บางช่วงของเวลาทำให้ผู้เขียนได้ย้อนคิดถึงอดีต เมื่อครั้งที่เข้ารับราชการใหม่ ๆ กล่าวคือ เมื่อปี พ.ศ. 2523 หลังจากเรียนจบได้สอบคัดเลือกเข้าทำงาน ในตำแหน่ง เจ้าหน้าที่ดิน ช่วงนั้น จังหวัดเชียงใหม่ ได้เปิดสอบเอง มีผู้มาสมัครสอบคัดเลือกประมาณ 2,000 กว่าคน และมีตำแหน่งว่างจำนวน 6 อัตรา
ผู้เขียนกับเพื่อน ๆ คุยกันว่าจะไม่สอบ เพราะตำแหน่งว่างจำนวนน้อย และคิดว่าคนที่สอบได้น่าจะเป็นคนภายใน หรือไม่ก็มีเส้นสายในหน่วยงานดังกล่าว แต่เพื่อนอีกคนพูดว่า...นักมวยกว่าจะได้แชมป์ ก็ต้องมีบาดแผล แพ้ชนะเป็นเรื่องธรรมดา...
จึงได้ตัดสินใจพากันไปสอบ ซึ่งก่อนสอบได้จับกลุ่มดูหนังสือกันทั้งวัน และถึงตีสองเกือบทุกวัน พอถึงวันเข้าสอบ ปรากฏว่าเนื้อหาที่ติวกันมา ล้วนมีอยู่ในข้อสอบ ทำให้เรามั่นใจว่าจะต้องสอบได้แน่ ๆ หากไม่มีชื่อขึ้นบัญชีจะต้องยื่นคำร้องขอตรวจสอบการตรวจข้อสอบอย่างแน่นอน
วันประกาศผลสอบ เพื่อนที่ไปดูมาแสดงความยินดีว่าสอบได้ลำดับที่ 1 ผู้เขียนไม่เชื่อหูตัวเอง สงสัยเพื่อนคงหยอกเล่น เพราะตั้งแต่เรียนมาไม่เคยสอบได้ลำดับที่ 1 กับเขาเลย ไม่กีวันต่อมามีหนังสือให้ไปรายงานตัว และเข้ารับการปฐมนิเทศเข้าปฏิบัติงาน โดยสำนักงานที่ดินจังหวัดเรียกเข้าบรรจุครั้งแรกจำนวน 6 คน และเป็นประเพณีปฏิบัติสืบกันมาคนที่สอบได้ลำดับที่ 1 มีสิทธิเลือกสำนักงานที่จะไปปฏิบัติงานเป็นคนแรก
ในช่วงที่ทำการปฐมนิเทศอยู่นั่น ผู้ที่สอบได้จำนวน 6 คน มีผู้ชายเพียง 2 คน นอกนั้นเป็นผู้หญิง และมีอยู่คนหนึ่งกำลังตั้งครรภ์ประมาณ 6 เดือน เห็นจะได้ ส่วนสำนักงานที่ดินอำเภอที่ว่างได้แก่ อำเภออมก๋อย แม่แจ่ม ฮอด สะเมิง พร้าว และสำนักงานที่จังหวัด และอำเภอต่าง ๆ ก็อยู่ในพื้นที่สีแดง การเดินทางลำบาก บอกได้คำเดียวว่า...โหด
น้องผู้หญิงที่ท้องแก่ได้มาขอร้องว่า หากให้มีการเลือกตามลำดับดังกล่าว น้องคนนี้จะต้องได้ไปอยู่ที่สำนักงานที่ดินอำเภอแม่แจ่ม อมก๋อย หรือสะเมิง แน่ ๆ ซึ่งล้วนแต่โหดทั้งนั้น และยังไปขอร้องเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดอีกด้วย ท่านได้เรียกผู้เขียนเข้าไปพบ และได้พูดถึงความลำบากของผู้หญิงที่ท้องและไม่ท้อง หากไปอยู่อำเภอทั้งสามดังกล่าวจะลำบากมาก อยากให้ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ชายเลือกไปทำงานที่อำเภอทั้งสาม อำเภอใดอำเภอหนึ่งก็ได้
ผู้เขียนจึงเรียนท่านว่าตกลง แต่ขอให้มีการจับสลาก เสี่ยงดวงก็แล้ว พอมาถึงเวลาจับสลาก ผู้เขียนได้จับเป็นคนแรก ปรากฏว่า จับสลากได้อำเภออมก่อย หลังจากกนั้นก็ได้ยินปรบมือดังสนั่น !!!.. ไม่แน่ใจว่าเขาดีใจด้วย หรือดีใจที่เขาไม่ได้ไป...ส่วนน้องผู้หญิงคนท้อง หากจำไม่ผิดได้ไปอยู่ที่อำเภอพร้าว
ตกตอนเย็น ผู้เขียนได้แจ้งผลการจับสลากให้เพื่อน ๆ ทราบ ปรากฏว่า...ได้รับคำอวยพรด้วยการด่าจากเพื่อนอย่างมหันต์เป็นรางวัลตอบแทน แถมพูดว่า เป็นไปได้ยังไง สอบได้ที่ 1 แต่ต้องไปอยู่อมก๋อย...อาจจะจริงอย่างเพื่อนว่า เพราะต่อมาประมาณ 3 เดือน ผู้เขียนต้องยื่นใบลาออกจากราชการ เพราะมันโหดจริง ๆ... ทั้งตัวอำเภอมีร้านก๋วยเตี๊ยวร้านเดียว(ปี ๒๕๒๓) วัน ๆ ก้มหน้าก้มตา ทานแต่ไข่เจียว เจียวไข่ และไข่ต้ม ... ที่พักเขาให้ไปพักที่โรงเก็บรถหลังตัวอำเภอ เพราะไม่มีบ้านให้เช่า ...
เพราะอานิสงค์ที่ช่วยเหลือน้องผู้หญิงคนดังกล่าว ทำให้ผู้เขียนไม่เคยได้ไปทำงานที่กันดารเลย และสถานที่ทำงานจะตั้งอยู่ในตัวเมือง หรือบนศาลากลางจังหวัดตลอดมา...แม้จะเป็นการให้ที่มีค่าอันน้อยนิด แต่อยู่ที่ดวงจิตเต็มใจ ผลานิสงค์ย่อมยิ่งใหญ่เสมอ...ความทรงจำนี้ ยากที่จะลืม !!!