มองลึก นึกไกล ใจกว้าง การบริหารชีวิตให้พอดีกับเวลา” โดยท่าน ว.วชิรเมธี
เราอยู่ไม่เกิน ๑๐๐ ปี
พบกันเช่นเคย……ทุกปี ขอขอบคุณแฟนรายการฯ ที่ยังรอคอยผลงาน วันนี้มาพร้อมกับข้อคิด
“การบริหารชีวิตให้พอดีกับเวลา” โดยท่าน ว.วชิรเมธี ในหัวข้อ “มองลึก นึกไกล ใจกว้าง”
สัจธรรมข้อที่หนึ่ง คือ เราจะอยู่ไม่เกิน ๑๐๐ ปี ต้องรู้ว่าชีวิตแสนสั้น พระพุทธศาสนาบอกว่า
ชีวิตเหมือนหยาดน้ำค้าง เวลาเราตื่นมาตอนเช้า เราเดินจงกลมจากทิศเหนือไปทิศใต้ในระยะ ๑๐ เมตร
ขณะที่ก้าวแรกเริ่มออกเดินจงกรม เราเห็นหยาดน้ำค้างพราวใส พอเดินไปแล้ว เดินกลับ
หยาดน้ำค้างสลายตัวไปแล้ว แค่ชั่วเวลาเดินไปและเดินกลับ
ชีวิตเป็นดั่งหยาดน้ำค้าง คือมีระยะเวลาแสนสั้น เวลาเราขับรถไปบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์
เราเห็นพยับแดดที่ร้อนระอุเหมือนมหาสมุทรกระจายอยู่เต็มท้องถนน ขับรถฝ่าเข้าไปมีแต่ความว่างเปล่า
คุณคว้าเอาอะไรมาไม่ได้หรอก มันคือพยับแดด สมบัติต่างๆ มันคือพยับแดดทั้งนั้น วูบวาบ ชวนให้หวั่นไหว
แต่ไร้ซึ่งตัวตน
ภาพจาก : http://www.puistudio.net
บางครั้งพระพุทธองค์ก็ตรัสว่าชีวิตเหมือนฟองของน้ำ เวลาฝนตกลงมากระทบพื้นดิน
เราจะเห็นฟองของน้ำ แต่เชื่อไหมว่าแป๊บเดียวฟองน้ำนั้นก็ดับสลายไป วันเวลาของชีวิตก็สั้นอย่างนั้น
บางครั้งพระพุทธองค์ก็ตรัสว่าชีวิตสั้นเหมือนรอยขีดบนผืนน้ำ เอาไม้ขีดบนพื้นน้ำ
แต่น้ำกลับรวมเข้าด้วยกันได้โดยเร็ว รอยขีดก็หายไป ชีวิตมันสั้นขนาดนี้
ภาพจาก : http://www.oknation.net
ท่ามกลางชีวิตที่สั้นขนาดนี้ ถ้าเราไม่บริหารชีวิตให้ดี ชั่วชีวิตของเราจะหนักไปทางหาเงิน
เราออกบ้านตั้งแต่เช้าตรู่ และกลับเข้าบ้านตอนสองทุ่มสามทุ่ม เราทำเพื่ออะไร บางคนตอบแบหรูมาก
ทำเพื่อมนุษยชาติ อาตมาว่ามันไม่ตรง เอาจริงๆ ว่าทำเพื่อมนุษยชาติหรือว่าทำเพื่อเงิน ก็ตอบให้ดูดีว่า
บังเอิญว่าเงินมันพ่วงอยู่กับมนุษยชาติ เหมือนคนอยากได้เชือกไปขโมยเชือกมา แล้วมีควายเดินตามมา
ควายมาจากไหน บังเอิญมันติดเชือกมา
ภาพ : http://www.vcharkarn.com
เพราะฉะนั้น วัน เวลาในชีวิตแสนสั้น ถ้าเราบริหารไม่เป็น ทั้งชีวิตจะทุ่มไปเพื่อรับใช้ความ
ต้องการของเรา ที่เราทำทุกวันนี้ก็คือ ความต้องการยืนถือธงอยู่ตรงหน้าแล้วให้เราวิ่งเข้าเส้นชัย
พอเราวิ่งตามความต้องการไปเรื่อยๆ ใกล้ถึงเส้นชัย ปรากฏว่าเส้นชัยนั้นมันย้ายที่ออกไปอีก
เส้นชัยแห่งความต้องการของมนุษย์อุปมาดั่งเส้นขอบฟ้า มนุษย์ที่ไม่รู้จักเส้นชัยของตัวเองก็คือ
มนุษย์ที่ขับรถไปเพื่อที่จะไปให้ถึงเส้นขอบฟ้า ขับไปเถอะ ขับอย่างไรก็ไม่ถึง
ฉะนั้น นักเศรษฐศาสตร์จึงรู้ทันว่าความต้องการของมนุษย์นั้นไร้ขีดจำกัด พอรู้จุดอ่อนอย่างนี้
นักเศรษฐศาสตร์แทนที่จะบอกให้มนุษย์รู้จักพอกลับส่งต่อให้นักการตลาดยั่วให้อยากและกระตุ้นให้ซื้อ
ถ้าเราจะวิ่งตามความต้องการซึ่งนักการตลาดสร้างขึ้นมาเรื่อยๆ ชีวิตนี้จะหมดไปกับการสนองความ
ต้องการทั้งๆ ที่ชีวิตก็แสนสั้น แต่เราก็เอาไปตอบสนองวัตถุประสงค์เดียวคือตอบสนองต่อความอยาก
ยิ่งตอบสนองก็ยิ่งค้นพบถึงความว่างเปล่า
ดังนั้น สัจธรรมชีวิตประการที่หนึ่ง เราต้องตระหนักว่าเราอยู่ไม่ถึงร้อยปี ชีวิตแสนสั้น
ดังนั้น ต้องรีบจัดการบริหารชีวิตทันที ในภาษาบาลีแบ่งช่วงชีวิตออกเป็นช่วงดังนี้คือ
๒๕ ปีแรก ศึกษาหาความรู้
๒๕ ปีที่สอง สร้างเนื้อสร้างตัวให้เป็นปึกแผ่นมั่นคง
๒๕ ปีที่สาม เพื่อสังคมอุดมสุข
๒๕ ปีสุดท้าย ทำวีซ่าเตรียมไปศึกษาต่อเมืองนอก
คำถามก็คือ มีใครบ้างแบ่งชีวิตเป็นแบบนี้
๒๕ ปีแรก เรียนมาแบบล้มลุกคลุกคลาน อยากได้เกรดดีแต่ขี้เกียจ
เรียนหนังสือจบมาเกรด ๒.๑ เศษๆ คาบเส้น
๒๕ ปีที่สอง ทำงานยังไม่เป็นโล้เป็นพาย ก็แต่งงานกันก้อนเกลือกิน
ถัดมาก็เทน้ำปลาใส่ถ้วยเอาข้าวเหนียวจิ้มน้ำปลากิน
อยู่มาจนจะเกษียณหนี้สินบาน
๒๕ ปีที่สาม ยังไม่ทันทำอะไรให้สังคมเลย เจ็บออดๆ แออๆ
บริจาคร่างกายให้โรงพยาบาล หมอก็ไม่อยากจะรับร่างกายคนขี้โรค
สุดท้าย ยังไม่ทันได้อยู่ถึง ๒๕ ปีสุดท้ายก็ตายเสียก่อนแล้ว
เห็นไหมว่าถ้าเราไม่บริหารจัดการชีวิตให้ดีจะทุกข์เหลือเกิน นี้คือสัจธรรมที่หนึ่ง
ชีวิตแสนสั้นเราต้องบริหาชีวิตให้ดี
อาจจะเป็นแค่เพียงวันเดียวที่ได้ใช้เวลากับเธอ
อาจเป็นนาทีเดียวได้ใกล้ชิดเธอ
ก็พร้อมจะแลกทุกอย่าง
ไม่เป็นไรถ้าในวันหนึ่งจะเหงาเดียวดายเดิมเดิมอีกครั้ง
ไม่เคยกลัวตัวเองจะต้องผิดหวัง
หากฉันได้อยู่กับเธอ
ต่อให้มันเป็นความรักที่ยังไม่ยาวนาน
ต่อให้มันเป็นเพียงฝันเพียงชั่วคืน
ตื่นพรุ่งนี้อาจไม่มีเธอชีวิตก็คุ้มแล้ว
แม้จะเสียอะไร แต่ใจบอกว่าพร้อม...รักเธอ
เมื่อมีเธอแค่เพียงคนเดียว
ที่ได้คบได้คุยถูกใจ
เมื่อเป็นเธอคนเดียวที่เสียงหัวใจ
บอกเลยว่ายอมทุกอย่าง
ไม่เป็นไรถ้าในวันนึง
จะเหงาเดียวดายเดิมเดิมอีกครั้ง
ไม่เคยกลัวตัวเองจะต้องผิดหวัง
แค่ขอได้อยู่กับเธอ
ไม่หวังอะไรสักอย่าง
แค่ขอยืนยันทำตามหัวใจ...รักเธอ
แค่ขอยืนยันทำตามหัวใจ...รักเธอ
ที่มา : วารสารสวนอักษรประโคนชัยพิทยาคม ฉบับ ปี 2552