Advertisement
ต้นตะกูยักษ์ ไม้เศรษฐกิจที่น่าปลูก.....![](http://img337.imageshack.us/img337/5079/092960cl6.gif)
เรียบเรียงโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต
หากคุณมีที่ดินเปล่าๆ ไม่รู้จะทำอะไร เราขอแนะนำให้ปลูก "ต้นตะกูยักษ์" ซึ่งตอนนี้กำลังเป็นที่สนใจอย่างมากมาย เพราะต้นตะกูยักษ์นั้น ปลูกง่าย ดูแลง่าย โตเร็ว ทำกำไรงาม และยังทนทานต่อสภาวะแวดล้อมอย่างน้ำท่วมหรือไฟป่าอีกด้วย
ความเป็นมา
ในปัจจุบันสถานการณ์การขาดแคลนไม้ทั้งในเมืองไทยและตลาดโลกทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ สาเหตุมาจากการใช้ไม้จำนวนมหาศาลของประชากรโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้มีการตัดไม้ธรรมชาติเพื่อนำมาสนองความต้องการ จนเมื่อมาถึงจุดวิกฤติ หลายประเทศได้มีการห้ามตัดไม้ธรรมชาติเพื่อนำมาใช้งาน ทางออกของการแก้ปัญหาที่จะตอบสนองอุปสงค์จำนวนมหาศาลเหล่านี้จึงมีอยู่ทางเดียวคือการปลูกไม้ขึ้นเองเพื่อใช้งาน จึงมีการศึกษาและเสาะแสวงหาพันธุ์ไม้โตเร็วที่มีศักยภาพในการเจริญเติบโตได้ดี ที่เหมาะกับภูมิประเทศและสภาพอากาศในประเทศนั้นๆ โดยเนื้อไม้ต้องสามารถตอบสนองความต้องการทางเศรษฐกิจได้ ต้นตะกูจึงได้กลายมาเป็นไม้เศรษฐกิจที่ควรปลูก
ลักษณะต้นตะกู
เป็นไม้ที่มีลำต้นสูงเปลา มีขนาดสูง 15-30 เมตร เนื้อละเอียดสีเหลืองนวล แข็งแรงน้ำหนักเบา เปลือกสีน้ำตาล ขรุขระเป็นร่องละเอียดตามแนวลำต้น ลักษณะกิ่ง แตกเป็นแนวทำมุมกับพื้นดินวางตำแหน่งเป็นคู่ในตำแหน่งตรงข้ามกันเป็นช่วงๆ ตามแนวลำต้นแต่ละช่วงสลับกัน ใบเป็นใบเดี่ยวทรงรีคล้ายใบสัก ผิวเนียนละเอียด หลังใบมองเห็นกระดูกใบชัดเจน ใบและก้านมีกลิ่นหอม
โดยจะมีขนาดใบเฉลี่ยโดยประมาณ ด้านกว้าง 12-25 ซ.ม. ด้านยาว 18-30 ซ.ม. ดอกมีสีเขียวอมเหลือง เมื่อแก่จะกลายเป็นสีเหลืองเข้ม มีกลิ่นหอม กลุ่มดอกลักษณะกลม ความโตประมาณ 3.5-7 ซ.ม. กลุ่มดอกจะออกในตำแหน่งปลายกิ่ง ในกลุ่มดอกมีกลีบดอกอัดแน่นจำนวนมาก แต่ละดอกมีกลีบดอก 5 กลีบ ใต้กลีบดอกมีกระเปาะเมล็ด 4 กระเปาะ มีเมล็ดข้างใน เมื่อผลแก่เต็มที่จะร่วงลงตามธรรมชาติ ซึ่งจะมีลักษณะเด่นดังนี้
โตเร็ว ต้นเปลา ตรง ไม่มีกิ่งตามต้นเกะกะเนื่องจากต้นไม้จะทำการสลัดกิ่งตลอดเวลาที่เจริญเติบโต แปรรูปได้ปริมาณไม้ต่อต้นสูง
ทนแล้ง
ทนน้ำหรือน้ำท่วมขัง ตะกูสามารถอยู่รอดได้ในพื้นที่น้ำท่วมขัง และสามารถเจริญเติบโตได้เมื่อไม้ฟื้นตัวหลังน้ำลด
ตะกูจะมีการงอกขึ้นใหม่ได้อีกจากโคนเดิมหลังจากการตัดฟันซึ่งเป็นลักษณะของไม้โตเร็ว ทำให้ผู้ปลูกไม่ต้องลงทุนในการปลูกต้นกล้าหลายรอบ
คุณสมบัติเนื้อไม้
ไม้ตะกูเป็นไม้ที่มีสีเหลืองนวล เนื้อไม้ละเอียด น้ำหนักเบา มีความแข็งแรงทนทาน เนื้อไม้มีความเหนียว ไม่แตกหักง่าย ขึ้นรูปง่าย มีคุณสมบัติป้องกันแมลง, มอด, ปลวก จึงเป็นที่นิยมนำมาสร้างบ้าน ทำไม้พื้น ไม้กระดาน โดยส่วนประกอบอื่นๆ เหมาะสำหรับทำเฟอร์นิเจอร์, เครื่องเรือน, เครื่องใช้ในบ้าน เพราะง่ายต่อการแปรรูป สามารถแปรได้ไม้หน้าใหญ่และยาว เนื่องจากตะกูจะทำการสลัดกิ่งตลอดเวลาที่มีการเจริญเติบโต ต้นจึงเปลาสูงทำให้ได้ขนาดและมีปริมาณเนื้อไม้มาก
วัตถุประสงค์ในการปลูก
1. ปลูกเพื่อธุรกิจ เป็นการปลูกไม้ตะกูให้ได้ระยะ แล้วทำการตัดโค่นเพื่อขายไม้ท่อนหรือแปรรูป การปลูกลักษณะอย่างนี้จะเป็นการทำงานอย่างจริงจัง โดยจะมีการดูแลบำรุงรักษาอยู่เสมออย่างเป็นขั้นตอน เมื่อถึงระยะตัดโค่นจะทำให้ผู้ปลูกมีรายได้เป็นจำนวนมากและสามารถลงทุนต่อเนื่องได้
2. ปลูกเป็นผลพลอยได้ เป็นการปลูกตามพื้นที่ว่างในที่ดิน หรือปลูกตามแนวที่ตามคันนา เป็นต้น การปลูกแบบนี้จะทำให้ผู้ปลูกสามารถตัดโค่นไม้ได้จำนวนหนึ่งเมื่อไม้ถึงระยะตัดฟัน เมื่อนำมาขายก็จะได้เป็นรายได้ เสริมที่ค่อนข้างดี การปลูกแบบนี้จึงเป็นเหมือนผลพลอยได้บนเนื้อที่ๆ ไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์
3. ปลูกเพื่อใช้ไม้ การปลูกแบบนี้จะทำการปลูกต้นไม้ไว้ให้เท่าที่ต้องการใช้ และเมื่อถึงเวลาลูกออกเรือนก็จะตัดไม้ดังกล่าวมาทำการปลูกเรือน
แบ่งตามลักษณะการปลูก
1. ปลูกแบบสวนป่าระบบน้ำ เมื่อผู้ประกอบการต้องการทำการปลูกไม้เพื่อเป็นธุรกิจอย่างจริงจัง การปลูกแบบนี้จะทำให้ได้ผลผลิตที่ได้คุณภาพ และให้ผลตอบแทนเร็วกว่าปกติ เนื่องจากสามารถควบคุมไม้ให้มีคุณภาพได้จากการบำรุงและดูแลรักษาที่ดี การปลูกแบบนี้จะสามารถควบคุมแปลงปลูกทั้งในเรื่องจำนวนการปลูก การให้ปุ๋ย ทั้งการดูแล โดยจะทำการตัดโค่นเพื่อทำกำไรช่วงแรกในปีที่ 5 เพื่อให้ไม้ที่เหลืออยู่มีระยะห่างในการเจริญเติบโต
ในการปลูกแบบนี้อาจรวมถึงแปลงปลูกที่สามารถมีการจัดสรรปุ๋ยและน้ำ หรือการดูแลได้เพียงพอต่อความต้องการของต้นไม้ได้ เมื่ออายุ 7 ปีขึ้นไป ไม้ที่มีความสมบูรณ์จะสามารถให้เนื้อไม้ปริมาณมาก
2. ปลูกแบบสวนป่าปล่อยธรรมชาติ การปลูกแบบนี้เป็นการปลูกสวนป่าที่นิยมมาก เพราะไม่ต้องดูแลหรือบำรุงรักษามาก เพียงแค่ดูแลเมื่อแรกลงกล้าพันธุ์ไม้จนกระทั่งแน่ใจว่าไม้อยู่รอดแล้ว จากนั้นก็ปล่อยไม้ให้เจริญเติบโตเองตามสภาพแวดล้อม การปลูกแบบนี้ผู้ปลูกจะดูแลรักษาเฉพาะช่วงแรกเพื่อให้ต้นไม้ไม่ตาย แต่ผลเสียคือ ไม้จะเจริญเติบโตเองตามสภาพแวดล้อม คุณภาพของไม้และปริมาณไม้จะได้น้อยเมื่อเทียบกับการปลูกแบบระบบน้ำ
3. ปลูกตามแนวที่ สามารถปลูกได้ตามคันนา หรือพื้นที่ที่ไม่ค่อยได้ใช้ประโยชน์ โดยเมื่อถึงระยะการตัดโค่นแล้วก็จะได้ผลตอบแทนจากการขายไม้พอสมควร
การปลูกต้นตะกู
ตะกูเป็นไม้ที่ทางกรมป่าไม้จัดอยู่ในประเภท "ไม้โตเร็วมาก" และสามารถเติบโตได้ดีในหลายสภาพดินฟ้าอากาศ ตะกูที่พบอยู่ในธรรมชาติจึงพบอยู่ในหลายพื้นที่ทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง และอีสาน อย่างไรก็ตามแม้จะพบไม้ตะกูกระจายในหลายพื้นที่ แต่ก็พบว่ามีจำนวนความหนาแน่นน้อยมากเนื่องจากตะกูขยายพันธุ์เองได้ยาก แต่ตะกูสามารถปลูกได้ในสภาพดินที่ค่อนข้างแล้ง หรือแม้แต่ในสภาวะน้ำท่วมขังตะกูก็ยังสามารถอยู่รอดได้
ซึ่งได้มีกรณีศึกษาจากแปลงปลูกต้นตะกูในภาคเหนือที่มีน้ำท่วมขังนาน 3 เดือน แต่ต้นตะกูก็ยังอยู่รอดได้และสามารถเจริญเติบโตได้อีกครั้งหลังน้ำลด ขณะที่ไม้บางชนิดที่ปลูกในพื้นที่เดียวกันต้นจะเฉาและตายในที่สุด อย่างไรก็ตามการที่ต้นตะกูจะเจริญเติบโตได้ดีนั้นขึ้นอยู่กับสภาวะดินฟ้าอากาศที่เหมาะสม รวมถึงมีการดูแลอย่างดี นั่นจึงทำให้จะได้ไม้ที่มีคุณภาพ และในปริมาณที่สูงด้วย
การปลูกต้นตะกูให้เจริญเติบโตได้ดีต้องมีระยะการปลูกที่ไม่ชิดแน่นจนเกินไป ระยะที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับสภาพดินของแต่ละพื้นที่ โดยทั่วไปจะปลูกที่ระยะ 4 x 4 เมตร ใน 1 ไร่จะปลูกได้ประมาณ 100 ต้น ระยะตัดฟันอยู่ที่ 5 ปีขึ้นไป โดยจะได้รับผลตอบแทนตามขนาดและระยะเวลาที่ตัดโค่นไม้ และเมื่อทำการปลูกในปริมาณที่มากขึ้นรายได้ก็จะทวีคูณ หากถึงระยะตัดฟันแล้วแต่เกษตรกรยังไม่ทำการขายไม้ ต่อมาเมื่อต้นไม้โตขึ้นก็จะมีมูลค่าสูงตามขนาด ถ้าทิ้งไว้นานอาจจะกลายเป็นต้นตะกูยักษ์ก็ได้
วิธีการปลูก
การปลูกต้นตะกู ควรปลูกในช่วงต้นฤดูฝน ระยะปลูก 2.5 x 2.5 ปลูกได้ไร่ล่ะประมาณ 266 ต้น หลุมปลูกควรมีขนาด 30 × 30 เซนติเมตร ลึก 40 เซนติเมตร โดยใช้ปุ๋ยอินทรีย์สูตรพิเศษรองก้นหลุมๆ ละ 250 - 300 กรัม คลุกเคล้าให้ทั่วหลุมแล้วนำต้นตะกูลงไปปลูกในหลุม ต้องระมัดระวังขณะฉีกถุงอย่าให้ดินในถุงแตก หลังจากนั้นให้กลบดินให้แน่นอย่าให้เป็นแอ่งหรือน้ำแฉะขังบริเวณหลุมปลูก และใช้ไม้ค้ำผูกติดไว้เพื่อป้องกันการล้ม ซึ่งมีวิธีการใส่ปุ๋ย ดังนี้
ปีที่ 1 - หลังจากปลูก 1 เดือน ใช้ปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 อัตราต้นละ 300 กรัม โดยใสปุ๋ยครั้งที่ 2 ในช่วงปลายฤดูฝน (เดือนกันยายน - ตุลาคม) ใช้ปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 หรือ 12-4-7 อัตราต้นละ 400 กรัม
ปีที่ 2 - ครั้งที่ 1 ในช่วงต้นฤดูฝน (เดือนพฤษภาคม) ใช้ปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 อัตราต้นละ 350-400 ครั้งที่ 2 ช่วงปลายฤดูฝน (เดือนกันยายน - ตุลาคม ) ใช้ปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 หรือ 12-4-7 อัตราต้นละ 400 กรัม
ปีที่ 3-5 - ครั้งที่ 1 ช่วงต้นฤดูฝน (เดือนพฤษภาคม) ใช้ปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 หรือ 12-4-7 อัตราต้นละ 500 กรัม ครั้งที่ 2 ช่วงปลายฤดูฝน (เดือนกันยายน - ตุลาคม ) ใช้ปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 หรือ 12-4-7 อัตราต้นละ 500 กรัม
ปีที่ 6 ขึ้นไป - ให้ตัดต้นเว้นต้น เพื่อให้ต้นตะกูมีขนาดที่ใหญ่ออกทางด้านข้าง และมีเนื้อไม้ที่แข็งแรง การใส่ปุ๋ยครั้งที่ 1 ให้ใส่ช่วงต้นฤดูฝน (เดือนพฤษภาคม) ใช้ปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 หรือ 12-4-7 อัตราต้นละ 1 กิโลกรัม ครั้งที่ 2 ช่วงปลายฤดูฝน (เดือนกันยายน - ตุลาคม ) ใช้ปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 หรือ 12-4-7 อัตราต้นละ 1 กิโลกรัม
นอกจากการใส่ปุ๋ยตามที่กำหนด สิ่งที่ควรระมัดระวังในระยะเริ่มปลูกปีที่1-2 คือควรหาวิธีป้องกันไม่ให้สัตว์เลี้ยง เช่น วัว ควาย แพะ และแกะ ซึ่งเป็นสัตว์กินพืชเข้าไปในแปลงปลูกต้นตะกูเพราะอาจเข้าไปกัดกินใบต้นตะกูจนเกิดความเสียหายได้
โดยต้นตะกูอายุ 5 ปี จะมีขนาดสูง 15 – 20 เมตร และมีเส้นผ่าศูนย์กลางราวๆ 30 -50 ซ.ม. จะขายได้ต้นละประมาณ 3,000 – 5,000 บาท (แต่ถ้าอายุ 10 ปี จะได้ต้นละ 10,000 บาท) ซึ่งถ้า 1 ไร่ ปลูก 200 ต้นๆ ละ 3,000 บาท x 200 ต้น = 600,000 บาทเลยทีเดียว
ต้นตะกูจึงเป็นไม้อีกชนิดหนึ่งที่สามารถจัดเป็นไม้เศรษฐกิจโตเร็วในอนาคตได้....
อยากให้หายเหนื่อยเวลารดน้ำไปก็คำนวนรายได้ไปต้นละ 2,000 - 3,000...ว๊าว..!! อนาคตมหาเศรษฐีนี่เรา....แค่นี้ก็หายเหนื่อยแล้วจ้า...........
ขอบคุณที่มาข้อมูล กระปุกดอทคอม
วันที่ 8 ก.ค. 2552
Advertisement
![เล็ก ๆ ชอบ.. แต่ใหญ่ ๆ ไม่ เล็ก ๆ ชอบ.. แต่ใหญ่ ๆ ไม่](news_pic/arrow.jpg) เปิดอ่าน 6,396 ครั้ง ![อย่าทำแบบนี้<<>> ตอนสัมภาษณ์งาน อย่าทำแบบนี้<<>> ตอนสัมภาษณ์งาน](news_pic/p18115991723.jpg) เปิดอ่าน 6,409 ครั้ง ![กินผัก....รักษาโรค กินผัก....รักษาโรค](news_pic/p20792971159.jpg) เปิดอ่าน 6,398 ครั้ง ![รวมของฟรีในอินเตอร์เน็ต รวมของฟรีในอินเตอร์เน็ต](news_pic/p77593282048.jpg) เปิดอ่าน 6,410 ครั้ง ![ขำๆ ...กับวรรณกรรมท้ายรถ ขำๆ ...กับวรรณกรรมท้ายรถ](news_pic/p31482290810.jpg) เปิดอ่าน 6,459 ครั้ง ![กระจกส่องใจ กระจกส่องใจ](news_pic/arrow.jpg) เปิดอ่าน 6,421 ครั้ง ![นิทานพื้นบ้านชุดขำขำ : ผู้ใหญ่ช่างสอน นิทานพื้นบ้านชุดขำขำ : ผู้ใหญ่ช่างสอน](news_pic/arrow.jpg) เปิดอ่าน 6,425 ครั้ง ![มานี มานะ มานี มานะ](news_pic/arrow.jpg) เปิดอ่าน 6,396 ครั้ง ![หน้าหนาว ....กินผักสีอะไรผิวถึงจะสวยบาดใจ หน้าหนาว ....กินผักสีอะไรผิวถึงจะสวยบาดใจ](news_pic/p33806900538.jpg) เปิดอ่าน 6,405 ครั้ง ![7 August 2009.... สำคัญที่สุดในชีวิต(โลก)ก็ว่าได้ 7 August 2009.... สำคัญที่สุดในชีวิต(โลก)ก็ว่าได้](news_pic/arrow.jpg) เปิดอ่าน 6,407 ครั้ง ![ฮวงจุ้ย....ทิศแห่งความคิดสร้างสรรค์ เสน่ห์ ความรัก ความสัมพันธ์ ฮวงจุ้ย....ทิศแห่งความคิดสร้างสรรค์ เสน่ห์ ความรัก ความสัมพันธ์](news_pic/p73243840649.jpg) เปิดอ่าน 6,404 ครั้ง ![ประโยชน์จากการหัวเราะ ประโยชน์จากการหัวเราะ](news_pic/arrow.jpg) เปิดอ่าน 6,407 ครั้ง ![แนะนำตัวค่ะ แนะนำตัวค่ะ](news_pic/p71241302148.jpg) เปิดอ่าน 6,400 ครั้ง ![กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและกิจกรรมทำลายผู้เรียน กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและกิจกรรมทำลายผู้เรียน](news_pic/arrow.jpg) เปิดอ่าน 6,406 ครั้ง ![ว๊าว..!! ภาพเด็ดโชว์โยคะหวาดเสียว ว๊าว..!! ภาพเด็ดโชว์โยคะหวาดเสียว](news_pic/p15375721752.jpg) เปิดอ่าน 6,407 ครั้ง ![การเพาะเห็ดฟางแบบกองเตี้ย(ผลงานนักเรียน) การเพาะเห็ดฟางแบบกองเตี้ย(ผลงานนักเรียน)](news_pic/arrow.jpg) เปิดอ่าน 6,416 ครั้ง
|
![งานศิลป์เหลือเชื่อ .....จากโพสท์-อิท เหลือใช้ งานศิลป์เหลือเชื่อ .....จากโพสท์-อิท เหลือใช้](news_pic/p67133682106.jpg)
เปิดอ่าน 6,433 ☕ คลิกอ่านเลย |
![ฝากรักเอาไว้ในเพลง.. ฝากรักเอาไว้ในเพลง..](news_pic/p30816091618.jpg)
เปิดอ่าน 6,416 ☕ คลิกอ่านเลย | ![ภาพถ่ายฟองสบู่ด้วยกล้องความเร็วสูง ภาพถ่ายฟองสบู่ด้วยกล้องความเร็วสูง](news_pic/p22793731123.jpg)
เปิดอ่าน 6,405 ☕ คลิกอ่านเลย | ![ไปเที่ยว.....น้ำตกสร้อยสวรรค์.....อุบลราชธานี ไปเที่ยว.....น้ำตกสร้อยสวรรค์.....อุบลราชธานี](news_pic/p75677321140.jpg)
เปิดอ่าน 6,420 ☕ คลิกอ่านเลย | ![--->>วิธีบำบัดอาการอกหัก<<---- --->>วิธีบำบัดอาการอกหัก<<----](news_pic/p16412970453.jpg)
เปิดอ่าน 6,416 ☕ คลิกอ่านเลย | ![](news_pic/arrow.jpg)
เปิดอ่าน 6,403 ☕ คลิกอ่านเลย | ![10 อันดับรถที่แพงที่สุดในโลก ปี 2009 10 อันดับรถที่แพงที่สุดในโลก ปี 2009](news_pic/arrow.jpg)
เปิดอ่าน 6,434 ☕ คลิกอ่านเลย |
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ ![กุ้งลายเสือ - เรื่องน่ารู้ กุ้งลายเสือ - เรื่องน่ารู้](news_pic/p62551140649.jpg)
เปิดอ่าน 30,999 ครั้ง | !["เลี้ยง"ต้องแบบไหน? "ลูกยุคดิจิตอล" ข้ามวิกฤต..สู่ไทย 4.0 "เลี้ยง"ต้องแบบไหน? "ลูกยุคดิจิตอล" ข้ามวิกฤต..สู่ไทย 4.0](news_pic/p58518700536.jpg)
เปิดอ่าน 11,430 ครั้ง | ![อันดับเมืองน่าอยู่ อันดับเมืองน่าอยู่](news_pic/p31465591228.jpg)
เปิดอ่าน 13,825 ครั้ง | ![นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ.2558 นโยบายสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ.2558](news_pic/p78430681357.jpg)
เปิดอ่าน 14,806 ครั้ง | ![ชนิดของสมุนไพรป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืช ชนิดของสมุนไพรป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืช](news_pic/p80772192113.jpg)
เปิดอ่าน 61,608 ครั้ง |
|
|