์

การสงเคราะห์

จะเน้นการให้บริการแก่เด็กและครอบครัวโดยร่วมมือกับผู้ปกครอง เพื่อให้เด็กได้รับการเลี้ยงดูตามมาตรฐานขั้นต่ำ เป็นการช่วยเติมสิ่งที่ขาดให้แก่ครอบครัวเพื่อให้ พ่อ แม่ ลูก อาศัยอยู่ด้วยกันตามปกติ หรืออาจจะมีการแยกตัวเด็กออกจากครอบครัวเป็นการชั่วคราว เพื่อช่วยให้พ่อแม่สามารถปรับตัวในการอุปการะเลี้ยงดูลูกได้ตามที่ควรจะเป็น

วิธีการสงเคราะห์มีหลายประการ เช่น


-ให้ความช่วยเหลือใด ๆ ที่ทำให้ผู้ปกครองสามารถอุปการะเลี้ยงดูเด็กได้ตามมาตรา 23 รวมทั้งการให้คำแนะนำปรึกษา การบำบัดฟื้นฟู
-การฝึกทักษะที่จำเป็นต่อการอุปการะเลี้ยงดูเด็ก
-มอบเด็กให้ผู้เหมาะสมอุปการะเลี้ยงดูแทนไม่เกิน 1 เดือน
-กรณีเด็กกำพร้า ดำเนินการเพื่อให้เด็กเป็นบุตรบุญธรรมตามกฎหมายว่าด้วยการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม
-ส่งเด็กเข้ารับการอุปการะในครอบครัวอุปถัมภ์ สถานแรกรับ สถานสงคราะห์ สถานบำบัดฟื้นฟูสมรรภาพ ฝึกหัดอาชีพ เป็นต้น

การคุ้มครองสวัสดิภาพ คือ

กระบวนการจัดความสัมพันธ์ระหว่างเด็กกับบุคคลในครอบครัวใหม่ เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อเด็กและเพื่อไม่ให้เดกกระทำผิดหรือ
เสี่ยงต่อการกระทำผิด เด็กที่ควรได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพได้แก่

- เด็กที่ถูกทารุณกรรม
- เด็กที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด
- เด็กที่อยู่ในสภาพที่จำต้องได้รับการคุ้มครองสวัสดิภาพตามที่กำหนดในกฎกระทรวง

การคุ้มครองสวัสดิภาพรัฐอาจมีความจำเป็นต้องแยกตัวเด็กออกจากครอบครัว เพื่อความปลอดภัยของเด็ก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของผู้ปกครองและการปฏิบัติใด ๆ จะกระทำอย่างรอบคอบโดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อประโยชน์สูงสุดของเด็กเป็นที่ตั้ง

ทำอย่างไรเมื่อพบเด็กที่ควรได้รับการช่วยเหลือ


1. ช่วยเหลือเบื้องต้นในสิ่งที่ทำได้
2. แจ้งพนักงานเจ้าหน้าที่ พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจโดยเร็ว
3. โทรแจ้ง 1507 (ศูนย์ช่วยเหลือเร่งด่วน 24 ชั่วโมง)

ข้อมูลจาก สำนักส่งเสริมและพิทักษ์เด็ก (สทด.) สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยาวชน ผู้ด้อยโอกาส คนพิการ และผู้สูงอายุ (สท.)
618/1 ถนนนิคมมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โทร. 02255 5850-7 ต่อ 225-227
email – child@opp.go.th

เลี้ยงลูกให้ดี ไม่ให้มีปัญหา ปรึกษาผู้รู้ โทร.1507 กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

 

 

   

 

โพสต์โดยสมาชิกหมายเลข 4030 วันที่ 10 ก.ค. 2552


พ.ร.บ.เด็ก คุณครูรู้จักหรือเปล่าพ.ร.บ.เด็กคุณครูรู้จักหรือเปล่า

Advertisement

≡ เรื่องอื่นๆ ที่น่าอ่าน ≡

ตาขี้เกียจ...

ตาขี้เกียจ...


เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง
ทำไมจึงต้องกวดวิชา?

ทำไมจึงต้องกวดวิชา?


เปิดอ่าน 7,139 ครั้ง
อย่าทำบุญแล้ว ...ได้บาป

อย่าทำบุญแล้ว ...ได้บาป


เปิดอ่าน 7,140 ครั้ง
ดูแล....แผลถอนฟัน

ดูแล....แผลถอนฟัน


เปิดอ่าน 7,134 ครั้ง
ฟังเพลง แมลงเม่าเหงาใจ

ฟังเพลง แมลงเม่าเหงาใจ


เปิดอ่าน 7,136 ครั้ง
เครื่องจ่ายยา

เครื่องจ่ายยา


เปิดอ่าน 7,135 ครั้ง
โห...ดูแล้ว....เป็นยังไง

โห...ดูแล้ว....เป็นยังไง


เปิดอ่าน 7,138 ครั้ง
คุณคือคนไหนบนรูปภาพนี้??

คุณคือคนไหนบนรูปภาพนี้??


เปิดอ่าน 7,144 ครั้ง
สุดยอด : I don

สุดยอด : I don't want to talk about it...


เปิดอ่าน 7,141 ครั้ง

:: เรื่องปักหมุด ::

หน้าต่าง  ของสุขภาพภายใน...

หน้าต่าง ของสุขภาพภายใน...

เปิดอ่าน 7,141 ☕ คลิกอ่านเลย

Advertisement

≡ เรื่องน่าสนใจในหมวดหมู่นี้ ≡
คู่มือชีวิตปี 2009 (แง่คิดดีๆในการใช้ชีวิต)
คู่มือชีวิตปี 2009 (แง่คิดดีๆในการใช้ชีวิต)
เปิดอ่าน 7,142 ☕ คลิกอ่านเลย

แนะนำตัวสมาชิกใหม่ครับผม
แนะนำตัวสมาชิกใหม่ครับผม
เปิดอ่าน 7,144 ☕ คลิกอ่านเลย


เปิดอ่าน 7,138 ☕ คลิกอ่านเลย

ดูแลผิวหน้าขั้นพื้นฐาน... ง่ายนิดเดียว
ดูแลผิวหน้าขั้นพื้นฐาน... ง่ายนิดเดียว
เปิดอ่าน 7,138 ☕ คลิกอ่านเลย

จริงหรือ..กินเนื้อไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ
จริงหรือ..กินเนื้อไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ
เปิดอ่าน 7,147 ☕ คลิกอ่านเลย

บอกเล่าเก้าสิบ
บอกเล่าเก้าสิบ
เปิดอ่าน 7,143 ☕ คลิกอ่านเลย

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เหงื่อออกมือไม่ใช่สัญญาณของโรคหัวใจ
เหงื่อออกมือไม่ใช่สัญญาณของโรคหัวใจ
เปิดอ่าน 4,711 ครั้ง

แว่นทรงไหนช่วยให้คุณสวยขึ้น
แว่นทรงไหนช่วยให้คุณสวยขึ้น
เปิดอ่าน 12,001 ครั้ง

ง่ายๆ นวดกดจุดฝ่าเท้าบำบัดโรคความดันโลหิตสูง
ง่ายๆ นวดกดจุดฝ่าเท้าบำบัดโรคความดันโลหิตสูง
เปิดอ่าน 11,829 ครั้ง

การมีจินตนาการโดยไม่มีความรู้และความเข้าใจนั้นเรียกว่า การฝันกลางวัน
การมีจินตนาการโดยไม่มีความรู้และความเข้าใจนั้นเรียกว่า การฝันกลางวัน
เปิดอ่าน 19,310 ครั้ง

คลิปสาธิตเทคนิคการพับผ้า แบบประหยัดเนื้อที่ในกระเป๋า
คลิปสาธิตเทคนิคการพับผ้า แบบประหยัดเนื้อที่ในกระเป๋า
เปิดอ่าน 19,530 ครั้ง

เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
สนามเด็กเล่น

แหล่งรวมเกมส์ เกมส์ให้เล่นมากมาย ศูนย์รวมเกมส์สนุกๆ เกมส์ความรู้ เกมส์ลับสมอง เกมส์ประลองยุทธ แหล่งรวบรวมข้อมูล เกมส์ เกมส์ออนไลน์ เกมส์มันๆ เกมส์ตัดผม ไว้มากมายที่นี่ ให้เด็กๆได้เลือกเล่นมากมาย คลิกเลย

 
หมวดหมู่เนื้อหา
เนื้อหา แยกตามหมวดหมู่ สามารถเลืออ่านได้ตามหมวดหมู่ที่นี่


· Technology
· บทความเทคโนโลยีการศึกษา
· e-Learning
· Graphics & Multimedia
· OpenSource & Freeware
· ซอฟต์แวร์แนะนำ
· การถ่ายภาพ
· Hot Issue
· Research Library
· Questions in ETC
· แวดวงนักเทคโนฯ

· ความรู้ทั่วไป
· คณิตศาสตร์
· วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
· ภาษาต่างประเทศ
· ภาษาไทย
· สุขศึกษาและพลศึกษา
· สังคมศึกษา ศาสนาฯ
· ศิลปศึกษาและดนตรี
· การงานอาชีพ

· ข่าวการศึกษา
· ข่าวตามกระแสสังคม
· งาน/บริการสังคม
· คลิปวิดีโอยอดนิยม
· เกมส์
· เกมส์ฝึกสมอง

· ทฤษฎีทางการศึกษา
· บทความการศึกษา
· การวิจัยทางการศึกษา
· คุณครูควรรู้ไว้
· เตรียมประเมินวิทยฐานะ
· ผลงานวิชาการเล่มเต็ม
· เครื่องมือสำหรับครู

ครูบ้านนอกดอทคอม

เว็บไซต์เพื่อครู ข่าวการศึกษา ความรู้ การศึกษาไทย

      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ