หลายคนคงเคยได้ยินเขาพูดกันเมื่อมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันว่า
โธ่เอ๋ยน้ำผึ้งหยดเดียวแท้ๆอยู่เสมอ
หลายคนอาจจะรู้ที่มาที่ไปของสำนวนนี้และหลายคนก็อาจจะยังไม่รู้ก็คงมี
ก็เลยไปค้นมาเล่าต่อให้ฟัง
แท้ที่จริงมาจากนิทานนั่นเอง ลองอ่านดูครับ
นิทานเรื่อง น้ำผึ้งหยดเดียว
ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ซึ่งแต่ก่อนมาชาวบ้านทุกคนต่างรักใคร่สามัคคีปรองดองกันด้วยดี
จนวันหนึ่งมีคนหาบน้ำผึ้งเดินผ่านหมู่บ้านแห่งนี้ และบังเอิญทำน้ำผึ้งหยดลงพื้นดิน
หนึ่งหยด จิ้งจกตัวหนึ่งคลานมาพบก็ตรงเข้าแลบเลียเป็นอาหาร
แมวมาเจอจิ้งจกก็รีบกระโดดเข้าตะครุบ
สุนัขเห็นแมวก็เข้ามาไล่กัด
เจ้าของแมวเห็นสุนัขมากัดแมวของตนเลยเอาไม้ไล่ตี
เจ้าของสุนัขได้ยินเสียงร้องก็วิ่งออกมาดู
พอรู้ว่าสุนัขของตนถูกเพื่อนบ้านไล่ตี
จึงตรงเข้าชกต่อยเจ้าของแมว
ญาติของเจ้าของแมวได้ยินเสียงการต่อสู้จึงรีบออกมาช่วย
ญาติฝ่ายเจ้าของสุนัขเห็นพรรคพวกของตนถูกทำร้ายก็ออกมาช่วยเช่นกัน
การต่อสู้ดำเนินไปอย่งดุเดือด จากการใช้มือใช้ไม้กลายเป็นมีด ปืน และอาวุธชนิด ต่าง ๆ
จนมีการบาดเจ็บล้มตาย ผู้คนในหมู่บ้านแบ่งออกเป็นสองฝ่ายคือ พวกเข้าข้างเจ้าของสุนัข
และพวกที่เข้าข้าง เจ้าของแมว เมื่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเพลี่ยงพล้ำจนเหลือกำลังน้อยกว่า
ก็ออกไปชักชวนญาติหรือ เพื่อน ๆ ของตนที่อยู่ต่างหมู่บ้านมาช่วย จนกลายเป็นสงครามกลางเมือง
กว่าเจ้าเมืองจะส่ง คนมายุติศึกได้ ผู้คนก็ล้มตายไปเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้เพราะ
ต่างฝ่ายต่างขาดการยับยั้งชั่งใจ และไม่รู้จักการพิจารณาเหตุผล หากเจ้าของสุนัข
และเจ้าของแมวเจรจาสอบถามเรื่องราว ให้เป็นที่เข้าใจถึงต้นสายปลายเหตุ
ก่อนที่จะหุนหันพลันแล่นทำอะไรไปตามอารมณ์แล้ว
เหตุการณ์คงจะไม่ลุกลามบานปลายเหมือนดังกรณีของน้ำผึ้งหยดเดียวในเรื่องนี้